ปัตตานี 20 ธ.ค. – ลูกเรืออินโดนีเซีย 8 คน เจอพายุคลื่นลมแรงซัดจนเรือเอียง ตัดสินใจสละเรือทิ้ง แล้วลอยคอกลางทะเลมาเกยตื้นที่หาดตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ชาวบ้านในพื้นที่เข้าช่วยเหลือ
เมื่อวานนี้ (19 ธ.ค.) ที่บริเวณหาดตะโละกาโปร์ ในพื้นที่หมู่ 3 ต.ตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี มีเรือขนาดใหญ่มาเกยตื้น โดยมีชาวบ้านในพื้นที่ต่างออกมาดูกันอย่างมากมาย และพบกับเรือยางที่กำลังลอยอยู่บริเวณนั้น จึงได้เข้าทำการช่วยเหลือ
นายอารีฟ สารอเอ็ง เจ้าพนักงานตรวจท่าชำนาญการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาปัตตานี หลังรับเเจ้งได้รีบเข้าช่วยเหลือ พบลูกเรือ 8 คน จากการตรวจสอบทราบว่า เรือที่เกยตื้นเป็นเรือกลเดินทะเล สัญชาติอินโดนีเชีย สอบถามเจ้าของเรือ จึงทราบว่าเรือลำดังกล่าวเดินทางจาก จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2565 เพื่อเดินทางไปยังเมืองเมรัก ประเทศอินโดนีเซีย โดยมีลูกเรือ 8 คน รวมกัปตัน
กระทั่งวันที่ 13 ธันวาคม ทางกัปตันได้ทิ้งสมอเรือบริเวณปากร่องน้ำนราธิวาส ห่างจากฝั่ง 6 ไมล์ทะเล เพื่อตรวจสอบสาเหตุที่ทำให้เรือเอียง ปรากฏว่า มีน้ำอยู่ในระวางที่ 1 บริเวณใกล้หัวเรือ ของทั้งหมด 3 ระวาง พบว่า น้ำจากระวาง 1 เข้าไปในระวาง 2 โดยมีอาการเอียงไปด้านเดียวทางกราบซ้ายของเรือ แต่ไม่สามารถใช้ปั๊มสูบน้ำท้องเรือได้ เนื่องจากใยแก้วไปอุดเครื่องสูบน้ำที่จะปั๊มน้ำออก จึงใช้วิธีถ่วงเรือโดยการบัลลาสต์ฝั่งกราบขวา เพื่อให้เรือตั้งตรง แต่ปรากฏว่าไม่สำเร็จ จึงใช้เครื่องสูบน้ำแบบจุ่ม
ระหว่างนั้นได้ประสานบริษัท เพื่อเดินทางไป จ.สงขลา เพื่อซ่อมแซม แต่ปรากฏว่า ขณะเดินทางมีคลื่นลมแรง จนทำให้เรือเอียงจาก 7 องศา ไปที่ 10 องศา จึงตัดสินใจนำเรือมาเกยตื้น บริเวณหาดตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี
จากนั้น นายเรือพบอีกว่า เรือเอียงเพิ่มขึ้นประมาณ 15 องศา จึงตัดสินใจแจ้งไปยังสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาปัตตานี ว่าเรือประสบปัญหา ก่อนที่จะสละเรือ เพราะคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกเรือ จากนั้นได้อาศัยเรือยางเป็นพาหนะเพื่อเอาตัวรอด และนำส่งลูกเรือทั้ง 8 คนได้โดยปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย