ตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริงไฟไหม้เรือนำเที่ยวหรูเสียหายหนัก

ภูเก็ต 11 ธ.ค. – เจ้าท่าภูเก็ตตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีเพลิงไหม้เรือหรูบริการนำเที่ยว เสียหายนับสิบล้านบาท โชคดีขณะเกิดเหตุไม่มีผู้โดยสารบนเรือ


กรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้เรือเฟอร์รี่หรูบริการนำเที่ยว ระหว่างเกาะภูเก็ตกับเกาะพีพี จ.กระบี่ ซึ่งจอดเทียบท่าบริเวณท่าเทียบเรือซีแองเจิล คลองท่าจีน ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ทราบชื่อคือ ซีแองเจิล บียอนด์ เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุมาจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากมีการต่อเชื่อมกระแสไฟฟ้ามาจากบนฝั่ง หรืออาจจะเกิดจากสาเหตุอื่น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังจากหน่วยงานต่างๆ ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ระดมกำลังช่วยกันดับเพลิงจนสำเร็จ โชคดีขณะเกิดเหตุไม่มีผู้โดยสารอยู่บนเรือ

นายณชพงศ ประนิตย์ เจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต กล่าวว่า เพื่อให้ทราบถึงสาเหตุและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น จึงมีคำสั่งสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจอบข้อเท็จจริง เพื่อสอบสวนหาสาเหตุและมาตรการป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ และมีอำนาจในการเชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำและเรียกพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาประกอบการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ตามเห็นสมควร อาทิ ผู้เห็นเหตุการณ์ เจ้าของเรือ โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน พร้อมกันนี้ได้มีคำสั่งงดใช้เรือ และให้นำเรือขึ้นคาน เพื่อตรวจสอบ คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายใน 1-2 วัน เพื่อจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป


นายณชพงศ กล่าวว่า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีกจะเชิญผู้ประกอบการ ผู้ควบคุมเรือ และคนประจำเรือนำเที่ยวหรือเรือโดยสารต่างๆ มาซักซ้อมแนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันเหตุดังกล่าวไม่ให้เกิดซ้ำ และลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้น ตลอดจนภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว ซึ่งครั้งนี้นับเป็นความโชคดีที่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ขณะที่นายนิกร ต่อไมตรี เจ้าของเรือลำที่เสียหาย กล่าวว่า ในช่วงเกิดเหตุท่าเรือได้เปิดให้บริการแล้ว และพนักงานที่ทำความสะอาดเห็นมีควันไฟมาจากห้องกัปตันเรือ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นอุบัติเหตุ ไม่เกี่ยวกับโครงสร้างของเรือแต่อย่างใด ความเสียหายส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นบริเวณห้องโดยสารชั้นบน ซึ่งมีเบาะรองนั่งและเสื้อชูชีพ ขณะเกิดเหตุไม่มีผู้โดยสารอยู่บนเรือ ส่วนความเสียหายคงต้องรอการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก