23 พ.ย. – จ.ภูเก็ต เอาจริงจัดระเบียบถนนบางลา ป่าตอง วอล์กกิ้งสตรีทชื่อดัง ห้ามสามล้อขายอาหาร ห้ามลังโฟมขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำทะเบียนประวัติเด็กเชียร์แขก-กลุ่มหลากหลายทางเพศ สร้างภาพลักษณ์ด้านท่องเที่ยว
นายสมปราชญ์ ปราบสงคราม ปลัดจังหวัดภูเก็ต ประชุมจัดระเบียบถนนบางลา ป่าตอง อ.กะทู้ มีภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือแนวทาง สืบเนื่องจากทางชมรมผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตอง ขอหารือกับผู้เกี่ยวข้องในการจัดระเบียบถนนบางลา ป่าตอง วอล์กคกิ้งสตรีทชื่อดัง เพื่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวช่วงฤดูการท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่น โดยหยิบยก 6 ประเด็น เข้าหารือ อาทิ การจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือลังโฟมสีขาว ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนเป็นลังใส่น้ำแข็งหลากสีสัน และมีโต๊ะเก้าอี้นั่งอยู่ริมถนน บริการนักท่องเที่ยว สาเหตุที่ไม่ให้จำหน่าย เนื่องจากไปกระทบกลุ่มผู้ประกอบการที่ประกอบธุรกิจอย่างถูกต้อง และเช่าที่ค่อนข้างแพง ปัญหาหลักคือเรื่องความสะอาด และผู้มีความหลากหลายทางเพศกับนักท่องเที่ยวที่ไม่สามารถสืบเสาะที่มาได้ ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าไม่ควรให้มีอย่างเด็ดขาด ประเด็นเรื่องรถเข็นเข้ามาจำหน่ายอาหาร ซึ่งในอดีตเคยมีข้อตกลงร่วมกับให้สามารถเข้ามาทำมาหากินกันได้หลังเกิดผลกระทบโควิด-19 แต่ปัจจุบันมีจำนวนมากจนไม่สามารถควบคุมดูแลได้ และอาจก่อให้เกิดอันตรายจากถังแก๊สที่นำมาใช้ปรุงอาหาร ควันจากการปรุงอาหาร จึงขอให้มีการจัดหาพื้นที่ที่เหมาะสมโดยไม่อนุญาตให้มาขายในถนนบางลา
ส่วนปัญหาเด็กเชียร์แขก จะให้มีต่อไปหรือไม่ หากให้มีต่อต้องกำหนดกรอบกติกา ส่วนผู้มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 100 คน ตามจุดต่างๆ และทั่วทั้งซอย จะกำหนดให้ทำประวัติป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เกี่ยวกับการตบทรัพย์หรือลักทรัพย์ เนื่องจากส่วนใหญ่มาจากต่างจังหวัด เช่น พัทยา กรุงเทพฯ เป็นต้น เมื่อเกิดปัญหาก็จะตามตัวได้
ตำรวจท่องเที่ยวพัทยา กวดขันป้องกันเหตุร้าย
ส่วนที่ถนนวอล์กกิ้งสตรีท พัทยา ตำรวจท่องเที่ยว พร้อมอาสาสมัครทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ร่วมกันกวดขันกรณีขายบริการตามชายหาดเมืองพัทยา พร้อมประชาสัมพันธ์นักท่องเที่ยวระมัดระวังทรัพย์สินป้องกันการถูกฉกชิงวิ่งราว ทันทีที่กลุ่มคนเหล่านี้เห็นเจ้าหน้าที่ต่างพากันเดินหนีลงหาด จึงเชิญตัวทั้ง 36 มาทำประวัติ การกวดขันครั้งนี้เพื่อป้องกันนักท่องเที่ยวชายไทยและชาวต่างชาติถูกก่อเหตุลักทรัพย์ ถูกชิงทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย เพราะช่วงนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากในช่วงไฮซีซั่น และเทศกาลต่างๆ . – สำนักข่าวไทย
