ชลบุรี 24 ต.ค. – ผู้บริหารผับดังเมืองพัทยา ตั้งโต๊ะแถลงขอโทษ หลังปะทะคารมกับเจ้าหน้าที่เข้าตรวจผับ อ้างเพราะความเมา ด้านตำรวจเตรียมเสนอปิดผับ 5 ปี และดำเนินคดีกับเจ้าของตัวจริง-หุ้นส่วน
จากกรณีผับดังเมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันจังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอบางละมุง เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจังหวัดชลบุรี และตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เข้าตรวจสอบ แต่ปรากฏว่ามีการปะทะคารมระหว่างเจ้าหน้าที่กับเจ้าของผับ ตามที่ปรากฏภาพในคลิป ส่วนนักเที่ยวกว่า 200 คน พากันแตกฮือ ไม่ให้ตรวจปัสสาวะ และกรูกันวิ่งหนีออกจากผับ ตำรวจยึดห่อพลาสติกใสบรรจุสิ่งคล้ายสารเสพติดเกลื่อนพื้น
ก่อนควบคุมคนดูแลผับ แจ้ง 4 ข้อหาหนัก คือ จำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต, จำหน่ายสุราเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด, เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการพกพาอาวุธ วัตถุระเบิด หรือยาเสพติด เข้าไปสถานที่ของตน โดยส่งตัวให้ สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้านนายนิติพัฒน์ อายุ 45 ปี และนายแบ้งค์ อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นผู้บริหารผับดังกล่าว และเป็นชายที่ปรากฏในคลิป ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า สิ่งที่พูดไปในคลิปในวันเกิดเหตุ เพียงเพราะความเมา
วันนี้ (24 ต.ค.65) เวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุม สภ.เมืองพัทยา พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. (ปป.) ให้เดินทางมาคุมสำนวนสอบสวนคดีผับดังกล่าว พร้อมทั้งมอบแนวทางการปฏิบัติงานให้ตำรวจท่องที่ โดยมีการประชุมร่วมกับรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าว กรณีที่มีชายแสดงพฤติกรรมเอะอะโวยวายเจ้าหน้าที่ ซึ่งทำให้สะเทือนถึงความเชื่อมั่นของผู้บังคับใช้กฎหมาย ผบ.ตร. และรอง ผบ.ตร. จึงกำชับสั่งการให้มีการดำเนินคดีกับทุกฝ่าย เบื้องต้นพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้ดำเนินคดีกับนายมนู อายุ 37 ปี ผู้ดูแลผับดังกล่าว ในข้อหากระทำผิด พ.ร.บ.สถานบันเทิง และ พ.ร.บ.จำหน่ายสุรา แต่เมื่อดูคลิปในวันเกิดเหตุอย่างละเอียด อาจจะต้องมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม อีกทั้งเตรียมประสานเมืองพัทยา เพื่อเข้าตรวจสอบเรื่อง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ว่ามีการขออนุญาตใช้อาคารถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ นอกจากนี้ เตรียมสอบสวนเจ้าของผับตัวจริง ซึ่งจากแนวทางการสอบสวนทราบว่า คือ “กู๋เอี๋ยว” ที่มีประวัติเกี่ยวข้องคดีฟอกเงินและยาเสพติด รวมถึงหุ้นส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้ ผกก.สภ.เมืองพัทยา รวบรวมสำนวนการสอบสวนทั้งหมด และเร่งทำเรื่องเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี สั่งปิดสถานบันเทิงดังกล่าว 5 ปี ตามคำสั่ง คสช. 22/2558 ส่วนยาเสพติดจำนวนมากที่ตกอยู่ในผับ ให้ร่วมกับกองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบหารอยนิ้วมือแฝงและดีเอ็นเอ เพื่อพิสูจน์ทราบว่าใครเป็นเจ้าของ ส่วนกรณีชายที่ปรากฏในคลิป พูดพาดพิงถึงผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ให้เป็นเรื่องของผู้ที่ถูกพาดพิง ใครที่เสียหายก็ต้องไปดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย
ส่วนประเด็นสุดท้ายที่มีกระแสดราม่าเรื่องนักเที่ยวกว่า 200 คน ไม่ยอมให้ตรวจปัสสาวะ พากันแตกฮือออกจากผับ เรื่องนี้มีการดูคลิปกันหลายรอบ พบว่ามีชายฉกรรจ์ 3 คน พยายามปลุกปั่นให้นักเที่ยวลุกฮือ หนีออกจากผับ ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ในประเด็นนี้ ตำรวจเตรียมดำเนินคดีกับชายทั้ง 3 คนที่ปรากฏในคลิป ในข้อกล่าวหา “ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่” – สำนักข่าวไทย