ราชบุรี 23 ส.ค.- คดี ส.ต.ท.หญิง ทารุณอดีตทหารหญิงรับใช้หญิง ช่วงบ่ายวันนี้ “กัน จอมพลัง” จะพาผู้เสียหายไปแจ้งความดำเนินคดีกับน้องชายนักการเมืองท้องถิ่นใน จ.ราชบุรี ฐานร่วมลงมือทำร้ายด้วย โดยทำไปเพราะกลัว ส.ต.ท.หญิง จะเจ็บมือ รวมถึงร่วมส่งไลน์ไปขู่ฆ่าผู้เสียหาย
มีรายงานว่า ช่วงบ่ายวันนี้ “กัน จอมพลัง” จะพาทหารหญิงรับใช้ ผู้เสียหายในคดีนี้ ไปแจ้งความดำเนินคดีกับน้องชายนักการเมืองท้องถิ่นใน จ.ราชบุรี ที่ สภ.ชะอำ กรณีเป็นคนร่วมลงมือทำร้ายผู้เสียหาย ซึ่งมีข้อมูลที่น่าตกใจว่าน้องชายนักการเมืองท้องถิ่นรายนี้ทำไปเพราะกลัว ส.ต.ท.หญิง จะเจ็บมือ รวมถึงร่วมส่งไลน์ไปขู่ฆ่าผู้เสียหายด้วย ส่วนประเด็นเรื่องใบรับรองแพทย์ที่ ส.ต.ท.หญิง นำมายื่นให้ตำรวจ และอ้างว่าป่วยคุมอารมณ์ไม่ได้ในช่วง 2 ปีที่ทำร้ายทหารหญิงรับใช้ “กัน จอมพลัง” ย้ำว่าอยากให้แพทยสภาเข้ามาตรวจสอบความโปร่งใส เพราะนอกจากใบรับรองแพทย์ไม่ได้ระบุชื่อโรคที่ป่วย ยังออกในวันที่ 19 สิงหาคม ซึ่งเรียกว่าก่อนวันเข้ามอบตัวเพียง 1 วันเท่านั้น (มอบตัว 20 ส.ค.)
เหยื่อแฉซ้ำ ส.ต.ท.หญิง เคยอ้างป่วยซึมเศร้า-ขู่ฆ่า
ขณะที่ผู้เสียหายยอมรับทันทีที่รู้ว่าศาลไม่ให้ประกันตัว ส.ต.ท.หญิง ที่เป็นนายจ้าง รู้สึกสบายใจขึ้น แม้ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง พร้อมให้ข้อมูลกับนักข่าวเพิ่มด้วยว่า ก่อนหน้านี้ ส.ต.ท.หญิง เล่าให้ฟังว่า เคยไปรักษาโรคซึมเศร้า แต่ตั้งแต่รู้จักและอยู่กันมาตลอดเวลาหลายปี ไม่เห็นเคยไปรักษาโรคดังกล่าวแม้แต่ครั้งเดียว นอกจากนี้ ยังอธิบายคำถามที่สังคมคาใจ ว่าทำไมถูกทำร้ายไม่สู้กลับ โดยเธอยอมรับว่ารู้สึกกลัวอิทธิพลที่นายจ้างข่มขู่ เพราะเขาเคยพูดว่า จะไม่ทำเอง แต่จะสั่งให้คนอื่นทำ รวมถึงบอกด้วยว่า หากหนีก็จะตามไปหาพ่อแม่
มาถึงประเด็นการเข้ารับราชการของสิบตำรวจโทหญิงรายนี้ ที่สังคมตั้งข้อสังเกตอย่างกว้างขวางว่าอายุราชการ และอายุเธอดูสวนทางกัน เพราะหากเข้ารับราชการในปี 2560 ตามที่ พล.ต.ต.อุดร วงษ์ชื่น ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 1 ต้นสังกัดในขณะนี้ ให้ข้อมูล และอายุปัจจุบันคือจะครบ 44 ปี ในเดือนหน้า ความเป็นไปได้ดูไม่สอดคล้อง เพราะการเข้ารับราชการตำรวจกำหนดให้รับเฉพาะคนที่อายุไม่เกิน 35 ปี
อย่างไรก็ตาม เพื่อความเป็นสำนักข่าวไทยสอบถามไปยังกองบัญชาการศึกษา พบว่าตามระเบียบคนที่อายุเกิน 35 ปี ไม่เข้าหลักเกณฑ์ในการสอบเข้ารับราชการตำรวจ แต่มีเงื่อนไขพิเศษบางประการที่ทำได้ เช่น เป็นบุตรของอดีตตำรวจที่เสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่
ส่วนเส้นทางอาชีพของ ส.ต.ท.หญิง คือ ตั้งแต่เริ่มรับราชการปี 2560 ได้โยกย้ายมาสังกัดกองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งเป็นการแต่งตั้งโยกย้ายมาตามวงรอบปกติ โดยในครั้งนั้นมีการโยกย้ายมากกว่า 100 คน หลังจากนั้นถูกย้ายให้ไปช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งลักษณะงานเป็นการทำงานด้านการข่าว และที่ผ่านมาไม่เคยมีรายงานว่ามีพฤติการณ์ที่ส่อไปในทางจิตเวช หรือบกพร่องในหน้าที่ แต่ยอมรับตามระเบียบไม่ว่าตำรวจยศใด ไม่สามารถมีทหารรับใช้ได้
และล่าสุด พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รอง ผอ.รักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับทีมข่าวสำนักข่าวไทย ยืนยันว่า กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า มีคำสั่งให้ ส.ต.ท.หญิงรายนี้ พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการไปตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม เนื่องจากการสอบสวนพบว่ามีความผิดจริงตามที่ปรากฏในข่าว ส่วนเรื่องที่ ส.ต.ท.หญิง มาปฏิบัติงานในพื้นที่จริงหรือไม่ เพราะข้อมูลจากผู้เสียหายและคลิปที่ถูกเผยแพร่ออกมา พบว่าเธออาศัยอยู่ที่ราชบุรี กำลังเร่งตรวจสอบไปยังหน่วยรับบรรจุในพื้นที่ ยืนยันที่ผ่านมาการรับคนเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนใต้ มีระบบการคัดเลือกที่มาจากต้นสังกัด และมีอัตราการจัดกำลังพลเฉพาะกิจที่มาช่วยราชการในพื้นที่กว่า 50,000 คน ทั้งพลเรือน ทหาร และตำรวจ.-สำนักข่าวไทย