fbpx

นายกฯ สั่งคุมเข้มขนส่ง-จราจร เพิ่มเที่ยวรถรับคนกลับจากภูมิลำเนา

กรุงเทพฯ 3 ม.ค. – โฆษกรัฐบาล เผยนายกฯ ห่วงใยประชาชนเดินทางกลับจากภูมิลำเนา สั่งคุมเข้มขนส่ง/จราจร เพิ่มเที่ยวบริการรถโดยสารสาธารณะให้เพียงพอ ย้ำทุกฝ่ายต้องไม่ประมาท ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด “สวมหมวกนิรภัย ใส่แมสก์ เมาไม่ขับ” ช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ควบคู่ป้องกันโควิด-19


นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับ หลังจากหมดวันหยุดเทศกาลปีใหม่ ย้ำผู้ขับขี่รถยนต์ ยานพาหนะต่างๆ เคารพและปฏิบัติตามกฎจราจร รวมทั้งงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างขับขี่ยานพาหนะ หรือกรณีเมาไม่ควรขับรถ ขอให้มีน้ำใจเอื้อเฟื้อแบ่งปันซึ่งกันและกัน สั่งการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ ในส่วนของการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ ต้องไม่ประมาท สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ วัดอุณหภูมิก่อนขึ้นรถโดยสารทุกครั้ง โดยกระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สำหรับการขนส่งสาธารณะทุกประเภท จัดให้มีการเว้นระยะห่าง และการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ซึ่งกรมการขนส่งทางบกได้ปรับปรุงมาตรการปฏิบัติเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยให้ผู้ประกอบการขนส่งมีมาตรการคัดกรองผู้โดยสารตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ตรวจสอบการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา 100% จัดเตรียมแอลกอฮอล์เจลสำหรับทำความสะอาดมือ เพิ่มความถี่ในการทำสะอาดพื้นที่สาธารณะตลอดทั้งวัน ให้พนักงานขับรถ ผู้บริการ และผู้โดยสาร ลงทะเบียนเข้าใช้แพลตฟอร์ม “SAVE THAI” และเช็กอิน-เช็กเอาต์ “ไทยชนะ” ทุกครั้งในการเดินทาง ดำเนินการตรวจสอบรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท ทั้งที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร และจุดตรวจคัดกรองในพื้นที่ ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ยังได้เตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางกลับจากภูมิลำเนา จัดรถโดยสารให้บริการ วันละกว่า 3,700 เที่ยว เพื่อรองรับการเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ของประชาชน โดยคาดว่าจะมีประชาชนทยอยเดินทางกลับประมาณวันละกว่า 50,000 คน นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือไปยัง ขสมก. จัดรถรับผู้โดยสาร บริเวณชานชาลาขาเข้า เพื่อระบายผู้โดยสารไปยังสถานีรถไฟฟ้า BTS และเส้นทางอื่นๆ ประสาน จส.100 และ สวพ.91 ประชาสัมพันธ์แจ้งรถแท็กซี่เข้ามารับผู้โดยสาร บริเวณชานชาลาขาเข้า สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) ตลอดจนกำชับให้ตรวจสภาพความพร้อมของรถโดยสารและพนักงานขับรถก่อนออกเดินทาง ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ของสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด


“นายกรัฐมนตรีฝากความห่วงใยผู้ขับขี่ยานยนต์ทุกประเภท ให้มีสติ ไม่ขับรถเร็ว เพื่อเดินทางให้ถึงที่หมายด้วยความปลอดภัย ร่วมรักษาวินัยจราจร สวมหมวกนิรภัย ใส่แมสก์ เมาไม่ขับ ช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน และที่สำคัญขอให้ทุกคนป้องกันตัวเองด้วยการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขแบบครอบจักรวาล Universal Prevention เพื่อช่วยกันลดความเสี่ยงในการแพร่/รับเชื้อโควิด-19 ด้วย” นายธนกร กล่าว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

วัยรุ่นเชียงใหม่ ตะลุมบอนงานไม้ค้ำ จ.เชียงใหม่

กลุ่มวัยรุ่นตะลุมบอนชกต่อยกันในงานแห่ไม้ค้ำโพธิ์ จ.เชียงใหม่ ขณะที่ผู้จัดงานติดป้ายเตือนทะเลาะวิวาทในงาน จับได้ปรับ 75,000 มอบให้คนถ่ายคลิป 5,000

ล่า “จัก เขาบายศรี” ถ้าต่อสู้อาจจำเป็นต้องวิสามัญ

ตำรวจปิดล้อมตรวจค้นหลายจุดทั่วเมืองชลบุรี ล่าตัว “จัก เขาบายศรี” มือกราดยิงวันไหล ย่านบ่อนไก่ จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต หากเจอตัวแล้วยิงต่อสู้ อาจจำเป็นต้องวิสามัญ วอนญาติรีบประสานพามามอบตัว

ข่าวแนะนำ

ติดตามโครงการทางแยกต่างระดับ แยกท่าเรือ จ.ภูเก็ต

จ.ภูเก็ต 19 เม.ย.-นายกฯ ติดตามโครงการทางแยกต่างระดับ แยกท่าเรือ จ.ภูเก็ต พร้อมสำรวจการจราจร วงเวียนอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรีสุนทร

อิสราเอลแจ้งสหรัฐล่วงหน้า เรื่องเอาคืนอิหร่านวันนี้

อิสราเอลได้แจ้งสหรัฐล่วงหน้าเรื่องจะโจมตีเอาคืนอิหร่านในวันนี้ แต่สหรัฐไม่ได้ให้ความเห็นชอบกับการตัดสินใจของอิสราเอล

ราคาทองคำ-น้ำมันผันผวน หุ้นไทยร่วงหลังมีข่าว อิสราเอลบุกอิหร่าน

กรุงเทพฯ 19  เม.ย.-ราคาทองคำ-น้ำมันหันผวนหนักหลังมีข่าว อิสราเอลบุกอิหร่าน หุ้นไทยร่วงกว่า 20 จุด โบรกเกอร์แนะถือเงินสด สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ในช่วงเช้าวันนี้ ราคาทองคำ-น้ำมันเอเชียขยับขึ้นแรง โดยราคาน้ำมันดิบขึ้นถึง 3 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ราคาทองคำในเอเชีย ขยับขึ้นร้อยละ 1.6 เป็น 2,414.69 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ตลาดกังวลว่าอิสราเอลจะโจมตีแก้แค้นอิหร่าน เพราะนายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประกาศเมื่อต้นสัปดาห์ว่า จะแก้แค้นหลังจากถูกอิหร่านโจมตีหลายระลอก  ในขณะที่สำนักข่าวต่างประเทศ ABC News รายงานว่า อิสราเอลได้ยิงขีปนาวุธโจมตีดินแดนอิหร่านในช่วงเช้าวันนี้ (19 เม.ย.) โดยรายงานดังกล่าวมีขึ้นไม่นานหลังจากแหล่งข่าวท้องถิ่นระบุว่า เกิดเหตุระเบิดขึ้นในหลายพื้นที่ได้แก่ในเมืองอิสฟาฮานทางตอนกลางของอิหร่าน, ในเขตอัสซุวัยดาอ์ทางตอนใต้ของซีเรีย, ในกรุงแบกแดด และในเขตบาบิลของอิรักในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่สื่ออิหร่านรายงานว่า ได้ยินเสียงระเบิดที่ท่าอากาศยานในเมืองอิสฟาฮาน แต่ยังไม่รู้สาเหตุ ด้านราคาทองคำในไทยประกาศโดยสมาคมผู้ค้าทองคำเปิดตลาดพุ่งขึ้นทันที 550 บาท/บาททองคำ ทองแท่งขายออก บาทละ 42,000 บาท  รูปพรรณ ขายออก 42,200 บาท คำนวณจากทองเอเชีย 2,409 ดอลลาร์/ออนซ์ เงินบาท 36.86 […]