นายกฯ เปิดมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ

พารากอน 22 ธ.ค.-นายกรัฐมนตรี เปิดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 18 ย้ำประชาชนมีสติอยู่กับโควิดให้ปลอดภัย เหน็บ คนวิจารณ์รัฐบาลไม่ทำ แต่คนทำงานไม่พูด ขณะที่ชายสูงอายุ มอบเสื้อให้ “บิ๊กตู่” ซัดรัฐบาล ไม่ใช้สมุนไพร


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ และการประชุมวิชาการประจำปีการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านและการแพทย์ทางเลือกแห่งชาติครั้งที่ 18 พร้อมมอบประกาศเกียรติคุณและโล่รางวัล โดยแสดงความยินดีกับความสำเร็จในการที่รัฐบาล สนับสนุนเรื่องการปลูกพืช ที่เพิ่มมูลค่าได้ อย่างเช่นกัญชงและกัญชา เพราะเป็นนโยบายที่รัฐบาลขับเคลื่อน



นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษสมุนไพรไทย สร้างเศรษฐกิจไทย ตอนหนึ่งว่า วันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่ได้เดินหน้าทำงาน และมีความก้าวหน้าตามลำดับ ซึ่งการจัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งนี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่ทุกภาคส่วนทั้งภาคประชาชน ประชาสังคมต่างๆและธุรกิจ ได้มีส่วนร่วมกัน ในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พร้อมร่วมกันขับเคลื่อนพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรมต่างๆ เพื่อต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสมุนไพรไทยที่ถือเป็นพืชเศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่ง และยังเป็นพืชสุขภาพที่รัฐบาลให้ความสำคัญ รวมถึงได้มีนโยบายส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาปลูกพืชสมุนไพรที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ไปพร้อมกับการยกระดับอุตสาหกรรมสมุนไพรไทยให้มีคุณภาพ และมีมาตรฐานสูงสร้างความเชื่อมั่นต่อผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยในระดับสากลเพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เราควรจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง


นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ประเทศไทยมีความหลากหลายทางชีวภาพ และมีศักยภาพมากมาย มีทั้งวิกฤตและโอกาส มีทั้งผลดีและผลเสีย ต้องไปศึกษา ใช้งานอย่างมีสติ แม้กระทั่งในการดำรงชีวิตทุกวันนี้ ตนเป็นห่วงสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ขอย้ำว่าการตัดสินใจทุกอย่างต้องทำบนพื้นฐานของความเสี่ยง ซึ่งต้องอยู่ในความสมดุล ทางเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพ ทุกคนต้องช่วยกัน ถือเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ช่วยกัน หรือไม่มีสติก็จะแก้ไขปัญหาอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง เพราะทุกปัญหาล้วนมีผลกระทบส่งถึงกันทั้งสิ้น



“สิ่งสำคัญที่สุดคือประเทศไทยต้องมีเสถียรภาพ ความสงบสุข สันติ ปราศจากความขัดแย้ง ผมเองพยายามรักษาตรงนี้ไว้ให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ เพื่อให้สู่จุดมุ่งหมายที่กล่าวไว้สักครู่ เมื่อเราอยากได้อะไร ต้องทำสิ่งที่เราต้องการทำนั้นให้สำเร็จ ทุกคนต้องมีส่วนร่วม มีสติ มีความยั้งคิด ในการดำรงชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การเข้าใจเข้าถึงและพัฒนา เสาหลักอยู่ในหัวใจคนไทยทุกคนคือชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ หากทำลายสิ่งที่ดีงามของเรามาตั้งแต่อดีต ไม่มีอะไรจะดีขึ้นกว่าเดิม เพราะทุกอย่างสร้างมา เกิดมาด้วยประวัติศาสตร์ทั้งสิ้น ประวัติศาสตร์อะไรไม่ดีก็อย่าทำอีกเท่านั้นเอง อะไรเป็นประวัติศาสตร์ที่ดีก็มีระยะต่อไป อะไรที่ดีงามก็รักษาไว้สืบสานรักษาและต่อยอด ผมคิดอย่างนี้ ฝากพวกเราทุกคนช่วยกันคิดด้วย ภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม ไม่เช่นนั้นจะทิ้งโอกาสที่มีอยู่ไปทั้งหมด โอกาสทุกอย่างจะกลายเป็นวิกฤต ขอให้สงสารประชาชนเถอะ ประชาชนยังลำบากอยู่ ความยากจน ค่าครองชีพ ปัญหาหนี้สิน หลายเรื่องรัฐบาลพยายามทำทุกอย่าง และที่ผ่านมาอาจจะยาก อาจจะช้า แต่ก็เริ่มลงมือทำมามากแล้ว หลายอย่างประสบความสำเร็จไปแล้ว ถ้าง่ายคงแก้ไปได้นานแล้ว” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่ต้องการให้ปัญหาเหล่านี้ทับซ้อน ซับซ้อนลึกลงไปอีกเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาความยากจน วันนี้ได้ตั้งคณะกรรมการทำงานชื่อว่าคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความยากจนแบบองค์รวมแล้ว ซึ่งจะลงไปดูในทุกพื้นที่ว่ามีความยากลำบากอะไรอย่างไร การประกอบอาชีพจะต้องปรับเปลี่ยนหรือไม่ เพราะฉะนั้นการใช้จ่ายงบประมาณปี 2556 ตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรเพื่อจะคุ้มค่าขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ ต้องต่อเนื่องยืนยาว ไม่ใช่ทำเป็นจ๊อบๆ แล้วจบไป ต้องตอบโจทย์ปัญหาในภาพรวมให้ได้ นี่คือยุทธศาสตร์ชาติ การพัฒนาประเทศของเราต้องกินแบบนี้ ต้องคิดแบบสร้างสรรค์ เพราะไม่มีอะไรที่ทุกคนจะยอมรับได้


นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือเรื่องสุขภาพ รัฐบาล กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานหนักอย่างนี้เหนื่อยมา 2 ปีกว่าแล้ว จนสถานการณ์อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ การดูแลผู้เจ็บป่วยเข้าสู่การรักษาก็ถือว่าทำได้ดีดีมากๆในโลก แต่อย่างไรก็ตามเราประมาทไม่ได้ในทุกเรื่อง ขอให้มีสติ และป้องกันตัวเองให้ดีที่สุด ช่วยกันป้องกันคนอื่นเขาด้วย เพื่อลดภาระของเจ้าหน้าที่ ที่ทำงานหนักกว่า 2 ปีกว่า ทำงานไม่ได้บ่นไม่ได้พูด ไม่ได้ว่าใคร แต่หลายคนไม่ได้ทำ แต่พูด ทำให้เราทำงานได้ยากขึ้น ในทุกวันนี้จึงขอให้ทุกคนไปใคร่ครวญ ให้ดีมีสติ ทบทวนคิดดูว่าประเทศไทยมีอะไรที่ก้าวหน้าไปแล้วบ้างหลายอย่างอาจจะมองไม่เห็น



นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ขอให้ทุกคนไปใคร่ครวญให้ดี มีสติ ทบทวน คิดดูว่าประเทศไทยมีอะไรที่ก้าวหน้าไปแล้วบ้าง หลายอย่างอาจจะมองไม่เห็น แม้ว่าจะใช้งบประมาณมากขึ้นเรื่อยๆ แต่จะทำอย่างไรให้ประเทศไทยมีรายได้สูงขึ้น เพิ่ม GDP ของประเทศไทยได้มากขึ้น เพื่อนำเงินเหล่านี้มาพัฒนาประเทศ ทั้งการลงทุน ดูแลผู้มีรายได้น้อย ซึ่งใช้เงินมากขึ้นตามลำดับมีทุกปีหากแก้ไขปัญหาความยากจนไม่ได้ ก็จะใช้งบประมาณส่วนนี้เกินไปเรื่อยๆ รัฐบาลจึงมุ่งมั่นที่จะดูแลทุกคน แต่จะต้องมีงบประมาณที่เพียงพอ วันนี้เรามาสร้างมูลค่าเพิ่มของเราด้วยสมุนไพร เพื่อให้มีรายได้เข้าประเทศอีกจำนวนมาก รัฐบาลมีรายได้จากการส่งออกและเก็บภาษีเท่านั้น รัฐบาลพยายามลดปัญหาการขาดดุลในการจัดทำงบประมาณรายปี ทั้งนี้ทุกคนต้องเข้าใจว่าทุกอย่างต้องเริ่มต้น เมื่อเริ่มต้นก็ต้องมีปัญหา ต้องฟังไปสั่งไปให้ได้ ต้องมีแผนเผชิญเหตุ ในการทำงาน หรือว่าอะไรก็ตาม แผนรับมือ แผนเผชิญเหตุ แผนฉุกเฉิน เตรียมไว้ทั้งหมด ที่ผ่านมาเราทำได้อย่างไร หากเกิดขึ้นอีกจะยอมรับได้หรือไม่ ทุกคนต้องช่วยกันคิด หากติไปทั้งหมด ก็จะทำอะไรไม่ได้เลย ติดไปหมดทุกเรื่อง รัฐบาลจำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ พร้อมร่วมมือกันทุกฝ่ายไม่ได้ปล่อยให้เป็นภาระของใคร ต้องรับผิดชอบร่วมกัน เดินหน้าไปด้วยกัน เพื่อพลิกฟื้นประเทศไทยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วและดีขึ้นกว่าเดิมโดยเร็วที่สุด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมบูธ ช่วงหนึ่งได้มีชายสูงอายุนำเสื้อมามอบให้นายกรัฐมนตรี โดยมีข้อความว่า สมุนไพรไทยในครัวเรือน ฆ่าโควิดได้ทุกสายพันธุ์ 5 วันเท่านั้น รัฐไม่เลือกใช้ เวร! ซึ่ง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “แรงไปนะ รัฐก็ใช้ อะไรใช้ประโยชน์ได้ก็ใช้ไป จะมาบอกว่ารับไม่ได้ใช้ได้อย่างไร” ทั้งนี้เป็นที่สังเกตว่า นายกรัฐมนตรีพยายามระงับอารมณ์ ก่อนที่จะเดินชมนิทรรศการอื่นๆต่อ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” เรียกประชุม ครม. วาระพิเศษ

ทำเนียบ 1 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เรียกประชุม ครม. วาระพิเศษ เร่งพิจารณารับรองร่างถ้อยแถลงภาษีสหรัฐ 19% ให้มีผลอย่างเป็นทางการ พร้อมหารือหลักเกณฑ์งบฯ ฉุกเฉินเยียวยาเพิ่มเติมให้เจ้าหน้าที่รัฐ-ประชาชน เหตุชายแดนไทย-กัมพูชา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (1 ส.ค.) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เชิญประชุม ครม. นัดพิเศษ เพื่อพิจารณาเรื่องของอัตราภาษีตอบโต้จากสหรัฐอเมริกา โดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ที่ ห้อง 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล และการประชุมทางสื่ออิเลคทรอนิกส์ นายภูมิธรรม กล่าวว่า “เมื่อเช้านี้ประเทศไทยได้รับแจ้งจาก สหรัฐฯว่า สินค้าจากไทยที่ส่งไปจำหน่ายในสหรัฐฯจะถูกเรียกเก็บภาษี 19% ซึ่งเท่ากับหลายๆประเทศในภูมิภาค ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่จะพอทำให้เรายังคงแข่งขันได้ โดยในกระบวนการเจรจานี้ มีขั้นตอนสำคัญคือรัฐบาลไทยต้อง ออกถ้อยแถลงร่วมไทย-สหรัฐฯ ซึ่งคณะทำงาน โดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง […]

คณะทูต-ผู้ช่วยทูตทหาร-สื่อ ถึงอุบลฯ ลุยพิสูจน์ข้อเท็จจริงชายแดน

ทำเนียบ 1 ส.ค.- โฆษกรัฐบาล เผยคณะทูต-ผู้ช่วยทูตทหาร-สื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ เดินทางถึงอุบลราชธานี เตรียมลงพื้นที่พิสูจน์ข้อเท็จจริงชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อเวลา 09.25 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า คณะผู้แทนทางการทูต ผู้ช่วยทูตทหารจาก 23 ประเทศ พร้อมด้วยสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศรวมกว่า 100 คน ได้เดินทางถึงจังหวัดอุบลราชธานีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อเตรียมลงพื้นที่แนวชายแดนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย–กัมพูชา การเดินทางในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและ ความโปร่งใสของรัฐบาลไทย ที่พร้อมเปิดพื้นที่ให้คณะทูตต่างประเทศและสื่อมวลชนได้เห็น ข้อเท็จจริงด้วยตนเอง และรายงานต่อประชาคมโลกอย่างเป็นธรรม โดยไม่ปิดบังหรือบิดเบือน คณะทูตต่างประเทศที่ลงพื้นที่ในวันนี้ ประกอบด้วย เอกอัครราชทูต 3 ประเทศ ได้แก่ บรูไน ญี่ปุ่น และเมียนมา อุปทูต 3 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย สปป.ลาว และอินโดนีเซีย ผู้แทนทางการทูตระดับต่าง ๆ จาก 5 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ […]

สหรัฐประกาศเก็บภาษีต่างตอบแทนไทย 19%

1 ส.ค. – ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศเก็บภาษีต่างตอบแทนไทย 19% กัมพูชา 19% และมาเลเซีย 19% มีผลวันนี้ (1 ส.ค. 68) นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศเก็บภาษีต่างตอบแทนไทย 19% กัมพูชา 19% มาเลเซีย 19% มีผลวันนี้ (1 ส.ค. 68) ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ทีมไทยแลนด์ ได้ทำงานอย่างเต็มที่และรอบคอบในทุกมิติ มุ่งมั่นเสนอเงื่อนไขและข้อแลกเปลี่ยนของไทยสามารถยอมรับได้ โดยพยายามรักษาผลประโยชน์ของประเทศไว้ให้มากที่สุด โดยทุกประเด็นการเจรจาล้วนผ่านกระบวนการวิเคราะห์อย่างลึกซึ้ง และเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของชาติ หากผลการเจรจาออกมาดีเกินคาด เราทุกคนคงจะดีใจไปด้วยกันแต่หากผลออกมาน้อยกว่าที่หวังไว้ ตนหวังว่าทุกท่านจะเข้าใจว่ารัฐบาลและทีมเจรจาได้พยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว ตนในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ขอขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ และหวังว่าเราจะก้าวผ่านความท้าทายนี้ด้วยความร่วมมือและพลังใจของพวกเราทุกคน.-สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เผยไทยฝนน้อย-เหนือตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 1 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนน้อย แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคอีสานตอนบน ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 20% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนน้อย แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 […]