รัฐสภา 4 ส.ค.- “ไทยสร้างไทย” เตรียมเลือกหัวหน้าพรรค-กก.บห.เดือนหน้า ไม่ตั้งเป้าได้ ส.ส.กี่ที่นั่ง แต่อยากได้มากที่สุด ยัน พร้อมส่งผู้สมัครทุกพื้นที่ ชี้ ไม่กังวลสูตรหาร 500 หรือ 100 ใช้สูตรไหนก็ได้
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า การปลดล็อกให้ประเทศเดินหน้าจะต้องปฏิรูปกฎหมาย การเมืองและรัฐราชการก่อน โดยสัปดาห์หน้าจะแถลงข่าวเรื่องการปลดล็อกกฎหมาย ทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน และปลดล็อกกฎหมายที่ทำให้คนทำมาหากินได้ ส่วนจำนวนที่นั่ง ส.ส.ที่พรรคไทยสร้างไทยตั้งเป้าไว้นั้น ยังไม่สามารถบอกได้ แต่ยอมรับว่า อยากได้ที่นั่งในสภามากที่สุดอยู่แล้ว ทั้งนี้ ไม่ว่าจะกติกาใดก็จะเดินหน้าส่งผู้สมัครทุกพื้นที่เพื่อให้เป็นทางเลือกของประชาชน โดยเดือนหน้าจะมีความชัดเจนเรื่องการประชุมพรรคเพื่อเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรค
ด้านนายโภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมยุทธศาตร์ขับเคลื่อนประเทศ พรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อว่า ไม่ว่าจะสูตรหาร 500 หรือ 100 ประเด็นใหญ่ก็คือ ควรมี ส.ส.พึงมีหรือไม่ ซึ่ง คำว่า ส.ส.พึงมีหมายความว่า คะแนนเสียงที่ได้รับต้องสัมพันธ์กับที่นั่งที่ได้รับ ซึ่งรัฐธรรมนูญปี 2560 ก่อนที่จะมีการแก้ไข ได้กำหนดเป็นเจตนารมณ์ชัดเจน คือ ไม่มีพรรคการเมืองใดที่ได้ที่นั่งมากกว่าเสียงที่ได้รับ ยกเว้นไปได้ที่เขตเลือกตั้ง เพราะไม่สามารถลบออกไปได้ ดังนั้นพรรคใดได้เขตเลือกตั้งเยอะก็อาจจะได้บัญชีรายชื่อน้อยลง เพื่อให้สมดุลกัน ซึ่งก็เป็นแนวคิดที่ว่าคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชนจะต้องมีคนที่เป็นตัวแทนเข้าไป เพราะอาจจะเกิดเหตุที่บางพรรคที่มีแต่เขตเลือกตั้งและไม่มีบัญชีรายชื่อ เช่น พรรคการเมืองนั้นได้คะแนน 3-4 ล้านคะแนน แต่ไม่ชนะเขตเลือกตั้งเลยแม้แต่เขตเดียว ก็หมายความว่า พรรคที่ได้คะแนน 3-4 ล้านคะแนน ไม่มี ส.ส.เลย แต่บางพรรคที่ได้คะแนนไม่กี่แสนก็อาจจะมี ส.ส. 1-2 คน เป็นต้น ซึ่งนี่คือเป้าหมายเพื่อสร้างความเป็นธรรมของคะแนนเสียง
“ที่เหตุผลทำให้เกิดเรื่องประหลาดก็เพราะวิธีการคำนวณ ก็ทำให้สงสัยว่า ทำไมได้คะแนน 3 หมื่นกว่าก็ได้ ส.ส.แล้ว พอมีการเสนอแก้ไขกฎหมายนี้ พรรคไทยสร้างไทยก็เห็นว่า จะเลือกแบบใดก็ได้ แต่ต้องยึดระบบที่ถูกต้อง วันนี้มาเถียงกันว่า จะมี ส.ส.พึงมีหรือไม่ หากมี ส.ส.พึงมีก็ใช้สูตรหาร 500 ถ้าไม่ต้องมี ส.ส.พึงมีมาก็หารด้วย 100 เหมือนรัฐธรรมนูญปี 40 แต่ทั้งหมดนี้ พรรคไทยสร้างไทย มองว่า พรรคการเมืองที่มีอำนาจมุ่งหวัง แต่จะสร้างประโยชน์ให้พรรคตัวเอง โดยไม่ได้มองระบบที่เป็นธรรม ไม่ได้มองระบบเลือกตั้งที่เป็นธรรมและสะท้อนเสียงของประชาชนในสัดส่วนที่เหมาะสมทั้งประเทศได้ แต่พรรคไทยสร้างไทยไม่กังวล จะใช้สูตรใดก็ได้ ถ้ามีการใช้เงิน ใช้อำนาจและอิทธิพล บ้านเมืองจะไปไหนได้ ขอให้ก้าวข้ามความขัดแย้ง ผลักดันประเทศไทยไปสู่อนาคต” นายโภคิน กล่าว
เมื่อถามถึง ปรากฎการณ์พรรคการเมืองใหม่เกิดขึ้นมากมาย นายโภคิน กล่าวว่า ไม่ใช่สิ่งเสียหาย เพราะมีผู้คนมาอาสาเข้ามาทำงานการเมือง แต่พรรคไทยสร้างไทยจะร่วมสร้างประเทศไทยให้ดีที่สุดเพื่อลูกหลาน ดังนั้น พรรคการเมืองไม่ใช่มาทำเพื่อตัวเอง แต่มาทำเพื่อคนรุ่นต่อไป ไม่ว่าจะสร้างนโยบายอะไรก็แล้วแต่ แต่หากไม่ดูแลคนทุกช่วงวัย จะไปมีประโยชน์อะไร พรรคไทยสร้างไทยจึงพยายามเสนอสิ่งเหล่านี้ ส่วนจะต้องมีการปรับตัวหรือไม่นั้น ก็จะทำให้เห็นว่าพรรคการเมืองเป็นที่รวมของคนทุกแวดวงมาร่วมกันทำงาน และพรรคไทยสร้างไทยจะรับฟัง โดยมีอุดมการณ์แน่ชัดว่าจะต่อสู้กับอำนาจนิยม.-สำนักข่าวไทย