รัฐสภา 1 ส.ค.-“สมชาย” เผย วิป 3 ฝ่ายเตรียมหารือเลื่อนร่างกม.ลูกเลือกตั้ง ส.ส. ชี้ ต้องของดเว้นข้อบังคับให้ลัดคิวพิจารณาอันดับแรก บอกเพื่อไทยเตรียมร้อง ป.ป.ช. ระวังโดนร้องกลับ
นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) กล่าวว่า วันนี้ (1 ส.ค.) เวลา 14.30 น. คณะกรรมการประสานงาน 3 ฝ่าย คือ วุฒิสภา ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล จะหารือถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. (ฉบับที่..) พ.ศ… วาระสอง มาตราต่อเนื่องในที่ประชุมรัฐสภา โดยเชื่อว่าการพิจารณามาตราที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งกรรมาธิการฯแก้ไขใน 2 ประเด็นให้สอดคล้องกับสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อที่ใช้จำนวน 500 คนหาค่าเฉลี่ย จะใช้เวลาค่อนข้างมาก คือ หนึ่งวันหรือหนึ่งวันครึ่ง เพราะมีกมธ.เสียงข้างน้อยสงวนความเห็นไว้จำนวนมากและสมาชิกรัฐสภาสามารถอภิปรายแสดงความเห็น
“เพื่อไม่ให้เกิดกรณีที่รัฐสภาอาจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญไม่แล้วเสร็จและเกินกรอบเวลา 180 วัน ในวันที่ 15 สิงหาคม จึงอาจต้องขอเลื่อนระเบียบวาระให้ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ขึ้นมาพิจารณาก่อนเป็นอันดับแรก คือ พิจารณาก่อนร่างพระราชบัญญัติปรับเป็นพินัย ที่ค้างการพิจารณาหรือต้องเร่งให้ร่างพ.ร.บ.ปรับเป็นพินัยให้เสร็จภายใน 2 สิงหาคม โดยขณะนี้พบว่าร่างพ.ร.บ.ปรับเป็นพินัยมีการแก้ไขจำนวนมากและมีผู้ที่สงวนคำแปรญัตติมากเช่นกัน” นายสมชาย กล่าว
นายสมชาย กล่าวว่า ได้ตรวจสอบข้อบังคับการประชุมรัฐสภา แล้วเห็นว่ามีช่องทางที่ทำได้ คือ กรณีแรก มีผู้เสนอของดเว้นการใช้ข้อบังคับ ให้เลื่อนระเบียบวาระแทนวาระที่ค้างพิจารณาโดยที่เรื่องไม่ตกไป หากที่ประชุมออกเสียงข้างมากให้ทำได้ จึงเลื่อนร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ขึ้นมาพิจารณาได้ภายในวันที่ขอเลื่อน หรือกรณีสองคือขอเลื่อนวาระประชุมตามปกติ โดยให้ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ต่อท้ายร่างพ.ร.บ.ปรับเป็นพินัย แต่การพิจารณาร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวต้องขอความร่วมมือสมาชิกรัฐสภาให้เร่งรัดการพิจารณาเนื้อหา และการอภิปราย
“การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. อาจไม่แล้วเสร็จภายในวันเดียว นั่นหมายถึงต้องพิจารณาต่อในการประชุมรัฐสภา วันที่ 9-10 สิงหาคมอีก หากทำได้เสร็จตามเวลาจะไม่มีปัญหา และส.ว.เองเห็นพ้องว่า อยากให้กระบวนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญเสร็จตามกระบวนการของสภา เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาด้านเทคนิคที่จะทำเกิดความเสื่อมเสียต่อสภา แม้ขณะนี้จะมีคนเห็นต่างเรื่องสูตรคำนวณส.ส.ว่าจะใช้จำนวน 100 หรือ 500 เพื่อหาค่าเฉลี่ย ส.ส.บัญชีรายชื่อ แต่ขอให้กระบวนการเป็นไปตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญ” นายสมชาย กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมยื่นป.ป.ช.ให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาที่สนับสนุนใช้สูตรหาร 500 ฐานจงใจฝ่าฝืนขัดรัฐธรรมนูญอย่างร้ายแรง นายสมชาย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีสิทธิยื่นได้ แต่เชื่อว่าป.ป.ช. คงไม่รับ เพราะการลงมติของสมาชิกรัฐสภาเป็นเอกสิทธิ์และเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่เป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ของตนเองที่ส่อถึงการกระทำที่ขัดกันแห่งผลประโยชน์
“ขอให้มองมุมกลับด้วยว่าหากไม่เห็นด้วยกับสูตรคำนวณ 500 คนหาค่าเฉลี่ย แล้วไปยื่น แต่หากสูตร 100 คนชนะบ้าง เขาอาจไปยื่นให้องค์กรตรวจสอบด้วยก็ได้ เพราะไม่ว่าจะเป็น 100 หรือ 500 ล้วนมีผู้ที่ได้และเสียประโยชน์” นายสมชาย กล่าว.-สำนักข่าวไทย