รัฐสภา 21 ก.ค.-“ประเสริฐ” ชี้นายกฯ อนุมัติงบกลางกว่า 2 พันล้านให้กระทรวง อว. นำไปจัดโครงการอบรม เป็นฉากบังหน้าทุจริต มีคนสนิทไปเรียกรับผลประโยชน์ ถือฮั้วกันโกง
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส. นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยกล่าวหาทุจริตต่อหน้าที่กรณีการใช้งบกลางวงเงิน 2,051 ล้านบาท ว่าเสียดายเวลา 8 ปีที่ผ่านมา ถ้าแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในวันนั้นเป็นของพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นายชัยเกษม นิติสิริ ได้มาเป็นนายกรัฐมนตรี บ้านเมืองคงไม่เป็นเช่นนี้ เสียดายโอกาสของประเทศไทย นอกจากนั้นวุฒิภาวะของพล.อ.ประยุทธ์ยังมีความบกพร่อง เช่นกล่าวว่าฝ่ายค้านว่ามีแต่นั่งร้านไม่มีหัว แต่นายกรัฐมนตรีเองก็มีแต่หัว แต่ไม่มีสมอง
นายประเสริฐ กล่าวว่า งบกลางที่อนุมัติไปนั้น เป็นงบกลางที่มาจากวงเงินกู้ โดยนายกรัฐมนตรีอนุมัติงบกลางให้กระทรวงการอุดมศึกษาฯ ไปใช้ในโครงการอบรมต่าง ๆ ผ่าน 4 มหาวิทยาลัย ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จำนวน 717 ล้านบาท โครงการมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน 368 ล้านบาท มหาวิทยาลัยแม่โจ้ 560 ล้านบาท และมหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม 408 ล้านบาท โดยไม่คำนึงถึงหลักเกณฑ์และผลประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ ถือเป็นการอนุมัติให้กับคนใกล้ชิดตัวเอง เพื่อเป็นการตบรางวัลแล้วให้คนเหล่านั้นไปตามเก็บเปอร์เซ็นต์ เก็บผลประโยชน์ หากินบนความทุกข์ของประชาชน ซึ่งเท่าที่ทราบไม่น้อยกว่า 50%
“นายกฯ พูดมาตลอดว่าให้ความสำคัญกับการปราบรามทุจริต แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับทำให้รู้สึกหดหู่ใจ นายกฯ ได้ใช้ดุลพินิจบิดผันอำนาจ ต่างจากเงื่อนไขในกฎหมายและมติคณะรัฐมนตรี การใช้จ่ายขัดแย้งต่อข้อเท็จจริงที่มีอยู่ในลักษณะโกงกันในที่แจ้งอย่างไม่ละอายใจ พล.อ.ประยุทธ์ได้ลงไปชี้นำตั้งแต่ระดับนโยบายจนถึงระดับปฏิบัติในลักษณะชี้โพรงให้กระรอก โดยใช้กระทรวงการอุดมศึกษาฯ เป็นเครื่องมือ เป็นฉากบังหน้าทุจริตเงินหลายร้อยล้านบาท เรียกได้ว่าฮั้วกันโกง” นายประเสริฐ กล่าว
นายประเสริฐ กล่าวว่า การอนุมัติงบกลางดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดใน3 ลักษณะประกอบด้วยมีลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำเป็นขบวนการทำผิดตามพ.ร.บ. ฮั้ว เนื่องจากไม่จัดให้ประกวดราคาจัดจ้างเฉพาะกลุ่มพวกพ้อง และทำผิดมติครม.เพราะไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน และไม่สนใจข้อทักท้วงของสำนักงบประมาณ ที่ระบุว่าโครงการต้องไม่ซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่น
นายประเสริฐ ตั้งข้อสังเกตว่า การอนุมัติงบกลางดังกล่าวให้กับกระทรวงการอุดมศึกษาฯ เพื่อตอบแทน แทนพรรคพวกที่สนับสนุนให้ตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี แม้โครงการจะซ้ำซ้อนกับกระทรวงเกษตรฯ ก็ตาม เช่น การเพาะเห็ด การปลูกพืชสมุนไพร หรือการแนะนำประโยชน์จากกัญชา เป็นต้น แต่ได้รับการอนุมัติภายในวันเดียว โดยพฤติการณ์ และบุคคลร่วมขบวนการ คือ นายกรัฐมนตรีอนุมัติงบให้พรรคร่วมรัฐบาลพรรคหนึ่งและลูกน้องคนสนิทเข้ามาหากินในงบประมาณ
“มีลูกน้องเป็นข้าราชการการเมืองคนหนึ่ง ปัจจุบันยังทำงานรับใช้พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีชื่อในวงการการเมืองว่านาย ส. ปากเสีย ซึ่งคนคนนี้เป็นคนไปขอส่วนแบ่งจากเอเยนต์ลอตเตอรี่ และประสานงานไปยังมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ที่ได้รับงบประมาณ ทั้งที่ไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ ไปเจรจาเรื่องผลประโยชน์ ขณะที่นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ก็มีส่วนรู้เห็น แต่มีเจตนาให้มีโครงการต่างๆเกิดขึ้นเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อตนเอง ส่วนนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ก็ทำหน้าที่ประสานงานงบตามโครงการ รวมถึงผู้บริหารมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล และบุคคลภายนอกที่นักการเมือง รวม 4 คน” นายประเสริฐ กล่าว.-สำนักข่าวไทย