รัฐสภา 20 ก.ค. – การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล วันที่สอง ช่วงค่ำเข้มข้น หลังฝ่ายค้านอภิปราย รมว.ดีอีเอส ประเด็นศีลธรรมอันดี ทำให้สมาชิกลุกขึ้นประท้วงเป็นจำนวนมาก
การอภิปรายไม่ไว้วางใจวันที่สอง เริ่มเข้มข้นเมื่อนางสาวชนก จันทาทอง ส.ส.พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอีเอส ว่ามีพฤติกรรมเสื่อมเสียทางศีลธรรมอันดี จนทำให้มีสมาชิกลุกขึ้นประท้วงเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นเรื่องครอบครัวที่อาจเป็นตราบาปในอนาคตได้
ระหว่างที่มีการอภิปราย นายชัยวุฒิมีปฏิกิริยาผ่านท่าทางต่างๆ ทั้งจับแมสก์ แคะขี้ตา คุยโทรศัพท์ บางช่วงนั่งเอนหลังไปกับเก้าอี้ เกาศีรษะ ก่ายหน้าผาก ก้มหน้าดูเอกสาร ก่อนจะลุกตอบโต้ว่าฝ่ายค้านอภิปรายไปไกล เป็นมาตรฐานต่ำ เชื่อว่าคนที่ให้ข้อมูลนั้นไม่หวังดีกับคนที่พูด ซึ่งจะทำให้คดีติดตัวได้
จากนั้นนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.พรรคก้าวไกล อภิปราย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องนาฬิกาเพื่อน โดยตั้งข้อสงสัยว่าสมบัติต้องตกเป็นของทายาท หลังจากเพื่อนเสียชีวิต ทำให้ พล.อ.ประวิตร ตอบโต้ว่าไม่สามารถก้าวล่วง ป.ป.ช. ได้ ทั้งนี้ ตนมีเพื่อนที่ดี คบกันตั้งแต่ประถม และตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับการปฏิวัติ
ขณะที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เรื่องการประเมินโครงการท่อส่งน้ำในภาคตะวันออก หรือ EEC ว่ามีพฤติกรรมทุจริตต่อหน้าที่ ทำให้นายสันติ ตอบโต้ว่ามีใครรับงานจากอีสวอเตอร์หรือไม่
นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ถูกวิจารณ์ คือที่บอกว่ามีเทคโนโลยีตรวจที่ดินด้วย ATK ทำให้ ส.ส.ก้าวไกล ลุกขึ้นสวนทันทีว่า ATK ใช้ตรวจสอบที่ดินไม่ได้ ซึ่งเจ้าตัวออกมายอมรับในภายหลังว่าพูดผิด
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หากรัฐมนตรีได้รับเสียงไม่ไว้วางใจมากกว่า 239 เสียง จะพ้นจากตำแหน่งทันทีโดยอัตโนมัติ ซึ่งก็คือกึ่งหนึ่งของสมาชิกที่มีอยู่ 477 คน ทั้งนี้ หากบุคคลนั้นเป็นนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีทั้งคณะต้องรักษาการต่อไป.-สำนักข่าวไทย