นายกฯ นั่งหัวโต๊ะประชุม สมช. ถกแผนรับมือวิกฤติพลังงาน

ทำเนียบฯ 4 ก.ค. – นายกฯ นั่งหัวโต๊ะประชุม สมช. ถกแผนรับมือวิกฤติพลังงาน ตั้ง คกก. 2 ชุด เร่งหาแหล่งพลังงาน อันดามัน-อ่าวไทยเพิ่ม ผุดเขตเศรษฐกิจพิเศษทางทะเลแทนเรียกพื้นที่ทับซ้อน ระบุขอช่วยกันประหยัดพลังงาน บอกเจ็บปวดประชาชนเดือดร้อน วอนหยุดแซะ ยันไม่ได้น้ำมันฟรี


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อพิจารณาเตรียมการรับมือเรื่องความมั่นคงด้านพลังงานและอาหารรองรับวิกฤติที่เกิดขึ้นในขณะนี้และในอนาคต รวมถึงพิจารณาหาแหล่งพลังงานเพิ่มเติม โดยมีหน่วยงานของสภาความมั่นคงแห่งชาติ รวมถึงรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจเข้าร่วมประชุม ซึ่งการประชุมวันนี้ (4 ก.ค.) ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง

นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมว่า สถานการณ์น้ำมันขณะนี้ยังไม่ขาดแคลน แต่ราคาสูง ต้องดูต้นทุนราคาน้ำมันจากต่างประเทศ ซึ่งค่าการกลั่นที่พูดกันมีกฎหมายรองรับอยู่ทุกตัว โดยคณะกรรมการกฤษฎีกาจะเป็นผู้ชี้แจงว่าอะไรทำได้ทำไม่ได้ ยืนยันว่าไม่ได้เอื้อประโยชน์กับใครทั้งสิ้น ถ้าทำได้ก็จะทำ ซึ่งการทำก็เสี่ยง และได้กำชับที่ประชุมว่า ไฟต้องไม่ดับ พลังงานต้องเพียงพอ ทั้งนี้พลังงานสำรองในประเทศยังสามารถใช้ได้ระยะหนึ่ง แต่ถ้าไม่นำเข้า อยู่ได้กี่วันได้มีการหาข้อมูลไว้แล้ว จึงมีการเตรียมแผนว่าถ้าขาดจะทำอย่างไร ส่วนเรื่องอาหารประเทศเราไม่น่าจะขาดแคลนแต่วันหน้าต้องเตรียมพร้อมเมื่อเราจะเป็นแหล่งอาหารโลก ต้องพัฒนาด้านการเกษตร เช่น พืชสำหรับทำอาหารสัตว์ ต้นทุนปุ๋ย ต้นการผลิตต่างๆ จะขับเคลื่อนได้อย่างไร โดยเห็นว่าจะนำแร่โปรแตซมาทำเป็นแม่ปุ๋ย


ส่วนเรื่องพลังงาน ให้ไปหาแหล่งพลังงานเพิ่มเติมทั้งอ่าวไทยและอันดามัน จึงจำเป็นต้องมีการพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะความมั่นคงด้านพลังงาน เกี่ยวข้องกับอาเซียนทั้งหมดต้องหารือร่วมกัน และหาทางออกให้ได้ เพราะวันหน้าจะพึ่งพลังงานจากต่างประเทศไกลๆ เป็นไปไม่ได้แล้ว ซึ่งวันนี้น้ำมันและพลังงานก็มาจากรอบบ้านเรา ถ้ามีปัญหารอบบ้าน ก็จะกระทบกับการค้าชายแดน เพราะเศรษฐกิจและความมั่นคงพันกันไปหมด จึงต้องระมัดระวังอย่างที่สุด สิ่งสำคัญที่สุดวันนี้การค้าชายแดน มีมูลค่าสูงเป็นแสนล้าน ดังนั้นถ้ามีปัญหากันมากๆ คนเดือดร้อนคือใครก็รู้อยู่

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือด้านพลังงานที่มีการดำเนินการอยู่แล้ว ว่าจะเพิ่มเติมจุดใดได้บ้าง ถ้าไม่ได้จะทำอย่างไร สิ่งสำคัญที่สุด ทุกคนต้องเข้าใจว่าวันนี้ปัญหาเกิดขึ้นมากมาย ทั้งเงินเฟ้อที่มีปัจจัยมาจากราคาพลังงาน ต้นทุนการผลิตไปสู่ผู้บริโภค ทำให้สินค้าราคาแพง ซึ่งต้องไปดูว่า ราคาขึ้นตามสัดส่วนที่ควรจะขึ้นเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ โดยการฟื้นตัววันนี้การท่องเที่ยวและการส่งออกดีขึ้น แต่ยังกระจุกตัวไม่กระจายไปสู่ประชาชนทุกกลุ่ม ซึ่งตนห่วงผู้มีรายได้น้อย หนี้สินครัวเรือน ก็ต้องไปแก้ ขณะเดียวกันยังมีความเดือดร้อนของกลุ่ม SME ซึ่งรัฐบาลและธนาคารได้ออกสินเชื่อ และต้องระมัดระวังเพราะมีโอกาส ที่จะผิดนัดชำระเป็นหนี้เสียมากพอสมควร โดยรัฐบาลพยายามที่จะดูแลให้มากที่สุด

ส่วนเรื่องการขนส่งจะใช้ขนส่งระบบราง แม้จะต้องมีการต่อรถ เพื่อนำสินค้าไปยังพื้นที่ ก็ต้องไปพิจารณาว่าค่าขนส่งจะแพงกว่าหรือไม่ ซึ่งมาตรการที่รัฐบาลใช้ตรึงราคาพลังงาน ขณะนี้ใช้งบประมาณไปแล้วกว่าแสนล้าน ต้องพิจารณาว่าถ้าใช้ต่อไปจะไหวหรือไม่ ขอให้เข้าใจถ้าเรามีงบประมาณเพียงพอตนยินดี แต่ต้องระวังสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต


นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า จากปัญหาทั้งหมดทำให้ที่ประชุม สมช. ตั้งกรรมการขึ้นมา 2 ชุด คือ 1. คณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบริหารสถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งรูปแบบจะคล้ายกับ ครม.เศรษฐกิจ โดยนายกฯ เป็นประธาน 2. คณะกรรมการวิเคราะห์ผลกระทบและจัดทำข้อเสนอแก้ปัญหาในทุกมิติ จัดทำแผนรองรับในทุกด้าน ตามวิกฤตการณ์ในอนาคต โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธาน ซึ่งได้นำข้อกฎหมายทั้งหมด มาพิจารณาว่าอะไรทำได้ทำไม่ได้ และจากข้อห่วงใย ข้อกังวลต่างๆ ได้พิจารณาอย่างรอบคอบ และเมื่อคณะกรรมการ จัดทำข้อมูลแล้วเสร็จต้องนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณา

“สิ่งสำคัญที่สุดวันนี้ ขอสักอย่างได้ไหม รู้ไหมว่าจะขออะไร ช่วยประหยัดกันหน่อยได้ไหม ประหยัดคือประหยัดใช้พลังงาน ใช้เท่าที่จำเป็นได้ไหม ซึ่งถ้าใช้เท่าที่จำเป็นค่าไฟฟ้าและค่า FT จะลดลง ถ้าใช้มากเหมือนเดิมก็ลำบาก ผมก็ขอร้องเท่านั้นแหละ ผมบังคับท่านไม่ได้อยู่แล้ว ผมเองก็ใช้รถเท่าที่จำเป็น” นายกรัฐมนตรี กล่าว

เมื่อถามว่า ในแผน 3 เดือนข้างหน้า มีแผนกู้เงิน หรือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องดูว่ามีความจำเป็นที่จะต้องดูแลต่อหรือไม่ สิ่งใดที่จะต้องพอ อันแรกคือต้องเซฟว่าจะลดตรงไหนได้บ้าง ไม่ใช่ไปเรื่อยไม่มีวันสิ้นสุดมันไปไม่ได้ จากเดิม 30 บาท วันนี้ 35 บาท ก็ต้องพิจารณาว่า เราจะตรึงราคา 35 บาทได้นานเท่าไหร่ จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ใช้รถใช้ถนนได้หรือไม่

“อย่าคิดว่าโยนความรับผิดชอบให้ใคร ผมนี่เจ็บปวด ผมพูดหลายครั้งว่าเดือดร้อนไปกับท่านด้วย ไม่ใช่ผมสบาย ผมเดือดร้อนเรื่องการบริหาร ไม่สบายใจ ซึ่งพยายามจะทำให้ประชาชนได้มากที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ แต่ต้องนึกช่วยกันว่าถ้าผมทำแล้วมันผิด แล้วจะทำอย่างไร ลองศึกษาดูกฎหมายมีอยู่ทุกตัว พูดมาหลายครั้งแล้ว หลายคน มาย้อนกลับว่านายกฯ ไม่ลำบาก นายกฯ มีรถประจำตำแหน่งใช้ ผมไม่ได้เติมน้ำมันฟรีเลยนะ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ส่วนนอกจากขอร้องให้ประหยุดพลังงาน จะออกเป็นกฎหมายหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การออกกฎหมาย เว้นจำเป็นเด็ดขาดเท่านั้นถึงจะทำได้ มันมีความเสี่ยงสูง

เมื่อถามว่าจะนำมาตรการ Work from home กลับมาใช้ เพื่อประหยัดพลังงานหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า Work from home มาตรการดี แต่ปัญหาคือ ต้องเช็กว่าอยู่บ้านจริงหรือไม่ ถ้าจะ Work from home ต้องอยู่ที่บ้าน และบอกตำแหน่งที่ตั้งให้ได้ ไม่เช่นนั้นมีปัญหา บางครั้งการทำงานที่กระทรวง หรือทำเนียบรัฐบาลก็สำคัญ เพราะเป็นศูนย์บัญชาการข้อมูลเอกสารต่างๆ อย่างไรก็ต้องมีคนทำงานที่ออฟฟิศ เว้นแต่ภาคธุรกิจสามารถทำได้หน่วยงานราชการอาจลำบาก

ส่วนจะมีการรื้อแผนพลังงาน พื้นที่ทับซ้อนกับเพื่อนบ้านหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่อยากให้ใช้คำว่าพื้นที่ทับซ้อน แต่จะหารือว่าให้ใช้คำว่าพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษทางทะเลเพื่อนำไปสู่การเจรจาพูดคุย อย่านำมาพันกันเรื่องเขตแดน ชายแดน เดี๋ยวจะพันกันไปทั้งหมด ต้องดูว่ามีความจำเป็นจำเป็นหรือไม่ ไม่ทำก็ได้แต่จะเดือดร้อน ต้องชั่งน้ำหนัก ซึ่งต้องหารือกันต่อไป ขอร้องหลายคนจับตาข้างหนึ่งอยากได้ อีกข้างหนึ่งไม่ให้ทำ ต้องเปรียบเทียบหลายประเทศมีปัญหามากกว่าเรา ถ้ามองแต่เรา จะรู้สึกว่าแย่ที่สุด ซึ่งไม่ใช่ ทุกรัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหา แม้ประเทศมหาอำนาจ ก็เจอปัญหาพลังงานเช่นกัน และสั่งไม่ได้ แต่ถ้าพูดเอามันก็พูดได้หมด .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัท เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้าน

กทม. 18 พ.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัทชิปปิ้ง เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้านบาท พบก่อเหตุคล้ายกันในบริษัทฯ อีก 2 แห่ง รวมรัฐเสียหายกว่า 430 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) นำเจ้าหน้าเข้าจับกุม นางสมบุญ อายุ 54 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1051/2568 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์2568 ในความผิดฐาน “ร่วมกันเจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่มกระทำการใดๆ โดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน ที่ลานจอดรถหน้าอพาร์ทเมนต์ พื้นที่ ม.2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พฤติการณ์ ของ น.ส.สมบุญ ผู้ต้องหา ตรวจสอบพบว่า เป็นหนึ่งในกรรมการ บริษัท แห่งหนึ่งประกอบกิจการเป็นตัวแทนนำเข้าสินค้าและดำเนินพิธีการศุลกากรเพื่อนำสินค้าออกจากท่าเรือ แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่าบริษัทฯดังกล่าวมีพฤติการณ์ปิดบังซ่อนเร้นที่มาของรายได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ โดย บริษัทมักจะไม่มีการออกใบกำกับภาษีขายและใบเสร็จรับเงินสำหรับค่าบริการให้แก่ลูกค้าแต่อย่างใด และการจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างของบริษัทฯ มักจะจ่ายเป็นเงินสดให้ลูกจ้างเป็นรายสัปดาห์ […]

สาวใจเด็ด โดดจยย.รับจ้าง วิ่งตามรถตัวเองหลังตามหา 1 ปี

กทม. 18 พ.ค. – สาวใจเด็ด โดดลงจากมอเตอร์ไซค์รับจ้าง วิ่งไล่รถตัวเอง หลังตามหาและผ่อนกุญแจเปล่ามานานกว่า 1 ปี พบเพื่อนสนิทนำรถไปค้ำประกันกับเจ้าหนี้ จากกรณีคลิปที่มีการแชร์ในโซเซียล ขณะผู้หญิงใส่เสื้อลายกำลังวิ่งไล่ตามรถเก๋งสีขาว พร้อมตะโกนให้คนช่วย จนพลเมืองดี ช่วยกันเข้ามารายล้อมรถและคนขับรถเก๋งต้องเลี้ยวเข้าซอย เพื่อลงมาเคลียร์ ก่อนเกิดเหตุชุลมุนขึ้น เมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) ล่าสุดทีมข่าวเปิดใจ สาวที่ปรากฏในคลิป เล่าถึงสาเหตุที่ต้องเข้าไปขวางรถยนต์คันนี้ เพราะว่าเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม ปี 2567 ตนเองได้ซื้อรถเก๋งคันนี้ ทะเบียนขอนแก่น และนำรถไปฝากจอดไว้ที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง ซึ่งเป็นห้องของแฟนเพื่อนสนิท แต่หลังจากที่นำรถไปฝาก ก็ไม่เคยได้พบรถตัวเองอีกเลย โดยเพื่อนสนิท อ้างว่าแฟนเอาไปขับ ทุกครั้งที่ทวงถามหารถ จะมีการบ่ายเบี่ยงต่างๆ นานา จนในที่สุด ตนเองก็เข้าแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.ห้วยขวาง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามหารถ เวลาผ่านไปประมาณ 1 ปี ก็ยังตามหาไม่ได้ ตนเองจึงต้องผ่อนกุญแจเปล่า มาเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม […]

ข่าวแนะนำ

ออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการอุ้มฆ่า “ดีเจเตเต้”

กาญจนบุรี 19 พ.ค. – ออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการแล้ว 4 ราย อุ้มฆ่า “ดีเจเตเต้” ตั้งข้อหาหนักหลายกระทง ล่าสุด ครอบครัวรับศพแล้ว เผยผลชันสูตร กระสุนเจาะศีรษะ 2 นัด เป็นเหตุเสียชีวิต พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เดินทางลงพื้นที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดีล่าตัวแก๊งอุ้มฆ่า นายวราพงษ์ ขุนศรีจตุรงค์ หรือ ดีเจเตเต้ อายุ 33 ปี โดยภายหลังการประชุม พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้จับกุม นายธนเดช หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการอุ้มฆ่า ดีเจเตเต้ แล้ว ส่วนอีก 4 คน ศาลอนุมัติหมายจับ ประกอบด้วย นายณรงค์เดช, นายภคณัท, นายนพพิจิตร และนายธราเทพ ทั้งหมดมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ใน 5 ข้อหาหนัก ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

ตามหา “เจ๊แก้ว” ใส่ทอง 20 บาท หายตัวไป 2 วัน

สุราษฎร์ธานี 19 พ.ค. – ยังไร้วี่แวว “เจ๊แก้ว” เจ้าของแผงทุเรียน หายตัว 2 วัน พร้อมทองหนัก 20 บาท-เงินสด 1 แสน สามีวอนตำรวจ-พลังโชเชียลช่วยตามหา หวั่นเกิดเหตุร้าย เมื่อวานนี้ (18 พ.ค.) ญาติของ น.ส.สุจิตรา หรือเจ๊แก้ว อายุ 43 ปี เจ้าของแผงทุเรียนในตลาดโพธิ์หวาย ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ว่า น.ส.สุจิตรา หายตัวไปวันที่ 17 พฤษภาคม หลังจากเสร็จงานที่แผงทุเรียน และกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 2 กม. ช่วงเวลาประมาณ 19.40 น. น้องสาวของเจ๊แก้ว เล่าว่า วันนั้นตนได้โทรศัพท์คุยกับพี่สาวและทราบว่าพี่สาวกำลังจะออกจากแผงทุเรียนเพื่อที่จะกลับบ้าน หลังจากนั้นก็เห็นผิดสังเกตว่าพี่สาวยังมาไม่ถึงบ้านเลยพยายามโทรหาแต่ก็ไม่มีคนรับ ปกติแล้วพี่สาวได้สวมใส่สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 5 บาท เลทข้อมือทองคำน้ำหนัก 10 บาท […]

“บิ๊กเต่า” นำทีมตรวจเงินวัดไร่ขิง พบบัญชีวัดเพิ่มอีกรวม 49 บัญชี

นครปฐม 19 พ.ค. – “บิ๊กเต่า” นำทีมตรวจเงินวัดไร่ขิง พบตู้บริจาค 185 ตู้ บัญชีวัดรวม 49 บัญชี รอตรวจสอบเส้นเงินที่ชัดเจน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้นำกำลังตำรวจ เจ้าหน้าที่ สตง. และเจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนา เข้าตรวจสอบข้อมูลการเงินเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ภายในห้องการเงิน วัดไร่ขิง ก่อนที่ในช่วงบ่ายพระครูปฐมธีรวัฒน์ (บัญชา ฐิตธมฺโม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ได้เป็นตัวแทนนำ จนท.ออกมาชี้จุดตั้งตู้บริจาคปัจจัยที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัด พบว่ามีตู้บริจาคทั้งหมด 185 ตู้ ซึ่งหลังจากใช้เวลาตรวจสอบบัญชีเพิ่มเติมกว่า 8 ชั่วโมง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่าการตรวจสอบในวันนี้ ไม่ได้ เป็นการสอบปากคำ แต่เป็นเพียงการเรียกทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีการเงินของวัดประมาณ 10 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่ธนาคารจาก 4 ธนาคาร เข้ามาให้ข้อมูล เพื่อหาข้อสรุปว่า บัญชีของวัดมีกี่บัญชี ซึ่งทำให้พบบัญชีวัดเพิ่มขึ้นจากที่พบก่อนหน้านี้ 20 กว่าบัญชี (ใน 20 กว่า มีบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาส […]