รัฐสภา 23 มิ.ย.-กมธ.ศาสนาฯ เชิญ “สำนักพุทธ-ตร.” ไล่เช็คบิลกรณี “หมอปลา” บุกวัด หลังมีผู้ร้องเรียนจำนวนมาก ย้ำไม่ต้องเชิญเจ้าตัวมาแจง
นายสุชาติ อุสาหะ ส.ส.เพชรบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการพิจารณาข้อร้องเรียนให้ตรวจสอบกรณีนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลาว่า เนื่องจากมีผู้ร้องเข้ามาอีกจำนวนมากเพื่อให้เร่งรัดติดตามความคืบหน้า จึงเชิญรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้กำกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยทางสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ส่งผู้อำนวยการกองที่เกี่ยวข้องและนิติกรมาชี้แจง รวมถึงเชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 9 สถานีที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงความคืบหน้าเรื่องของคดีความ แนวโน้มวันนี้คาดว่าจะชัดเจนมากขึ้น แต่ต้องรับฟังความเห็นจากทั้งฝ่ายกฎหมายและเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากมีกฎหมายหลายมาตราที่เกี่ยวข้อง และแต่ละกรณีต่างกรรมต่างวาระ
“คาดว่าการพิจารณาวันนี้ ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะนำเสนอภาพเหตุการณ์ในแต่ละสถานที่ให้ดู โดยทุกเหตุการณ์ที่ร้องเรียนมานั้นมีลักษณะคล้ายกัน มีพฤติกรรมซ้ำกัน คือ การตั้งคำถามว่ามีอำนาจเข้าไปตรวจสอบหรือไม่ เป็นการบุกรุก หรือหมิ่นประมาทโฆษณาหรือไม่ หากพบว่ามีความผิดจริง จะเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องดำเนินการต่อ เนื่องจากมีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษไปแล้ว โดยเฉพาะสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติที่ได้เข้าไปร่วมร้องทุกข์ทุกแห่งที่เกิดเรื่องขึ้น โดยวันนี้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะเอาภาพและคลิปวิดีโอเหตุการณ์ให้ดูไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวน ซึ่งจะได้ดูว่าในแต่ละสถานที่มีประเด็นความผิด และเกี่ยวข้องกับกฎหมายข้อใดบ้าง และอำนาจพนักงานสอบสวนจะใช้เวลาในการทำเรื่องนี้นานเท่าไหร่” นายสุชาติ กล่าว
ส่วนจะเชิญหมอปลามาชี้แจงหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ยังไม่เชิญเพราะถือว่าเป็นการทำหน้าที่ตามอำนาจหน้าที่ที่มีผู้ร้องเข้ามาว่าผลของเรื่องนี้เป็นอย่างไร ซึ่งบางฝ่ายมองว่า ลักษณะแบบนี้เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ทำให้ศาสนาเสื่อมเสีย อย่างไรก็ตาม กรรมาธิการจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย คิดว่าในอนาคตก็คงไม่ต้องเชิญหมอปลามา เพราะหากเรื่องนี้เข้าสู่ระบบของพนักงานสอบสวนและสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว จะไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของกรรมาธิการฯแล้ว
ด้านนางสมหญิง บัวบุตร ส.ส.อำนาจเจริญ พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า หมอปลาเป็นบุคคลธรรมดาที่สามารถไปสืบหาข้อมูลได้ แต่การไปของเขา ไม่ได้ทำในลักษณะแบบปกติ แต่เป็นการใช้วิธีการข่มขู่นำมวลชนและผู้สื่อข่าวลงไปในพื้นที่ รวมถึงนำรถเข้าไปจำนวนมาก ทำให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบ ทั้งนายอำเภอและผู้ที่เกี่ยวข้องรู้สึกกลัวและตกใจกับเหตุการณ์ที่เป็นการใช้วิธีการจู่โจม ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง รวมถึงหมอปลาก็ยอมรับว่า การกระทำนั้นเป็นลักษณะของการล่อให้หลวงปู่ทำ จึงต้องให้ความเป็นธรรมกับประชาชนที่นับถือศาสนาพุทธด้วย เพราะยอมไม่ได้กับการที่มาก่าวก่ายเรื่องพระพุทธศาสนา ซึางถือว่าเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ เป็นความละเอียดอ่อน ควรระมัดระวัง.-สำนักข่าวไทย