กกต. 17 พ.ค. -“ก้าวไกล” ร้อง กกต.หลังพบป้ายแนะนำตัวผู้สมัคร ผู้ว่าฯกทม.-ส.ก. ถูกทำลาย หวั่นประชาชนอาจเกิดความเข้าใจผิดว่าไม่ได้ลงสมัครในพื้นที่นั้นๆ ระบุกระแสตัดคะแนนฝ่ายปชต.เป็นแค่เรื่องเขียนเสือให้วัวกลัว ชี้ไม่ควรเทคะแนนไปที่คนหนึ่ง. เหน็บ “ชัชชาติ” เน้นประณีประนอม ขณะที่ปัญหาจะต้องพุ่งชน
นายกรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษกพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยส.ก.พรรคก้าวไกล เข้ายื่นหนังสือต่อประธานกกต.สั่งการให้แต่ละหน่วยเลือกตั้งเตรียมความพร้อมเอกสารแนะนำตัวหน้าหน่วยเลือกตั้งให้พร้อมก่อนวันเลือกตั้ง หลังพบว่าหน้าหน่วยเลือกตั้งมีเอกสารของผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. และส.ก.ของพรรคก้าวไกลถูกฉีกทำลายจำนวนมาก อาจส่งผลให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเกิดความสับสน นายกรุณพล กล่าวว่า เราพบว่าเอกสารแนะนำตัวผู้สมัครของเราถูกทำลายเป็นจำนวนมาก และเรากังวลถ้าหากเหตุการณ์เหล่านี้ถูกเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้ง จะทำให้คนไม่รู้ว่ามีพรรคก้าวไกลอยู่ในคูหาเลือกตั้ง อาจจะทำให้การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ ยุติธรรม อาจต้องยกเลิกการเลือกตั้ง หรือทำให้การเลือกตั้งต้องเกิดขึ้นใหม่ นั่นจะเป็นการเสียโอกาสของประชาชน
“เกิดความเสียหายในหลายพื้นที่ กระจายไปทุกเขต โดยเฉพาะพื้นที่ไหนที่คะแนนเสียงเรามาก หรือค่อนข้างมั่นใจว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้น่าจะได้เป็น ส.ก. ก็จะถูกทำลายเยอะหน่อย เช่น ลาดพร้าว บึงกุ่ม ดอนเมือง ซึ่งความเสียหายดังกล่าวไม่ได้เกิดจากภัยธรรมชาติแน่นอน เพราะหายแค่ใบเดียวเฉพาะพรรคก้าวไกล ถ้าเป็นภัยธรรมชาตินั่นคือสวรรค์ต้องกลั่นแกล้งแล้ว แต่นี่คือการทำลายทำให้เข้าใจผิดว่าเราถูกตัดสิทธิ์ หรือไม่ให้คนจำได้ว่าหมายเลขนี้ พรรคนี้ เบอร์อะไร ทำให้การลงคะแนนอาจเกิดความผิดพลาด ซึ่งต้องให้ กกต. และสำนึกงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ตรวจสอบ เพราะใน กทม.มีกล้องเป็นหมื่นๆตัว และหน้าคูหาเลือกตั้งเป็นพื้นที่ชุมชน แต่ป้ายกลับหาย และถ้าจะตรวจสอบกัน หรือจับกุมกันจริงๆไม่ใช่เรื่องยาก ขนาดคดีที่ยากกว่านี้ยังจับกันได้ อยู่ที่ว่าตั้งใจทำหรือปล่อยผ่าน” นายกรุณพล กล่าว
นายกรุณพล ยังกล่าวอีกว่า เหลือเวลาอีกไม่กี่วันก็จะมีการเลือกตั้งแล้ว ตอนนี้ให้ระวังป้องกัน และถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ต้องแก้ไขอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่ว่าเปิดหีบ 8 โมงเช้าป้ายหายแล้วบอกว่าต้องติดต่อ กกต.กลาง หรือต้องติดต่อสำนักงานเขตเพื่อรอเวลานำป้ายมา แค่ 5 นาที ที่คนมาใช้สิทธิเลือกตั้งมันก็ทำให้คะแนนของเราหายได้เช่นกัน
ส่วนที่มีกระแสโซเชียลระบุถ้าฝ่ายประชาธิปไตยเลือกนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ก็จะเป็นตัดคะแนนเสียงของฝ่ายประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นจึงต้องตัดสินใจมาเลือกนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เพื่อให้คะแนนเสียงมีคุณค่านั้น นายกรุณพล กล่าวว่า เป็นเรื่องความกลัว เห็นได้ว่าคนที่แชร์สิ่งเหล่านี้ คือเป็นโหวตเตอร์ของพรรคนั้นที่กลัวว่าคนที่ตัวเองเชียร์จะแพ้ ก็เลยบอกว่าถ้าไม่เลือกเขา เรามาแน่ ซึ่งเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้แล้วเมื่อปีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งก่อนที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร อดีตผู้ว่าฯ กทม.บอกว่าไม่เลือกเรา เขามาแน่ และสุดท้ายกลายเป็นว่าเราเอง ไม่ได้ใช้สิทธิ อย่างที่เราปรารถนาอยากให้คนที่มีอุดมการณ์ตรงกับเรามาเป็นผู้ว่าฯของเรา
นายกรุณพล กล่าวเพิ่มเติมว่า การเลือกตั้งครั้งนี้แคนดิเดทหลายคน เพราะฉะนั้นไม่เลือกคนนี้โอกาสที่คะแนนจะเสียไปให้คนๆหนึ่งทั้งหมดเป็นไปไม่ได้ มันเป็นเรื่องสมมติ “เขียนเสือให้วัวกลัว” สร้างความหวาดกลัวให้ผู้ใช้สิทธิว่าถัาไม่เลือกคนนี้ อีกฝั่งหนึ่งที่ตัวเองไม่ชอบจะได้ซึ่งไม่เป็นความจริง อย่างไรก็ตามตนยังเชื่อมั่นคนที่มีอุดมการณ์ตรงกับพรรคก้าวไกล วันนี้คนที่เชื่อพรรคก้าวไกลต้องการความเปลี่ยนแปลง ต้องการยาแรง ต้องการให้ กทม.เปลี่ยนไปตลอดกาล เชื่อว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ยังเลือกพรรคก้าวไกล และคงไม่มีใครเชื่อว่าถ้าไม่เลือกนายวิโรจน์ แล้วจะทำให้ได้พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง นายสกลธี ภัททิยกุล หรือนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เพราะ 3 ชื่อที่กล่าวมาก็เป็นคู่แข็งกัน มีฐานเสียงคล้ายๆกัน
นายกรุณพล กล่าวทิ้งท้ายว่า ถ้าไม่เลือกนายวิโรจน์ ก็ไม่ใช่ว่านายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จะชนะ เพราะฉะนั้นไม่ควรจะใช้วิธีการนี้มาต่อสู้ในการเลือกตั้งเพื่อที่จะให้คะแนนเทไปที่คนใดคนหนึ่ง อย่าลืมว่าอีกฝ่ายหนึ่งก็ไม่ได้มีแค่คนเดียว แต่มีถึง 3 คนอย่างที่กล่าวมาข้างต้น ทั้งนี้ตนเห็นว่านายชัชชาติ เป็นคนดี แต่มีลักษณะเป็นคนที่ประณีประนอม ขณะที่ปัญหา กทม.จะต้องพุ่งชนเพื่อให้ได้รับการแก้ไขให้กับพี่น้องชาว กทม.ได้อย่างยั่งยืน.สำนักข่าวไทย
