เตรียมมาตรการ 4 ด้าน โควิดสู่โรคประจำถิ่น ก.ค.นี้

ทำเนียบ 18 มี.ค.- ศบค. เตรียมประเมินสถานการณ์โควิดเป็นโรคประจำถิ่น เดือน ก.ค.นี้ พร้อมตั้งเป้าวัคซีนเข็มกระตุ้นต้องได้ 70% ก่อนถึงเทศกาลสงกรานต์


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผย ผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้รายงานแผนและมาตรการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 ไปสู่โรคประจำถิ่น ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ยังอยู่ในระยะต่อสู้กัน ถ้าช่วงมีนาคมถึงต้นเมษายน ช่วยป้องกันได้อย่างดี ไปในระยะที่ 2 ช่วงเมษายนถึงพฤษภาคมจะเป็นช่วงคงตัว และจะค่อยๆ ลดลงตามการคาดการณ์ช่วงปลายพฤษาคมจนถึงเดือนมิถุนายน และในวันที่ 1 กรกฎาคมน่าจะเห็นตัวเลขลดลงได้ แต่แผนทั้งหมดต้องได้รับความร่วมมือจากทุกคน แต่สถานการณ์จริง ในวันที่ 1 ก.ค. เป็นอย่างไรต้องพิจารณาอีกครั้ง โดยต้องคำนึงถึงมาตรการ 4 ด้าน ทั้งด้านสาธารณสุข ด้านการแพทย์ ด้านกฎหมายและสังคม และด้านสื่อสารและประชาสัมพันธ์

ส่วนเป้าหมายการบริหารจัดการสถานการณ์โรคโควิด-19 สู่โรคประจำถิ่นนั้น ต้องทำให้การเข้าถึงการดูแลรักษาได้อย่างรวดเร็ว มีคุณภาพ มีอัตราป่วยตายไม่เกินร้อยละ 0.1 และความครอบคลุมวัคซีนเข็มกระตุ้น ต้องมากกว่าร้อยละ  60 และต้องสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในการรับมือและปรับตัวเพื่ออยู่ร่วมกับโควิด-19


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงแผนการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ทางกรมควบคุมโรคได้รายงานผลการฉีดวัคซีน ในกลุ่ม 60 ปีขึ้นไปมีประมาณ 12.7 ล้านคน ในส่วนเข็มที่ 1 และ 2 ฉีดไปแล้ว 10 กว่าล้านคน แต่เข็มที่ 3 ฉีดไปเพียง 4 ล้านกว่าคน ซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจมีป่วยหนักและเสียชีวิตได้ จึงจำเป็นต้องเร่งมารับวัคซีนเข็มกระตุ้นด้วย พร้อมตั้งเป้าว่าวัคซีนเข็มกระตุ้นต้องได้ 70% ก่อนถึงเทศกาลสงกรานต์และได้เตรียมวัคซีนรองรับไว้ 3 ล้านโดส

 ทั้งนี้ จากการรายงานผู้เสียชีวิตตั้งแต่ ม.ค.-ก.พ. มี 928 รายนั้น มีกลุ่มผู้สูงอายุถึง 2.17 ล้านคน ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน เสียชีวิตถึง 557 ราย จึงฝากให้คนในครอบครัวควรเร่งผู้สูงอายุไปฉีดวัคซีน แต่ผู้สูงอายุที่ได้รับวัคซีนครบ 3 เข็ม มีผู้เสียชีวิต 23 ราย ซึ่งลดอัตราการเสียชีวิตลงได้ 41 เท่า

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 27,071 ราย ประกอบด้วย ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 26,826 ราจ จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 93 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 103 ราย ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 49 ราย โดยผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศ ตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 3,303,169 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 21,522 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อเข้าข่ายด้วยการตรวจ ATK จำนวน 23,157 ราย ส่วนผู้เสียชีวิต 80 ราย เป็นเพศชาย 39 ราย เพศหญิง 41 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 24,075 ราย


จังหวัดที่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 3,252 ราย, นครศรีธรรมราช 1,717 ราย, ชลบุรี 1,256 ราย, สมุทรปราการ 976 ราย,  สมุทรสาคร 942 ราย, พระนครศรีอยุธยา 677 ราย, ฉะเชิงเทรา 656 ราย, ปทุมธานี 653 ราย, นครปฐม 642 ราย และ ระยอง 628 ราย

นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบ ผลการดำเนินการ มาตรการเจอ แจก จบ ระหว่างวันที่ 1-13 มีนาคม มีจำนวนผู้รับบริการสะสม 207,534 ราย มีสถานบริการทั้งหมด 901 แห่ง และมีการจ่ายรักษาตามอาการ เช่น ยาลดไข้ ยาแก้ไอ 52% จ่ายยาฟ้าทะลายโจร 24% และจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ 26% .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เมียติด GPS รถผัว ตามง้อถึงบ้าน ฝ่ายชายเมิน ยิงดับ

ภรรยาติด GPS รถสามี ตามง้อไม่สำเร็จ ซัดด้วยลูกโม่ตายคาใต้ถุนบ้าน คาดปมทะเลาะหึงหวง คิดจบชีวิตตัวเองตาม แต่พ่อสามียึดปืนไว้ทัน

ครูสูญเงิน 1.2 ล้านบาท มิจฉาชีพหลอกเป็นที่ดิน-จนท.ธนาคาร

ครูสาวชาวอุบลราชธานี ถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ใช้เบอร์ธนาคารโทรหาจึงหลงเชื่อ สูญเงินกว่า 1.2 ล้านบาท

สุราษฎร์ฯ คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงท่วมบ้าน-รีสอร์ต

ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงซัดบ้านพัก-รีสอร์ต อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พังเสียหาย 4 หลัง เตือนเรือประมงงดออกจากฝั่ง

New threats in Los Angeles as wildfire switches direction

ไฟป่าแอลเอเปลี่ยนทิศสร้างปัญหาใหม่

ลอสแอนเจลิส 12 ม.ค.- รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเกิดภัยคุกคามใหม่วานนี้ เมื่อไฟป่าที่โหมไหม้เผาหลายพื้นที่ทั่วเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอเคาน์ตี้ได้เปลี่ยนทิศทาง ทำให้ต้องสั่งอพยพประชาชนเพิ่มเติม และกลายเป็นปัญหาท้าทายใหม่สำหรับทีมนักดับเพลิง พื้นที่เขตแคลิฟอร์เนียใต้เผชิญไฟป่ามาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม โดยเกิดไฟป่าพร้อมกัน 6 จุดทั่วแอลเอเคาน์ตี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คน  ผู้สูญหาย 13 คน  บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเสียหายหรือถูกทำลายรวมแล้วกว่า 10,000 หลัง คาดว่าความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยได้อย่างละเอียด ขณะนี้ยังคงมีประชาชน 153,000 คนอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ และอีก 166,800 คน เสี่ยงต้องอพยพเนื่องจากมีการประกาศเคอร์ฟิวในทุกพื้นที่ที่มีการอพยพประชาชนหนีไฟป่า ขณะเดียวกันเครื่องบินกองทัพอากาศของเม็กซิโกได้ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเมื่อวานนี้ เพื่อนำทีมบุคคลากร 74 คนจากกองทัพบกและคณะกรรมาธิการป่าไม้แห่งชาติ ไปช่วยปฏิบัติการดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ลามไม่หยุดทั่วเขตแคลิฟอร์เนียใต้ ภารกิจด้านมนุษยธรรมดังกล่าวครอบคลุมทั้งปฏิบัติการดับไฟป่าและปกป้องพลเรือน ขณะที่กงสุลเม็กซิโกในเมืองแอลเอประกาศไม่ปิดทำการและเสนอให้ที่พักพิงกับผู้ประสบภัยชาวเม็กซิโก ไม่ว่าจะมีสถานะเป็นผู้อพยพหรือไม่ ปัจจุบันมีชาวเม็กซิโกหรือลูกหลานชาวเม็กซิโกอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียคิดเป็นเกือบร้อยละ 30 ของประชากรทั้งรัฐ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คนร้ายลอบวางระเบิด 2 พ่อลูก ครู ตชด. เสียชีวิต

คนร้ายลอบวางระเบิด ถนนศรีสาคร-จะแนะ จ.นราธิวาส รถกระบะของครูใหญ่โรงเรียน ตชด. และลูกชาย ขับผ่านมา พลิกคว่ำหลายตลบ ก่อนบุกมาจ่อยิงซ้ำจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่เชื่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง หวังสร้างสถานการณ์ความปั่นป่วนในพื้นที่

“ตระกูลม่วงศิริ” ยกทีมซบพรรคเพื่อไทย

“ตระกูลม่วงศิริ” ยกทีมซบพรรคเพื่อไทย ด้าน “ธีรรัตน์” ต้อนรับกลับบ้านเก่า มองเป็นเรื่องน่ายินดีช่วยทำงานให้สำเร็จ ขณะที่ สก.ปชป.-ไทยสร้างไทย มาด้วย

นายกฯ เตรียมลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ 16 ม.ค.นี้

“แพทองธาร” นายกฯ เตรียมลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ 16 ม.ค.นี้ ติดตามโครงการพัฒนาพื้นที่ พบนักเรียน ประชาชน ร่วมมหกรรมแก้หนี้, พูดคุยผู้นำศาสนา-ผู้ประกอบการประมง-เร่งโครงการก่อสร้างสะพาน, ขุดลอกคลอง, โครงการเงินกู้ซอฟต์โลน

นายกฯ เรียกรัฐมนตรี-คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ ประชุมกรอบงบฯ 69

“แพทองธาร” นายกฯ เรียก 3 รมต.คลัง-ที่ปรึกษานโยบายของนายกฯ หารือสรุปทิศทางการทำงบประมาณปี 69 มั่นใจใช้งบที่มาจากภาษีประชาชน แก้ไขปัญหาพัฒนาประเทศได้ตรงจุด