ตร.-นิติเวช ขอเลื่อน กมธ.วุฒิสภา แจงคดีแตงโม

รัฐสภา 14 มี.ค.- “สมชาย” เผยตำรวจ สภ.นนทบุรี – นิติเวช ขอเลื่อนแจง คดีแตงโม หลัง กมธ.ฯ นัดสอบครั้งแรก วันนี้ มั่นใจกมธ.ฯ ทำงานได้ เชื่อไม่มีอิทธิพลใดแทรกแซงคดี


นายสมชาย แสวงการ ส.ว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวถึง การประชุมกมธ. ซึ่งมีวาระพิจารณาเรื่องร้องเรียนขอความเป็นธรรมและขอให้แต่งตั้งคณะกรรมการร่วมตรวจสอบการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม ดาราสาว อย่างเป็นทางการ ในวันนี้ (14 มี.ค) ว่า ก่อนหน้านั้น กมธ. ได้เชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรนนทบุรี ที่ทำคดีดังกล่าว และเจ้าหน้าที่จากสถาบันนิติเวชวิทยา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เข้าให้รายละเอียดที่เกี่ยวข้องแต่ได้รับแจ้งว่าเจ้าหน้าที่ สภ.นนทุบรี ว่า อยู่ระหว่างการสรุปสำนวน จึงเดินทางมาประชุมไม่ได้ เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่จากนิติเวชฯ ดังนั้นที่ประชุมจะพิจารณาถึงการตรวจสอบดังกล่าวว่า จะใช้กมธ.เต็มคณะ หรือตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณา ซึ่งตนยืนยันว่าตามหน้าที่ของกมธ. ที่กฎหมายรับรองและรัฐธรรมนูญจะทำหน้าที่ตรงไปตรงมา โดยขณะนี้กมธ.ไม่ปักใจเชื่อว่าการเสียชีวิของ แตงโม มาจากการฆาตกรรมหรืออุบัติเหตุ

“ การทำงานของกมธ. สามารถเรียกเอกสาร ภาพถ่ายผลการชันสูตรมาตรวจสอบได้ โดยไม่ต้องผ่าพิสูจน์ศพซ้ำอีก ยืนยันว่าจะทำตามหน้าที่ตรงไปตรงมา ไม่สนว่าเป็นใครหรือเข้าข้างใคร อีกทั้งจะไม่ชี้นำในการทำงานใดๆ ขอให้ไว้ใจได้ ส่วนที่สังคมตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ ว่าจะทำงานตรงไปตรงมาหรือไม่ ผมขอสังคมอย่าด่วนสรุปอีกทั้งมองว่าความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว ส่วนตรวจสอบการทำงานนั้นทำได้ ผ่านรายงานของแพทย์ ภาพถ่ายเปรียบเทียบและความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ” นายสมชาย กล่าว


นายสมชาย กล่าวว่า กมธ. ได้รวบรวมข้อมูลและรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตดังกล่าว ทั้งที่เผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนและโซเชียลมีเดีย ยอมรับว่าข้อมูลที่โซเชียลมีเดียนำมาเผยแพร่นั้นมีทั้งข้อมูลจริงและข้อมูลเท็จ ส่วนการทำงานของตำรวจเจ้าของคดีที่สังคมมองว่าทำงานช้า และไม่แถลงรายละเอียดนั้น ตนมองว่าเมื่อโดนสังคมกดดันจึงไม่มั่นใจ และต้องทำงานให้รอบคอบมากขึ้น ไม่มีอิทธิพลใดบิดเบือน

“ประเด็นอิทธิพล นั้น ผมยังเห็นแต่ข่าวลือ ยังไม่มีข้อเท็จจริง ส่วนที่สังคมตั้งคำถามว่า 1 ใน ผู้ที่เกี่ยวข้องบนเรือมีความเกี่ยวกับนักการเมืองและพ่อตาเป็นอดีตนายตำรวจใหญ่ ปฏิเสธไม่ได้เพราะสังคมไทยเป็นสังคมอุปถัมภ์ แต่จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือทางคดี บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือไม่นั้น ผมยังเชื่อใจ ผบ.ตร. ที่ไม่นำตำแหน่งหน้าที่ราชการไปแขวนไว้ หากพบว่าเจ้าหน้าที่กระทำผิดต้องรับผิดชอบ นอกจากนั้น นายกรัฐมนตรี เป็นถึงประธานกรรมการข้าราชการตำรวจคงไม่ยอม ดังนั้นคงไม่มีอิทธิพลใดใหญ่ไปกว่านายกฯ แน่นอน” นายสมชาย กล่าว.-สำนักข่าวไทย.


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง