ยกระดับเตรียมพร้อมรับมือฝุ่น PM2.5

กรุงเทพฯ 11 มี.ค.-ปลัดสำนักนายกฯ ติดตามการตรวจรถควันดำ ยกระดับการเตรียมพร้อมรับมือฝุ่น PM2.5 เผย นายกฯ ให้ความสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ ทุกภาคส่วนต้องเตรียมพร้อม เตือน 11-13 มี.ค. ระวังค่าฝุ่นละอองสูงขึ้น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณหน้าสถานทีรถไฟฟ้า BTS หมอชิต ถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร กทม. นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการสื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ พร้อมด้วยนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน ณ จุดตรวจรถยนต์ควันดำ บริเวณหน้าสถานทีรถไฟฟ้า BTS หมอชิต ถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร ตามข้อสั่งการพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนโยบายของรัฐบาลที่เข้มงวดการตรวจจับรถควันดำ ตรวจจับ ปรับจริงห้ามใช้รถควันดำ และบังคับใช้บทลงโทษสูงสุด เพื่อลดฝุ่น PM2.5 ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค

ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่านายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ และตามแผนปฏิบัติการลดมลพิษทางอากาศฯ โดยเฉพาะการลดฝุ่นละออง PM2.5 ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อน ภาครัฐโดยกรมควบคุมมลพิษและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ยกระดับการเตรียมความพร้อมการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง ทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ การป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่ต้นทาง และการลดบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด


“สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ณ วันที่ 11 มีนาคม 2565 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 17-42 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) สำหรับพื้นที่เขตจตุจักร อยู่ในเกณฑ์คุณภาพอากาศดี ตรวจวัดได้ 29 มคก./ลบ.ม. และภาพรวมการตั้งจุดสกัดรถยนต์ควันดำ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ผลการตรวจสอบสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.64 ถึง 9 มี.ค.65 แบ่งเป็น พื้นที่ กทม. ตรวจสอบสะสม 143,752 คัน พบรถยนต์ควันดำเกินค่ามาตรฐานสะสม 38,349 คัน ห้ามใช้สะสม 648 คัน และพื้นที่ต่างจังหวัด ตรวจสอบสะสม 70,522 คัน พบรถยนต์ควันดำเกินค่ามาตรฐาน 933 คัน ห้ามใช้สะสม 993 คัน จากสถิติในภาพรวมพบรถยนต์ควันดำเกินค่ามาตรฐานประมาณ 18 เปอร์เซ็นต์ สำหรับจุดตรวจในพื้นที่เขตจตุจักรวันนี้ (11 มี.ค.65) เป็นการปฏิบัติการร่วมกันระหว่างกรมการขนส่งทางบก กรมควบคุมมลพิษ และกองบังคับการตำรวจจราจร ตรวจสอบรถยนต์ที่สัญจรไปมาบนบริเวณหน้าสวนจตุจักร จำนวน 40 คัน พบรถยนต์ควันดำเกินค่ามาตรฐาน 6 คัน” นายธีรภัทร กล่าว

ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ หรือ ศกพ. และกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า คาดหมายคุณภาพอากาศในวันที่ 11 โ€“ 13 มีนาคม 2565 ฝุ่นละอองจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อาจพบเกินเกณฑ์มาตรฐานในบางพื้นที่ เพิ่มมากขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนลดกิจกรรมการใช้ยานพาหนะ งดการเผาเศษวัชพืชในที่โล่งและพื้นที่เกษตรกรรม นำยานพาหนะเข้าบำรุงรักษาตามวงรอบ สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ออกนอกที่พัก และติดตามรายงานสถานการณ์จากศกพ.อย่างต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย  


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง