เตรียมจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระพันปีหลวง 90 พรรษา

ทำเนียบรัฐบาล 14 มิ.ย.-รัฐบาลเตรียมจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 เชิญชวนหน่วยงาน ประชาชนร่วมกิจกรรม


นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะกรรมการฝ่ายพิธีการการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 โดยมีนายวิษณุ  เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ ประชุมเตรียมการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา ตามที่รัฐบาล โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประธานกรรมการอำนวยการจัดงาน ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ แล้ว

สรุปการจัดงาน ดังนี้ 1.กำหนดชื่อการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ว่า “การจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 โดยชื่อการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ เป็นภาษาอังกฤษว่า “Celebrations on the Auspicious Occasion of Her Majesty Queen Sirikit The Queen Mother’s 90th Birthday Anniversary 12th August 2022” กำหนดการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ระหว่างวันที่ 1มกราคม 2565 ถึง 31 ธันวาคม  2565


2. มีตราสัญลักษณ์พระราชพิธีซึ่งกรมศิลปากรออกแบบตราสัญลักษณ์ พร้อมความหมาย โดยผู้ประสงค์ขออนุญาตใช้ตราสัญลักษณ์ฯ จะต้องเป็นนิติบุคคล หน่วยงานของรัฐ ภาคเอกชน มูลนิธิ สมาคม ชมรม หรือ บริษัท ห้าง ร้าน ซึ่งการนำตราสัญลักษณ์ฯ เพื่อประดับหรือประดิษฐานบนสิ่งของใด  ๆ จะพิจารณาถึงความเหมาะสมเรื่องรูปแบบ วัตถุประสงค์ เจตนารมณ์ และจะต้องมีแผนดำเนินงานในระยะเวลาขอบเขตการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2565 ถึง 31 ธันวาคม 2565 โดยสามารถยื่นคำขอระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม 2565 ถึง 31 ตุลาคม 2565 และส่งคำขออนุญาตไปยังคณะกรรมการฝ่ายกลั่นกรองการขอใช้ตราสัญลักษณ์ การจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล สอบถามรายละเอียดได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 283 4789 -91 หรือดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.opm.go.th

 3. การจัดทำโครงการและกิจกรรมร่วมเฉลิมพระเกียรติฯ เชิญชวนหน่วยงานภาครัฐจัดทำโครงการและกิจกรรมร่วมเฉลิมพระเกียรติฯ ในระยะเวลาขอบเขตการจัดงาน ซึ่งขณะนี้มีหน่วยงานเสนอโครงการและกิจกรรมเข้าร่วมเฉลิมพระเกียรติฯ แล้วกว่า 1,000โครงการ / กิจกรรม โดยมีโครงการและกิจกรรมสำคัญ ดังนี้ 3.1 รัฐบาลจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ “ด้วยรักแห่งแผ่นดิน : With Love  for the Nation” กำหนดระหว่างวันที่ 1-15สิงหาคม 2565 บริเวณถนนราชดำเนินกลางตั้งแต่สะพานผ่านฟ้าลีลาศถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แบ่งเป็น 5 โซน ได้แก่ โซนที่ 1 จัดกิจกรรม ณ นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ โดยการจัดนิทรรศการในรูปแบบ Live Exhibition ซึ่งมีแนวความคิดการจัดนิทรรศการเชื่อมโยงกับโครงการป่ารักน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

โซนที่ 2 จัดกิจกรรมการสาธิตและการออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์และผลผลิตจากการน้อมนำแนวพระราชดำริสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ บริเวณลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ และการจำหน่ายสินค้า รวมถึงสาธิตการทำขนม หรืองานประดิษฐ์ต่าง ๆ ณ ซอยดำเนินกลางใต้ (ฝั่งวัดราชนัดดาราม) โซนที่ 3. จัดกิจกรรม ณ หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน โดยการนำเสนอเรื่องราววิถีชีวิตของคนไทยที่น้อมนำพระราชดำริเพื่อมาปรับใช้ทำให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมถึงการแสดงศิลปวัฒนธรรมของภาคต่าง ๆ


โซนที่ 4. จัดกิจกรรม ณ บริเวณป้อมมหากาฬ โดยจัดการเปิดพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กและเยาวชน (Free Space) ได้แสดงความสามารถและผลงานที่มีความสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมในด้านต่าง ๆ และโซนที่ 5. จัดกิจกรรม ณ บริเวณป้อมมหากาฬและตลอดแนวคลองโอ่งอ่าง โดยจัดการออกร้านเลิศลิ้มชิมรส ซึ่งเป็นการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มจากร้านที่มีชื่อเสียงจากทุกเขตของกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะสถานที่สำคัญ และร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ภายในวัดเทพธิดารามและวัดราชนัดดาราม

3.2 โครงการมหกรรมผ้าไหมไทย ไหมไทยสู่เส้นทางโลก เฉลิมพระเกียรติฯ กำหนดในวันที่ 28 พฤษภาคม 2565 ณ หอประชุมกองทัพเรือ โดยจัดนิทรรศการผ้าไหมไทย การแสดงแฟชั่นโชว์ชุดผ้าไหมไทย ซึ่งผู้เดินแบบเป็นผู้แทนจากรัฐบาลไทย คณะทูตานุทูตและคณะกงสุลจากประเทศต่าง ๆ รวม 100 ประเทศ 3.3 โครงการหนังสือสมาร์ท – สมุดรายนามผู้ผลิตผ้าไหมและผู้ประกอบการทั่วประเทศแบบดิจิตอลเฉลิมพระเกียรติฯ โดยนำรายชื่อผู้ผลิตและผู้ประกอบการผ้าไหมเข้าสู่ระบบดิจิตอล เพื่อจัดทำระบบฐานข้อมูลในรูปแบบ Social Media สื่อสิ่งพิมพ์ และ E-Book ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ รวมทั้งจัดทำสมุดรายนามฉบับพิเศษเพื่อทูลเกล้าฯ ถวาย และเป็นของที่ระลึกแด่ผู้นำพร้อมคู่สมรส และผู้แทนจากต่างประเทศที่เข้าร่วมการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิค (APEC) ปี 2565

4. การจัดทำสารสารคดีโทรทัศน์เฉลิมพระเกียรติฯ ในนามคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ เพื่อเผยแพร่ ในช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5. การจัดพิธีทางศาสนา 5.1 โครงการบรรพชาอุปสมบท 910 รูป เฉลิมพระเกียรติฯ กำหนดดำเนินการโครงการฯ ระหว่างวันที่ 25 กรกฎาคม 2565 ถึงวันที่ 13 สิงหาคม 2565 ส่วนกลางกำหนดจัดพิธี ณ วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก กรุงเทพมหานคร จำนวน 91 คน และส่วนภูมิภาคกำหนดจัดพิธี ณ วัดในจังหวัดต่าง ๆ ที่กำหนด จำนวน 819 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการรับสมัครตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2565 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2565

 5.2 พิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 91 รูป จากโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติฯ ถวายพระราชกุศล ในวันที่ 12 สิงหาคม 2565 ส่วนกลางจัดพิธี ณ ท้องสนามหลวง เวลา 07.30 น. ส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดจัดพิธี ณ ศาลากลางจังหวัดหรือสถานที่ที่เหมาะสม และในต่างประเทศสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลพิจารณาการจัดพิธีตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม 5.3 พิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา ถวายพระราชกุศล ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาซิกข์ ในวันที่ 12 สิงหาคม 2565 เวลา 09.09 น. ส่วนกลางจัดพิธี ณ ท้องสนามหลวง พระสงฆ์ จำนวน 91 รูป ซึ่งเป็นพระสงฆ์จากโครงการพรรพชาอุปสมบทฯ และส่วนภูมิภาค ทุกจังหวัดจัดพิธี ณ ศาลากลางจังหวัดหรือสถานที่ที่เหมาะสม 

6. พิธีถวายเครื่องราชสักการะและวางพานพุ่ม และพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ในวันที่ 12 สิงหาคม 2565 เวลา 18.00 น. และเวลา 19.19 น. ตามลำดับ ส่วนกลางจัดพิธี ณ ท้องสนามหลวง ส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดจัดพิธี ณ ศาลากลางจังหวัดหรือสถานที่ที่เหมาะสม และในต่างประเทศสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลพิจารณาการจัดพิธีตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม 7. กิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์และสาธารณกุศล เพื่อถวายพระราชกุศลในระยะเวลาขอบเขตการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ โดยสามารถจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาได้ตามความเหมาะสม

ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ร่วมน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความจงรักภักดี เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตลอดปี 2565 โดยร่วมจัดทำโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ และถวายพระราชกุศลให้เป็นไปอย่างสมพระเกียรติ ในโอกาสดังกล่าว ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมขอให้ดำเนินการตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

“ขอเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน จัดตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระฉายาลักษณ์ พร้อมเครื่องราชสักการะ ตกแต่งสถานที่ประดับพระฉายาลักษณ์ ประดับธงชาติคู่กับธงตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 พร้อมประดับผ้าระบายสีฟ้าร่วมกับผ้าระบายสีขาว ตามอาคารสถานที่ของหน่วยงานและบ้านเรือน จัดทำคำถวายพระพรชัยมงคลเผยแพร่ทางเว็บไซต์และสื่อออนไลน์ของหน่วยงาน และจัดการลงนามถวายพระพรชัยมงคลภายในหน่วยงานหรือทางเว็บไซต์ตลอดเดือนสิงหาคม 2565” ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดรายชื่อทหาร 3 นาย บาดเจ็บ เหยียบกับระเบิด

สุรินทร์ 27 ส.ค.-เปิดรายชื่อทหาร 3 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บ เหยียบกับระเบิด บริเวณเนิน 350 ใกล้ปราสาทตาควาย ขณะออกลาดตระเวน เมื่อวันที่ 27 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการที่ หน่วยทหารจาก พัน.ร.22 ได้จัดกำลังพลออกลาดตระเวนระหว่างฐานปฏิบัติการ บริเวณหน้าบังเกอร์ 11-12 ด้านทิศตะวันตกของปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ได้เหยียบกับระเบิดแสวงเครื่องชนิด PMN-2 ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1.พลทหาร อดิสร ป้อมกลาง สังกัดสนาม มว.3 ร้อย.ร.221 บาดเจ็บข้อเท้าขวาขาด ขณะนี้อยู่ระหว่างลำเลียงทางอากาศจาก รพ.พนมดงรัก ไปยัง รพ.สุรินทร์ พร้อมชุด Sky Doctor2.จ.ส.อ. ณัฐพงศ์ สีชิน สังกัดสนาม มว.3 ร้อย.ร.221 ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่แผ่นหลัง อาการบาดเจ็บเล็กน้อย ส่งกลับเข้ารับการรักษาที่ รพ.พนมดงรัก3.พลทหาร ธรรณ์ณธร เทากระโทก สังกัดสนาม มว.3 […]

มทภ.2 ประณามกัมพูชา หลังทหารไทยเหยียบกับระเบิด

กทม. 27 ส.ค.- มทภ.2 ประณามกัมพูชา ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง-อนุสัญญาออตตาวาไม่หยุด หลังทหารไทยเหยียบกับระเบิดข้อเท้าขาด 1 นาย ชี้ทุ่นระเบิดมีโครงสร้างพลาสติก เครื่องตรวจหาไม่เจอ เมื่อวันที่ 26 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวประณามกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและอนุสัญญาออตตาวา ต่อเนื่อง หลังวันนี้ เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว พล.ท.บุญสิน ระบุว่า เนิน 350 ปราสาทตาควาย เป็นพื้นที่ที่ทหารกัมพูชาวางกำลังหนาแน่น และมีทุ่นระเบิดรอบพื้นที่ โดยวันนี้ทหารไทยออกลาดตระเวน ซึ่งเครื่องตรวจวัตถุระเบิดตรวจหาไม่เจอ เนื่องจากทุ่นระเบิดดังกล่าวโครงสร้างเป็นพลาสติก คาดเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่ เบื้องต้นได้ทำหนังสือประท้วงไปทางฝ่ายกัมพูชาแล้ว และเตรียมกำหนดแผนทางการทหารต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

“อดีต ผอ.ขนมจีนน้ำปลา” นอนคุก 20 ปี 60 เดือน หลังศาลฎีกายกคำร้องลดโทษ

สุราษฎร์ธานี 27 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้องลดโทษ ปิดคดีอดีต ผอ.โรงเรียนบ้านท่าใหม่ จ.สุราษฎร์ธานี ปมให้เด็กอนุบาลกินขนมจีนราดน้ำปลา หลังสู้นาน 5 ปี สุดท้ายรับโทษจำคุก 20 ปี 60 เดือน นายสุชาติ กรวยกิตานนท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 8 เป็นประธานแถลงผลคดีที่กล่าวหาอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่าใหม่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ทุจริตเงินอุดหนุนค่าอาหารกลางวันนักเรียนของโรงเรียนบ้านท่าใหม่ ให้เด็กอนุบาลกินขนมจีนราดน้ำปลา และจัดทำเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการจัดซื้อวัสดุเครื่องบริโภคเพื่อประกอบอาหารกลางวันเป็นเท็จ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2563 และได้ส่งไปให้อัยการสูงสุด ฟ้องผู้ถูกกล่าวหาต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 และมีคำพิพากษาให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด รวม 77 กระทง จำคุก 192 ปี 6 เดือน เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว คงจำคุก 50 ปี ซึ่งอดีต ผอ.คนดังกล่าว ได้ยื่นอุทรณ์ขอลดโทษ ภายหลังศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาแก้เป็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน […]

ยังไม่พบผู้เสียหายและทำผิดกฎหมาย จากกรณีสแกนม่านตาแลกรับเงิน

ทำเนียบ 27 ส.ค.-รองโฆษกรัฐบาล เผยตรวจสอบล่าสุดยังไม่พบผู้เสียหายและทำผิดกฎหมาย จากกรณีสแกนม่านตาแลกรับเงิน เตือนประชาชนอย่าประมาท นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีที่ได้ระบุถึงจากข้อมูลของสภาองค์กรของผู้บริโภคที่มีการรายงานว่าพบการชักชวนให้ประชาชนสแกนม่านตาแลกรับเงิน 500-1,000 บาท ในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศไทย โดยอ้างถึงว่าจะไปแลกเหรียญคริปโต ซึ่งผู้ที่สแกนม่านตาจะได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินรายละ 1,000 บาท ภายใน 24 ชั่วโมง ขณะที่ผู้แนะนำสมาชิกจะได้รับเงิน 500 บาทต่อราย สูงสุดไม่เกิน 10 ราย ล่าสุดมีความคืบหน้าว่า สำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPC) ตรวจสอบของตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า การดำเนินงานของผู้ให้บริการในปัจจุบันถูกต้องตามกฎหมาย และคล้ายกับการดำเนินการในหลายประเทศ ในปัจจุบัน และได้มีการเตรียมประสานกระทรวงดีอีและหน่วยงานอื่นหามาตราการควบคุมข้อมูลอ่อนไหว และยังไม่พบผู้เสียหายหรือกระทำผิดกฎหมาย ทั้งนี้หากพบการละเมิดหรือนำข้อมูลไปใช้ในทางมิชอบ จะดำเนินคดีทันที นายอนุกูล กล่าวว่า เพื่อสร้างความตระหนักรู้เท่าทันต่อความสำคัญของความปลอดภัยที่เหมาะสม รัฐบาลขอย้ำว่า ข้อมูลส่วนบุคคลทางชีวภาพ ถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลขั้นสูงสุด การยินยอมให้เก็บ หรือสแกนจึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงความเสี่ยง ดังนี้ 1. การรั่วไหลของข้อมูล หากข้อมูลรหัส Iris Code […]

ข่าวแนะนำ

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย