เตรียมจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระพันปีหลวง 90 พรรษา

ทำเนียบรัฐบาล 14 มิ.ย.-รัฐบาลเตรียมจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 เชิญชวนหน่วยงาน ประชาชนร่วมกิจกรรม


นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะกรรมการฝ่ายพิธีการการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 โดยมีนายวิษณุ  เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ ประชุมเตรียมการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา ตามที่รัฐบาล โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประธานกรรมการอำนวยการจัดงาน ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ แล้ว

สรุปการจัดงาน ดังนี้ 1.กำหนดชื่อการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ว่า “การจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 โดยชื่อการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ เป็นภาษาอังกฤษว่า “Celebrations on the Auspicious Occasion of Her Majesty Queen Sirikit The Queen Mother’s 90th Birthday Anniversary 12th August 2022” กำหนดการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ระหว่างวันที่ 1มกราคม 2565 ถึง 31 ธันวาคม  2565


2. มีตราสัญลักษณ์พระราชพิธีซึ่งกรมศิลปากรออกแบบตราสัญลักษณ์ พร้อมความหมาย โดยผู้ประสงค์ขออนุญาตใช้ตราสัญลักษณ์ฯ จะต้องเป็นนิติบุคคล หน่วยงานของรัฐ ภาคเอกชน มูลนิธิ สมาคม ชมรม หรือ บริษัท ห้าง ร้าน ซึ่งการนำตราสัญลักษณ์ฯ เพื่อประดับหรือประดิษฐานบนสิ่งของใด  ๆ จะพิจารณาถึงความเหมาะสมเรื่องรูปแบบ วัตถุประสงค์ เจตนารมณ์ และจะต้องมีแผนดำเนินงานในระยะเวลาขอบเขตการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2565 ถึง 31 ธันวาคม 2565 โดยสามารถยื่นคำขอระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม 2565 ถึง 31 ตุลาคม 2565 และส่งคำขออนุญาตไปยังคณะกรรมการฝ่ายกลั่นกรองการขอใช้ตราสัญลักษณ์ การจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล สอบถามรายละเอียดได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 283 4789 -91 หรือดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.opm.go.th

 3. การจัดทำโครงการและกิจกรรมร่วมเฉลิมพระเกียรติฯ เชิญชวนหน่วยงานภาครัฐจัดทำโครงการและกิจกรรมร่วมเฉลิมพระเกียรติฯ ในระยะเวลาขอบเขตการจัดงาน ซึ่งขณะนี้มีหน่วยงานเสนอโครงการและกิจกรรมเข้าร่วมเฉลิมพระเกียรติฯ แล้วกว่า 1,000โครงการ / กิจกรรม โดยมีโครงการและกิจกรรมสำคัญ ดังนี้ 3.1 รัฐบาลจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ “ด้วยรักแห่งแผ่นดิน : With Love  for the Nation” กำหนดระหว่างวันที่ 1-15สิงหาคม 2565 บริเวณถนนราชดำเนินกลางตั้งแต่สะพานผ่านฟ้าลีลาศถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แบ่งเป็น 5 โซน ได้แก่ โซนที่ 1 จัดกิจกรรม ณ นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ โดยการจัดนิทรรศการในรูปแบบ Live Exhibition ซึ่งมีแนวความคิดการจัดนิทรรศการเชื่อมโยงกับโครงการป่ารักน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

โซนที่ 2 จัดกิจกรรมการสาธิตและการออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์และผลผลิตจากการน้อมนำแนวพระราชดำริสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ บริเวณลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ และการจำหน่ายสินค้า รวมถึงสาธิตการทำขนม หรืองานประดิษฐ์ต่าง ๆ ณ ซอยดำเนินกลางใต้ (ฝั่งวัดราชนัดดาราม) โซนที่ 3. จัดกิจกรรม ณ หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน โดยการนำเสนอเรื่องราววิถีชีวิตของคนไทยที่น้อมนำพระราชดำริเพื่อมาปรับใช้ทำให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมถึงการแสดงศิลปวัฒนธรรมของภาคต่าง ๆ


โซนที่ 4. จัดกิจกรรม ณ บริเวณป้อมมหากาฬ โดยจัดการเปิดพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กและเยาวชน (Free Space) ได้แสดงความสามารถและผลงานที่มีความสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมในด้านต่าง ๆ และโซนที่ 5. จัดกิจกรรม ณ บริเวณป้อมมหากาฬและตลอดแนวคลองโอ่งอ่าง โดยจัดการออกร้านเลิศลิ้มชิมรส ซึ่งเป็นการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มจากร้านที่มีชื่อเสียงจากทุกเขตของกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะสถานที่สำคัญ และร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ภายในวัดเทพธิดารามและวัดราชนัดดาราม

3.2 โครงการมหกรรมผ้าไหมไทย ไหมไทยสู่เส้นทางโลก เฉลิมพระเกียรติฯ กำหนดในวันที่ 28 พฤษภาคม 2565 ณ หอประชุมกองทัพเรือ โดยจัดนิทรรศการผ้าไหมไทย การแสดงแฟชั่นโชว์ชุดผ้าไหมไทย ซึ่งผู้เดินแบบเป็นผู้แทนจากรัฐบาลไทย คณะทูตานุทูตและคณะกงสุลจากประเทศต่าง ๆ รวม 100 ประเทศ 3.3 โครงการหนังสือสมาร์ท – สมุดรายนามผู้ผลิตผ้าไหมและผู้ประกอบการทั่วประเทศแบบดิจิตอลเฉลิมพระเกียรติฯ โดยนำรายชื่อผู้ผลิตและผู้ประกอบการผ้าไหมเข้าสู่ระบบดิจิตอล เพื่อจัดทำระบบฐานข้อมูลในรูปแบบ Social Media สื่อสิ่งพิมพ์ และ E-Book ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ รวมทั้งจัดทำสมุดรายนามฉบับพิเศษเพื่อทูลเกล้าฯ ถวาย และเป็นของที่ระลึกแด่ผู้นำพร้อมคู่สมรส และผู้แทนจากต่างประเทศที่เข้าร่วมการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิค (APEC) ปี 2565

4. การจัดทำสารสารคดีโทรทัศน์เฉลิมพระเกียรติฯ ในนามคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ เพื่อเผยแพร่ ในช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5. การจัดพิธีทางศาสนา 5.1 โครงการบรรพชาอุปสมบท 910 รูป เฉลิมพระเกียรติฯ กำหนดดำเนินการโครงการฯ ระหว่างวันที่ 25 กรกฎาคม 2565 ถึงวันที่ 13 สิงหาคม 2565 ส่วนกลางกำหนดจัดพิธี ณ วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก กรุงเทพมหานคร จำนวน 91 คน และส่วนภูมิภาคกำหนดจัดพิธี ณ วัดในจังหวัดต่าง ๆ ที่กำหนด จำนวน 819 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการรับสมัครตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2565 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2565

 5.2 พิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 91 รูป จากโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติฯ ถวายพระราชกุศล ในวันที่ 12 สิงหาคม 2565 ส่วนกลางจัดพิธี ณ ท้องสนามหลวง เวลา 07.30 น. ส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดจัดพิธี ณ ศาลากลางจังหวัดหรือสถานที่ที่เหมาะสม และในต่างประเทศสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลพิจารณาการจัดพิธีตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม 5.3 พิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา ถวายพระราชกุศล ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาซิกข์ ในวันที่ 12 สิงหาคม 2565 เวลา 09.09 น. ส่วนกลางจัดพิธี ณ ท้องสนามหลวง พระสงฆ์ จำนวน 91 รูป ซึ่งเป็นพระสงฆ์จากโครงการพรรพชาอุปสมบทฯ และส่วนภูมิภาค ทุกจังหวัดจัดพิธี ณ ศาลากลางจังหวัดหรือสถานที่ที่เหมาะสม 

6. พิธีถวายเครื่องราชสักการะและวางพานพุ่ม และพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ในวันที่ 12 สิงหาคม 2565 เวลา 18.00 น. และเวลา 19.19 น. ตามลำดับ ส่วนกลางจัดพิธี ณ ท้องสนามหลวง ส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดจัดพิธี ณ ศาลากลางจังหวัดหรือสถานที่ที่เหมาะสม และในต่างประเทศสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลพิจารณาการจัดพิธีตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม 7. กิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์และสาธารณกุศล เพื่อถวายพระราชกุศลในระยะเวลาขอบเขตการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ โดยสามารถจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาได้ตามความเหมาะสม

ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ร่วมน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความจงรักภักดี เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตลอดปี 2565 โดยร่วมจัดทำโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ และถวายพระราชกุศลให้เป็นไปอย่างสมพระเกียรติ ในโอกาสดังกล่าว ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมขอให้ดำเนินการตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

“ขอเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน จัดตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระฉายาลักษณ์ พร้อมเครื่องราชสักการะ ตกแต่งสถานที่ประดับพระฉายาลักษณ์ ประดับธงชาติคู่กับธงตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 พร้อมประดับผ้าระบายสีฟ้าร่วมกับผ้าระบายสีขาว ตามอาคารสถานที่ของหน่วยงานและบ้านเรือน จัดทำคำถวายพระพรชัยมงคลเผยแพร่ทางเว็บไซต์และสื่อออนไลน์ของหน่วยงาน และจัดการลงนามถวายพระพรชัยมงคลภายในหน่วยงานหรือทางเว็บไซต์ตลอดเดือนสิงหาคม 2565” ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]