ท่าเรือแหลมเทียน 3 มี.ค.-ผบ.ทร.ยันทำให้ดีที่สุด กรณีเกิดปัญหาเรื่องเครื่องยนต์เรือดำน้ำที่เยอรมนีปฏิเสธขายให้จีน ขณะเสธ ทร.ย้ำต้องเป็นเครื่อง MTU 396 เท่านั้น ยึดตามสัญญาทุกประการ มองฝ่ายค้านโจมตีเป็นเรื่องธรรมชาติ เดินหน้าต่อตามยุทธศาสตร์กองทัพ ยึดผลประโยชน์ชาติ
พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ ให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆถึงปัญหาการจัดซื้อเรือดำน้ำล่าช้า จะดำเนินการต่ออย่างไร ว่า จะทำให้ดีที่สุด หาหนทางให้ดีที่สุดและมีแผนรองรับ
ด้านพล.ร.อ. เถลิงศักดิ์ ศิริสวัสดิ์ เสนาธิการทหารเรือ ประธานคณะกรรมการดำเนินงานโครงการเรือดำน้ำ กล่าวถึงทางออกหลังเยอรมนีปฏิเสธจำหน่ายเครื่องยนต์ดีเซลขับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า MTU396 ให้บริษัทของจีนเพื่อติดตั้งในเรือดำน้ำ S26Tที่กองทัพเรือจัดซื้อว่า จะทำให้ดีที่สุด และได้เเจ้งทางฝ่ายจีนไปว่าขอยืนยันตามสัญญาทุกประการ เพื่อคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและกองทัพเรือเป็นสำคัญ ยืนยันว่าจะทำให้ดีที่สุด
เมื่อถามว่าหากกองทัพเรือยืนยันเครื่องยนต์ MTU แต่เยอรมันไม่ขายให้จีน ได้เตรียมทางออกไว้อย่างไร เสนาธิการทหารเรือ กล่าวว่า เรายืนยันกับทางจีนไปว่าเราปฏิบัติตามสัญญา ก็คงต้องไปเข้าสู่ฝั่งจีน เรายืนยันแล้วว่าต้องเป็น MTU 396
“ส่วนกรณีฝ่ายค้านระบุบริษัท csoc จากจีนส่งผู้จัดการโครงการและผู้บริหาร 4 คนมาคุมงานก่อสร้างท่าจอดเรือดำน้ำ แต่พบข้อมูลว่าเป็นครูสอนภาษาจีนนั้น ขอย้ำว่าเป็นไปตามที่โฆษกกองทัพเรือชี้แจงไปแล้ว ขอไม่ให้ข่าวซ้ำ โดยมี นาย Lang Qingxu เป็นผู้บริหารโครงการ และมีนายจักรพงษ์ วงศ์ธนปกรณ์ เป็นวิศวกรโครงการ ส่วนบุคคลอื่น ๆ ไม่เกี่ยวข้อง การโจมตีของฝ่ายค้านถือเป็นเรื่องธรรมชาติ” พล.ร.อ. เถลิงศักดิ์ กล่าว
ส่วนจะเรียกค่าปรับจากจีนหรือไม่กรณีที่จีนไม่สามารถดำเนินการได้ เสนาธิการทหารเรือ กล่าวว่า อยู่ในสัญญาเรียบร้อย แต่ยังไม่ไปถึงขั้นนั้น ขอให้ใจเย็น ๆ ซึ่งสัญญาการส่งมอบได้เลื่อนออกไปเป็นเดือนพฤษภาคม ปี 2567 เนื่องจากปัญหาโควิดที่เมืองอู่ฮั่น ซึ่งขอเลื่อนมา 6 เดือนแล้ว คงต้องรอดูต่อไป แต่ในภาพรวมการต่อเรือดำน้ำคืบหน้าไปกว่า 50% แล้ว ส่วนฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตการก่อสร้างท่าจอดเรือดำน้ำ ไม่มีผลกระทบอะไร เพราะต้องเดินหน้าก่อสร้างตามสัญญาต่อไป
เมื่อถามว่า หากไม่ได้แล้วขอเลื่อนไปเรื่อย ๆ จะมีแผนรองรับอย่างไร เพราะเป็นเรือดำน้ำลำแรกที่จัดซื้อ เสนาธิการทหารเรือ กล่าวว่า เราพยายามแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด เราอยากได้เรือดำน้ำมาใช้ เพราะเป็น ยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือ ซึ่งยุทธศาสตร์ของชาติต้องมีเรือดำน้ำ อุปสรรคที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องธรรมชาติ เราคงน้อยใจไม่ได้ ต้องสู้ต่อไป เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ของชาติและยุทธศาสตร์กองทัพเรือ
“ส่วนจะยกเลิกการซื้อเรือดำน้ำหรือไม่ เป็นเรื่องของอนาคต ฝ่ายไทยและฝ่ายจีนคงต้องมาพูดกันว่าจะแก้ปัญหาตรงนี้อย่างไร ถ้าถามว่ากองทัพเรืออยากได้เรือดำน้ำหรือไม่ เราอยากได้เรือดำน้ำแน่นอน 100% ส่วนจะอยากได้แบบไหนคงต้องตอบว่า อยากได้ตามสัญญาที่ลงนามเอาไว้ทั้ง 2 ฝ่าย” เสนาธิการทหารเรือ กล่าว
ส่วนหากจีนเสนอเรือดำน้ำมือ 2 มาให้ จะพิจารณาอย่างไร เสนาธิการทหารเรือ กล่าวว่า ยังไม่ทราบตรงนี้ เพราะยังเป็นแค่ข่าว ยังไม่ได้รับทราบอย่างเป็นทางการจากฝ่ายจีน .-สำนักข่าวไทย