ลงมติแก้ กม.ลูกสมัยประชุมหน้ากันครหาถ่วงเวลา

กระทรวงสาธารณสุข 2 มี.ค.-“สาธิต” เผยตั้งใจทำกฎหมายลูกเลือกตั้ง ส.ส.-พรรคการเมือง ให้เสร็จช่วงปิดสมัยประชุม ให้พร้อมลงมติในสมัยประชุมหน้า ป้องกันข้อครหาเตะถ่วง ชี้ตำแหน่งประธานเป็นเผือกร้อน ได้มาโดยบังเอิญ เชื่อไม่สร้างรอยร้าวในพรรคร่วมรัฐบาล


นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ให้สัมภาษณ์ “สำนักข่าวไทย” ยืนยันจะเร่งพิจารณาร่างพระราชบัญญัติทั้ง 2 ฉบับ ให้เสร็จภายในช่วงปิดสมัยประชุม โดยมีเวลาประมาณ 2 เดือน จะพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ในวันพุธ และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ในวันพฤหัสบดี ซึ่งจะเริ่มในสัปดาห์หน้า

นายสาธิต กล่าวว่า จะนำร่าง พ.ร.บ.ทั้งสองฉบับเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมร่วมรัฐสภาในสมัยประชุมหน้าทันที หลังวันที่ 22 พฤษภาคม หรือหากเสร็จเร็วจะประสานประธานรัฐสภา เพื่อขอเปิดสมัยประชุมวิสามัญพิจารณาให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อป้องกันข้อครหาว่ารัฐบาลเตะถ่วง เพราะต้องการอยู่ในตำแหน่งนาน ๆ ทั้งนี้ ยังไม่มีนโยบายอะไรมาจากรัฐบาล และยืนยันว่ารัฐบาลสั่งไม่ได้ เพราะกรรมาธิการฯ ชุดนี้ตั้งโดยรัฐสภา กลไกในกรรมาธิการจะถูกคัดท้ายด้วยประธาน แต่ถูกเดินด้วยความเห็นของกรรมาธิการที่มาจากทุกพรรคการเมืองและวุฒิสมาชิก


“รัฐบาลต้องแสดงออกให้เห็นว่าไม่ได้ถ่วงเวลาที่จะใช้กฎหมายเพื่อให้อยู่ได้นาน ทุกอย่างต้องเตรียมพร้อมไว้เสมอ เพราะต้องยอมรับว่าขณะนี้ในบ้านเมืองมีความเห็น ความเชื่อแตกต่างกัน รัฐบาลจึงต้องแสดงออก ให้ความเชื่อมั่นกับประชาชนว่าไม่ได้ยื้อเวลา และกฎหมายลูกเป็นกลไกหนึ่งที่ต้องเตรียมความพร้อมเอาไว้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีสิทธิอยู่แล้วว่าจะอยู่ต่อหรือยุบสภา เป็นทางเลือกที่เปิดเอาไว้ แต่ถ้าจะเลือกทำอย่างอื่นแล้วกฎหมายลูกยังไม่เสร็จ ยิ่งตอบคำถามไม่ได้ว่ารัฐบาลจะยื้อหรือจะดึงให้อยู่ต่อ ผมคิดว่าต้องทำตรงนี้ให้พร้อม เพื่อไม่ให้เป็นข้อครหาจากประชาชนที่มีมาถึงท่านนายกรัฐมนตรี แต่ไม่ได้มีสัญญาณว่าจะมีเลือกตั้งเร็ว ๆ นี้ ผมไม่ทราบ ผมไม่เกี่ยว” นายสาธิต กล่าว

ส่วนจำเป็นต้องทำความเข้าใจหรือเคลียร์กับนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ จากพรรคพลังประชารัฐ ที่มีชื่อเป็นประธานก่อนหน้านี้หรือไม่ นายสาธิต กล่าวว่า ไม่ได้มีหน้าที่ต้องไปเคลียร์ เพราะตนไม่ได้เข้าร่วมประชุมกรรมาธิการฯ และไม่ได้มีส่วนเสนอตัวเอง แต่กรรมาธิการเลือกตน ซึ่งเมื่อตกลงเลือก ตนก็ต้องยอมรับและขอบคุณกรรมาธิการฯ ที่ให้ความเชื่อมั่นว่าตนจะมีความเป็นกลาง

“มั่นใจว่าไม่น่าจะมีปัญหาการทำงานร่วมกันในคณะกรรมาธิการ โดยเฉพาะกับ ส.ส.รัฐบาล ผมมองในมุมกลับว่าจะเป็นการลดการปะทะกันด้วยซ้ำ เพราะผมเป็นคนที่รับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย และจะใช้เหตุผลในการทำงาน ควบคุมการประชุม เพื่อนำไปสู่กติกาที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ด้วยเหตุด้วยผล ต้องยอมรับว่ามีแรงกดดัน เพราะมองกันว่ากรรมาธิการชุดนี้มีความสำคัญ มีคนมาแสดงความยินดีกับผม แต่ผมบอกว่ามันเป็นเผือกร้อน เพราะการจะสร้างกติกาให้แต่ละฝ่ายยอมรับเป็นแรงกดดันอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นจากพรรคการเมืองหรือประชาชนฝั่งไหน แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ผมจะทำหน้าที่ให้เห็นว่า กลไกของกรรมาธิการฯ จะนำความเห็นของฝ่ายต่าง ๆ นำไปสู่กติกาที่ตอบคำถามได้ว่า กติกาที่ถูกกำหนดขึ้นมาจะนำไปสู่การเลือกตั้งที่ไม่เพิ่มความขัดแย้งในอนาคตได้อย่างไร แม้จะมีความกดดัน แต่ผมตั้งใจทำอย่างเต็มที่” นายสาธิต กล่าว


นายสาธิต กล่าวว่า การพิจารณาไม่มีธงว่าหมายเลขผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะเป็นเบอร์เดียวกันหรือไม่ จะขอฟังความเห็นจากทุกฝ่าย รวมทั้งประชาชน และข้อมูลหลักฐานบัตรดีบัตรเสีย เพื่อประกอบการพิจารณา แต่คงไม่ถึงขั้นต้องส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพราะเกรงว่าจะถูกมองว่าเป็นการยื้อเวลา แต่ต้องสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่า พร้อมที่จะสร้างกติกาเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งเมื่อไหร่ก็ได้

นายสาธิต กล่าวว่า หลังจากที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ทราบว่าตนรับตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการฯ ก็ได้สอบถามเรื่องนี้กับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้ชี้แจงให้ทราบว่า เป็นเรื่องของที่ประชุมกรรมาธิการฯ ซึ่งตนได้แสดงเจตจำนงชัดเจน โดยไม่ได้เข้าร่วมประชุม และทราบตอนที่มีมติเลือกตนแล้ว ก็ต้องยืนยันและยอมรับ และขอบคุณที่กรรมาธิการฯ ไว้ใจ ซึ่งจะใช้ความเป็นกลางและความตรงไปตรงมา ร่างกฎหมายเพื่อมากำหนดกติกาที่ไม่ทำให้เกิดความขัดแย้งในอนาคต และมั่นใจว่าเมื่ออธิบายทั้งหมดได้ จะไม่ทำให้เกิดปัญหารอยร้าวในพรรคร่วมรัฐบาล

“ทุกฝ่ายกดดันมา แต่ผมเป็นคนทำงาน ตอบคำถามได้ ตั้งใจทำตรงนี้และไม่มีผลประโยชน์อื่น ไม่รับคำสั่งใคร ผมตอบได้ผมสบายใจ และเชื่อว่าไม่สร้างรอยร้าวอะไรในพรรคร่วมฯ ผมอธิบายได้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับสิ่งที่ผมอธิบายมันตรงกัน แต่ผมมาจากสัดส่วน ครม. ถ้าผมไปที่ประชุมปั๊บ ผมก็ต้องเป็นประธานอยู่ดี เราเป็นตัวแทนจากฝั่ง ครม. แต่ผมเลือกไม่ไป เพราะรักษามารยาท แต่ในที่ประชุมเลือกผมขึ้นมา ก็ต้องเคารพเวทีกรรมาธิการฯ” นายสาธิต กล่าว.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง

กทม. 9 ส.ค.-กรมอุตุฯ รายงาาน 10-15 ส.ค. ไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 30% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 10 – 15 ส.ค. ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากจะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. […]

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]