ลงมติแก้ กม.ลูกสมัยประชุมหน้ากันครหาถ่วงเวลา

กระทรวงสาธารณสุข 2 มี.ค.-“สาธิต” เผยตั้งใจทำกฎหมายลูกเลือกตั้ง ส.ส.-พรรคการเมือง ให้เสร็จช่วงปิดสมัยประชุม ให้พร้อมลงมติในสมัยประชุมหน้า ป้องกันข้อครหาเตะถ่วง ชี้ตำแหน่งประธานเป็นเผือกร้อน ได้มาโดยบังเอิญ เชื่อไม่สร้างรอยร้าวในพรรคร่วมรัฐบาล


นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ให้สัมภาษณ์ “สำนักข่าวไทย” ยืนยันจะเร่งพิจารณาร่างพระราชบัญญัติทั้ง 2 ฉบับ ให้เสร็จภายในช่วงปิดสมัยประชุม โดยมีเวลาประมาณ 2 เดือน จะพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ในวันพุธ และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ในวันพฤหัสบดี ซึ่งจะเริ่มในสัปดาห์หน้า

นายสาธิต กล่าวว่า จะนำร่าง พ.ร.บ.ทั้งสองฉบับเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมร่วมรัฐสภาในสมัยประชุมหน้าทันที หลังวันที่ 22 พฤษภาคม หรือหากเสร็จเร็วจะประสานประธานรัฐสภา เพื่อขอเปิดสมัยประชุมวิสามัญพิจารณาให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อป้องกันข้อครหาว่ารัฐบาลเตะถ่วง เพราะต้องการอยู่ในตำแหน่งนาน ๆ ทั้งนี้ ยังไม่มีนโยบายอะไรมาจากรัฐบาล และยืนยันว่ารัฐบาลสั่งไม่ได้ เพราะกรรมาธิการฯ ชุดนี้ตั้งโดยรัฐสภา กลไกในกรรมาธิการจะถูกคัดท้ายด้วยประธาน แต่ถูกเดินด้วยความเห็นของกรรมาธิการที่มาจากทุกพรรคการเมืองและวุฒิสมาชิก


“รัฐบาลต้องแสดงออกให้เห็นว่าไม่ได้ถ่วงเวลาที่จะใช้กฎหมายเพื่อให้อยู่ได้นาน ทุกอย่างต้องเตรียมพร้อมไว้เสมอ เพราะต้องยอมรับว่าขณะนี้ในบ้านเมืองมีความเห็น ความเชื่อแตกต่างกัน รัฐบาลจึงต้องแสดงออก ให้ความเชื่อมั่นกับประชาชนว่าไม่ได้ยื้อเวลา และกฎหมายลูกเป็นกลไกหนึ่งที่ต้องเตรียมความพร้อมเอาไว้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีสิทธิอยู่แล้วว่าจะอยู่ต่อหรือยุบสภา เป็นทางเลือกที่เปิดเอาไว้ แต่ถ้าจะเลือกทำอย่างอื่นแล้วกฎหมายลูกยังไม่เสร็จ ยิ่งตอบคำถามไม่ได้ว่ารัฐบาลจะยื้อหรือจะดึงให้อยู่ต่อ ผมคิดว่าต้องทำตรงนี้ให้พร้อม เพื่อไม่ให้เป็นข้อครหาจากประชาชนที่มีมาถึงท่านนายกรัฐมนตรี แต่ไม่ได้มีสัญญาณว่าจะมีเลือกตั้งเร็ว ๆ นี้ ผมไม่ทราบ ผมไม่เกี่ยว” นายสาธิต กล่าว

ส่วนจำเป็นต้องทำความเข้าใจหรือเคลียร์กับนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ จากพรรคพลังประชารัฐ ที่มีชื่อเป็นประธานก่อนหน้านี้หรือไม่ นายสาธิต กล่าวว่า ไม่ได้มีหน้าที่ต้องไปเคลียร์ เพราะตนไม่ได้เข้าร่วมประชุมกรรมาธิการฯ และไม่ได้มีส่วนเสนอตัวเอง แต่กรรมาธิการเลือกตน ซึ่งเมื่อตกลงเลือก ตนก็ต้องยอมรับและขอบคุณกรรมาธิการฯ ที่ให้ความเชื่อมั่นว่าตนจะมีความเป็นกลาง

“มั่นใจว่าไม่น่าจะมีปัญหาการทำงานร่วมกันในคณะกรรมาธิการ โดยเฉพาะกับ ส.ส.รัฐบาล ผมมองในมุมกลับว่าจะเป็นการลดการปะทะกันด้วยซ้ำ เพราะผมเป็นคนที่รับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย และจะใช้เหตุผลในการทำงาน ควบคุมการประชุม เพื่อนำไปสู่กติกาที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ด้วยเหตุด้วยผล ต้องยอมรับว่ามีแรงกดดัน เพราะมองกันว่ากรรมาธิการชุดนี้มีความสำคัญ มีคนมาแสดงความยินดีกับผม แต่ผมบอกว่ามันเป็นเผือกร้อน เพราะการจะสร้างกติกาให้แต่ละฝ่ายยอมรับเป็นแรงกดดันอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นจากพรรคการเมืองหรือประชาชนฝั่งไหน แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ผมจะทำหน้าที่ให้เห็นว่า กลไกของกรรมาธิการฯ จะนำความเห็นของฝ่ายต่าง ๆ นำไปสู่กติกาที่ตอบคำถามได้ว่า กติกาที่ถูกกำหนดขึ้นมาจะนำไปสู่การเลือกตั้งที่ไม่เพิ่มความขัดแย้งในอนาคตได้อย่างไร แม้จะมีความกดดัน แต่ผมตั้งใจทำอย่างเต็มที่” นายสาธิต กล่าว


นายสาธิต กล่าวว่า การพิจารณาไม่มีธงว่าหมายเลขผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะเป็นเบอร์เดียวกันหรือไม่ จะขอฟังความเห็นจากทุกฝ่าย รวมทั้งประชาชน และข้อมูลหลักฐานบัตรดีบัตรเสีย เพื่อประกอบการพิจารณา แต่คงไม่ถึงขั้นต้องส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพราะเกรงว่าจะถูกมองว่าเป็นการยื้อเวลา แต่ต้องสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่า พร้อมที่จะสร้างกติกาเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งเมื่อไหร่ก็ได้

นายสาธิต กล่าวว่า หลังจากที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ทราบว่าตนรับตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการฯ ก็ได้สอบถามเรื่องนี้กับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้ชี้แจงให้ทราบว่า เป็นเรื่องของที่ประชุมกรรมาธิการฯ ซึ่งตนได้แสดงเจตจำนงชัดเจน โดยไม่ได้เข้าร่วมประชุม และทราบตอนที่มีมติเลือกตนแล้ว ก็ต้องยืนยันและยอมรับ และขอบคุณที่กรรมาธิการฯ ไว้ใจ ซึ่งจะใช้ความเป็นกลางและความตรงไปตรงมา ร่างกฎหมายเพื่อมากำหนดกติกาที่ไม่ทำให้เกิดความขัดแย้งในอนาคต และมั่นใจว่าเมื่ออธิบายทั้งหมดได้ จะไม่ทำให้เกิดปัญหารอยร้าวในพรรคร่วมรัฐบาล

“ทุกฝ่ายกดดันมา แต่ผมเป็นคนทำงาน ตอบคำถามได้ ตั้งใจทำตรงนี้และไม่มีผลประโยชน์อื่น ไม่รับคำสั่งใคร ผมตอบได้ผมสบายใจ และเชื่อว่าไม่สร้างรอยร้าวอะไรในพรรคร่วมฯ ผมอธิบายได้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับสิ่งที่ผมอธิบายมันตรงกัน แต่ผมมาจากสัดส่วน ครม. ถ้าผมไปที่ประชุมปั๊บ ผมก็ต้องเป็นประธานอยู่ดี เราเป็นตัวแทนจากฝั่ง ครม. แต่ผมเลือกไม่ไป เพราะรักษามารยาท แต่ในที่ประชุมเลือกผมขึ้นมา ก็ต้องเคารพเวทีกรรมาธิการฯ” นายสาธิต กล่าว.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ แต่ขณะเดียวกันก็กดดันความคาดหวังประชาชน ย้ำต้องทำงานหนักตอบแทน ไม่ให้กลายเป็นยาพิษ ยันยึดสันติแก้ชายแดน บอกไทยนี้รักสงบ แต่ถ้ารบก็ลองดู ลั่นที่ผ่านมาเห็นความอัปยศอดสู วันนี้จะไม่มีวันให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ความพร้อมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ว่า ร่างนโยบายได้ส่งให้ทุกฝ่ายศึกษาแล้ว พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ตามรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีต้องลุกขึ้นอ่านนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาให้ได้รับทราบ ส่วนถามว่ามีความกังวลหรือไม่ด้วยระยะเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด นายอนุทิน กล่าวว่า จริงๆ แล้วเราไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ สำหรับพรรคภูมิใจไทยทำงานต่อเนื่องมากกว่า 6 ปีแล้ว เพิ่งไปพักร้อนช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น สิ่งที่ยังทำค้างอยู่ในช่วง 2 เดือนที่หยุดไป คงไม่ถึงขั้นที่ต้องทำให้ยกเลิก สิ่งที่เราอยากจะทำอะไรไป เราสามารถสานต่อ และมีนโยบายใหม่ๆ ในฐานะที่เรามาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะสามารถใช้นโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มมากขึ้น หลายคนมีความคาดหวังกับรัฐบาลใหม่ และผลโพลหลายสำนัก คะแนนความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีเพิ่มสูงขึ้น จะสอดคล้องกับนโยบายและเป็นความคาดหวังให้กับประชาชนได้มากน้อยแค่ไหนนั้น […]

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

สิ้นตำนานเจ้าแม่รถทัวร์แห่งเมืองย่าโม

กรุงเทพฯ 28 ก.ย.- อาลัย “เจ๊เกียว” สิ้นตำนานเจ้าแม่รถทัวร์แห่งเมืองย่าโม เสียชีวิตอย่างสงบ สิริอายุ 88 ปี ครอบครัวเชิดชัย แจ้งว่า นางสุจินดา เชิดชัย หรือ “เจ๊เกียว” เจ้าแม่รถทัวร์เมืองไทย เสียชีวิตอย่างสงบ สิริอายุ 88 ปี เจ๊เกียว เกิดเมื่อ 20 มีนาคม 2480 ณ จังหวัดนครราชสีมา เสียชีวิตในช่วงบ่ายของวันที่ 27 ก.ย.68 ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ กทม. ด้วยอาการชรา ประกอบกับอายุมาก มีโรคประจำตัวหลายโรค เจ๊เกียว เป็นลูกคนที่ 6 ของครอบครัว เป็นเด็กเรียนดี สอบได้ที่ 1 มาตลอด ครอบครัวมีกำลังให้เรียน ป.4 เจ๊เกียว ตั้งปณิธานกับตัวเอง “จะต้องรวยกว่าแม่ให้ได้” จึงกลายเป็นแรงผลักดัน ตลอดเส้นทางดำเนินชีวิต นับว่า เจ๊เกียว มีประวัติสู้ชีวิตตั้งแต่เด็กๆ หลังออกจากโรงเรียน […]

ครึ่งวันเช้าเรียบร้อยดี เลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ คนทยอยใช้สิทธิ

ศรีสะเกษ 28 ก.ย.- ครึ่งวันเช้าเรียบร้อยดี ประชาชนทยอยใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 คึกคัก เผยแม้กังวลสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แต่อยากออกมาใช้สิทธิในฐานะคนไทย ด้านเลขาฯ กกต. ระบุตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเวลาเปิดหีบ ยังไม่พบสิ่งบ่งชี้เหตุฉุกเฉิน -สำนักข่าวไทย