ทำเนียบรัฐบาล 28 ก.พ.- “อนุชา” เผยคืบหน้าลงทะเบียนเข้าโครงการขายสลาก 80 อยู่ระหว่างตรวจสอบคุณสมบัติ เริ่ม 2 พ.ค.นี้ ยอมรับแก้ขายเกินราคาต้องใช้เวลา
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี รองประธานฯ และหัวหน้าชุดเฉพาะกิจการตรวจสอบและติดตามผู้ค้าสลากเกินราคา แถลงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา โดยนายอนุชา กล่าวว่า ที่ประชุมวันนี้ (28 ก.พ.) รับทราบแนวทางการแก้ไขปัญหาตามโรดแมปของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่เปิดให้ตัวแทนจำหน่ายสลากฯ สมัครเข้าร่วมโครงการ “สลาก 80” เพื่อเป็นจุดที่ประชาชนจะซื้อสลากฯ ได้ในราคา 80 บาท รวม 1,000 จุดทั่วประเทศ
“หลังจากปิดรับสมัคร ตัวแทนจำหน่ายประเภทบุคคลทั่วไป ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค สมัครเข้าร่วมโครงการ รวมทั้งสิ้นจำนวน 4,790 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบคุณสมบัติ และจะคัดเลือกตัวแทนจำหน่ายแต่ละจังหวัดตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ ในงวดวันที่ 2 พฤษภาคม 2565 ในส่วนของการเปิดรับลงทะเบียนผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งฯ ตั้งแต่วันที่ 1-31 มกราคม 2565 นั้น มีผู้ลงทะเบียนสมัครจำนวน 1,039,868 ราย เป็นผู้ลงทะเบียนสมัครรายใหม่ปี 2565 จำนวน 903,492 ราย และเป็นผู้สมัครลงทะเบียนรายเดิมปี 2558 จำนวน 136,376 ราย ซึ่งสำนักงานฯ ได้ประกาศให้ผู้สมัครเข้ามาตรวจสอบข้อมูลและยืนยันความถูกต้องข้อมูล เมื่อวันที่ 7-13 กุมภาพันธ์ 2565” นายอนุชา กล่าว

นายอนุชา กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลเพื่อคัดกรองคุณสมบัติกับหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย กรมบัญชีกลาง สำนักงานประกันสังคม กองทุนการออมแห่งชาติ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำหรับแนวทางการตรวจสอบคุณสมบัติคัดกรองผู้จำหน่ายสลากจริงในราคา 80 บาท สำหรับผู้ลงทะเบียนเป็นผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ รายเดิมปี 2558 ซึ่งยังสามารถทำรายการได้ สำนักงานสลากฯ เตรียมจัดทำคิวอาร์โค้ดให้ผู้ที่ลงทะเบียนเป็นผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ เพื่อให้ประชาชนที่ซื้อสลากฯ สแกนแจ้งข้อมูล เพื่อยืนยันว่าเป็นผู้จำหน่ายสลากฯ ด้วยตนเองจริง
“จะตรวจสอบจากรายการซื้อ-ขายสลากฯ ผ่านระบบแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และ “ถุงเงิน” ในขณะเดียวกัน สำนักงานฯ ได้เตรียมลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานภายนอกที่มีความน่าเชื่อถือ เป็นผู้สำรวจและตรวจสอบผู้ลงทะเบียนซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ พร้อมๆ กับการให้ผู้ที่ลงทะเบียนเป็นผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ ยืนยันตัวตนกับหน่วยงานที่สำนักงานฯ กำหนด ส่วนการบังคับใช้กฎหมายและการเพิ่มมาตรการ หลักเกณฑ์การปฏิบัติในการรับสลากฯ ไปจำหน่าย สำนักงานสลากฯ เสนอที่ประชุมว่าได้กำหนดมาตรการลงโทษตัวแทนจำหน่ายนิติบุคคล ประเภท สมาคม องค์กร มูลนิธิ ที่ไม่ปฏิบัติตามสัญญา รวมถึงการตรวจพบบนแพลตฟอร์มของกลุ่มบุคคลที่จำหน่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยกำหนดช่วงระยะเวลาในการตรวจสอบเป็น 4 ครั้ง” นายอนุชา กล่าว
นายอนุชา กล่าวว่า ครั้งที่ 1 ตั้งแต่งวดวันที่ 16 ธันวาคม 2564 งวดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 รวม 4 งวด ครั้งที่ 2 ตั้งแต่งวดวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 งวดวันที่ 1 เมษายน 2565 รวม 4 งวด ครั้งที่ 3 ตั้งแต่งวดวันที่ 16 เมษายน 2565 งวดวันที่ 1 มิถุนายน 2565 รวม 4 งวด และครั้งที่ 4 ตั้งแต่งวดวันที่ 16 มิถุนายน 2565 งวดวันที่ 1 สิงหาคม 2565 รวม 4 งวด หากตรวจพบการกระทำความผิด ครั้งที่ 1 สำนักงานฯ จะมีหนังสือแจ้งเตือนให้ตรวจสอบ ควบคุมสมาชิก หากตรวจพบการกระทำความผิดซ้ำในครั้งต่อไป สมาคม องค์กร มูลนิธิ จะต้องถูกปรับลดจำนวนสลากฯ ที่สำนักงานฯ จัดสรรให้
“หากตรวจพบการกระทำผิดซ้ำครั้งที่ 2 จะปรับลดสลากฯ ลงร้อยละ 25 ของจำนวนสลากฯ ที่ตรวจพบการกระทำความผิด โดยจะมีผลในงวดวันที่ 16 พฤษภาคม 2565 หากตรวจพบการกระทำผิดซ้ำครั้งที่ 3 จะปรับลดสลากฯ ลงร้อยละ 50 ของจำนวนสลากฯ ที่ตรวจพบการกระทำความผิด และในที่ประชุมเห็นว่า ควรพิจารณาบทลงโทษให้มีความเข้มข้น เด็ดขาดมากกว่านี้ ทั้งนี้ คณะกรรมการและสำนักงานสลากฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และเร่งดำเนินแนวทาง ตลอดจนมาตรการต่างๆ เพื่อบรรเทาและคลี่คลายความรุนแรงของปัญหาราคาสลากฯ อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาราคาสลากฯ อย่างยั่งยืนนั้น จะต้องใช้เวลาและต้องใช้หลายมาตรการประกอบกัน.-สำนักข่าวไทย