นายกฯ สั่งปรับแผนรับมือเหตุป่วนใต้ช่วงตรุษจีน

ทำเนียบรัฐบาล 30 ม.ค. – นายกฯ สั่งปรับแผนรับมือเหตุก่อกวนในพื้นที่ชายแดนใต้ กำชับฝ่ายความมั่นคงบูรณาการทุกหน่วยในพื้นที่ ติดตามการข่าวและเฝ้าระวังในช่วงเทศกาลตรุษจีน


นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานเหตุการณ์คนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่องขนาดเล็กบรรจุกระป๋องสเปรย์และกล่องกระดาษ จำนวน 15 จุด 17 ลูก ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการตรงไปยังกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า ให้เร่งตรวจสอบและจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี พร้อมมอบหมายให้นายภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรีเดินทางไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาล และตรวจเยี่ยมประชาชน ชุมชน กิจการร้านค้า บริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ด้วย

เบื้องต้นกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่พิจารณาได้ว่า กลุ่มคนร้ายพยายามก่อกวน สร้างสถานการณ์ เพื่อดึงดูดความสนใจของเจ้าหน้าที่ในกรณีที่มีการบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ จ.นราธิวาส ซึ่งการก่อเหตุของกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้เปลี่ยนแปลงไปจากการก่อเหตุในหลายครั้งที่ผ่านมา ขณะนี้ได้มีการเก็บรวบรวมวัตถุพยานและภาพจากกล้องวงจรปิด และจะเร่งติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินการทางกฎหมายอย่างเร็วที่สุดต่อไป


​โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ ปรับแผนและวางมาตรการรักษาความปลอดภัยทุกพื้นที่อย่างเข้มข้นในเขตพื้นที่เศรษฐกิจในเมืองและพื้นที่เปราะบางทุกจุด โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้ ซึ่งจะมีการเฉลิมฉลองและจัดกิจกรรมของคนไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย โดยให้บูรณาการทุกหน่วยงานในระดับพื้นที่ ทั้งฝ่ายปกครอง ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่ เพื่อติดตามการข่าว ขยายกลุ่มที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ ทั้งด้านความมั่นคง ยาเสพติด และอาชญากรรม เพื่อเรียกความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่อีกครั้ง

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรียังได้ประณามการกระทำดังกล่าวว่า เป็นการก่อกวนความสงบ อาจก่อให้เกิดความเสียหายกับชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น รวมทั้งยังทำลายบรรยากาศทางเศรษฐกิจและความมั่นคงที่รัฐบาลกำลังดำเนินการไปด้วยดี ทั้งนี้ ได้สั่งให้มีการรายงานสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ให้นายกรัฐมนตรีทราบอย่างต่อเนื่องด้วย. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย