ปรับพื้นที่คุมโควิด มีผลวันนี้ ขอยึดมาตรการเคร่งครัด

ทำเนียบฯ 9 ม.ค.- โฆษกรัฐบาลย้ำ ศบค. ปรับพื้นที่ควบคุมสีส้ม 69 จังหวัด มีผลวันนี้ นายกฯ เผยแม้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น แต่เป็นการระบาดในลักษณะคลัสเตอร์เท่านั้น ขอทุกฝ่ายยึดมาตรการอย่างเคร่งครัด

วันที่ 9 มกราคม 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 อย่างใกล้ชิด เตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุข รองรับจำนวนผู้ติดเชื้อที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในวันนี้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 8,511 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังฯ 7,942 ราย ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 199 ราย ผู้ป่วยภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 20 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 350 ราย ผู้เสียชีวิต 12 ราย ผู้ที่กำลังรักษาตัว 53,858 ราย และมียอดผู้ที่หายป่วยกลับบ้านแล้ว 2,605 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ 1 เม.ย. 64 จำนวน 2,240,687 ราย จำนวนผู้ที่หายป่วยสะสมจำนวน 2,166,441 ราย


โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาล โดย ศบค. ได้ยกระดับมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยได้ยกระดับการเตือนภัยจากระดับที่ 3 เป็นระดับที่ 4 ซึ่งกำชับให้ประชาชนทุกคน งดรับประทานร่วมกัน งดการดื่มสุราในร้าน งดเข้าสถานที่เสี่ยงทุกประเภท เลี่ยงเข้าใกล้ผู้อื่นนอกบ้าน งดร่วมกิจกรรมกลุ่ม ลดการใช้โดยสารขนส่งสาธารณะทุกประเภท รวมถึงงดไปต่างประเทศ และหากจะเดินทางเข้าประเทศก็จำเป็นต้องกักตัว ขณะเดียวกันได้ยกระดับพื้นที่จังหวัดต่างๆ เป็นพื้นที่ควบคุม (พื้นที่สีส้ม) ทั้งประเทศรวมทั้งสิ้น 69 จังหวัด ในส่วนของพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว 8 จังหวัด (พื้นที่สีฟ้า) และนำร่องบางพื้นที่ 18 จังหวัด ให้คงไว้ตามเดิม โดยจะเริ่มบังคับใช้ในวันนี้ 9 มกราคม 2565 นี้ สำหรับผู้ที่มีความจำเป็นต้องเดินทางไปต่างจังหวัด สามารถเดินทางได้ปกติ แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ ในส่วนของการลงทะเบียนเข้าประเทศในรูปแบบ Test and Go ได้มีการพิจารณาให้ระงับการลงทะเบียนออกไปก่อน โดยจะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้งในภายหลัง สำหรับ ผู้ที่ได้รับการอนุมัติให้เดินทางเข้าราชอาณาจักรแล้ว สามารถเดินทางได้ แต่ต้องเป็นไปตามที่มาตรการกำหนดและตามวันเวลาที่ขออนุมัติ จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

“นายกรัฐมนตรี ได้ย้ำถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้ ถึงแม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มสูงขึ้นแต่ยังเป็นการระบาดในลักษณะคลัสเตอร์เท่านั้น ยืนยัน รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุขเพื่อรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ทั้งระบบการรับแจ้งเหตุ (Call Center) การคัดกรอง/คัดแยกผู้ป่วย การรักษาตามระดับความรุนแรงของอาการ และการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย รวมไปถึงการเตรียมความพร้อมของ โรงพยาบาลหลัก โรงพยาบาลสนาม CI/HI /Hospitel อย่างไรก็ตามประชาชนทุกคนจำเป็นต้องป้องกันตนเองอย่างเข้มงวด สวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง ทดสอบตนเองด้วย ATK เมื่อเดินทางไปสถานที่เสี่ยงหรือเมื่อมีอาการป่วย ที่สำคัญจะต้องฉีดวัคซีนตามที่หน่วยงานด้านสาธารณสุขแนะนำ เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และลดการแพร่ระบาดไปสู่ผู้อื่น” โฆษกประจำสำนักนายกรัญมนตรี กล่าว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์