ครม.เห็นชอบเพิ่มค่าใช้จ่ายผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ

ทำเนียบรัฐบาล 14 ธ.ค.-ครม.เห็นชอบกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ (ฉบับที่ 3) เพิ่มรายการค่ายา-สารอาหารทางเส้นเลือด 874 รายการ


น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ (ฉบับที่ 3) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ซึ่งเป็นการเสนอขอปรับปรุงบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายแนบท้ายของหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ (UCEP) ซึ่งเป็นการขอปรับปรุงครั้งที่ 2 โดยขอเพิ่มรายการในหมวดที่ 3 ค่ายาและสารอาหารทางเส้นเลือด จำนวน 874 รายการ เพื่อให้ครอบคลุมการรักษาโรคร่วมกับอาการเจ็บป่วยฉุกเฉิน

“ที่ผ่านมาสถานพยาบาลไม่สามารถเบิกค่าใช้จ่ายบางรายการที่มีความจำเป็นต้องใช้กับผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ โดยเฉพาะกรณีเป็นโรครักษาร่วม เช่น ป่วยเป็นโรคเรื้อรังแล้วมีอาการฉุกเฉิน ซึ่งหากไม่รักษาโรคร่วมดังกล่าวแล้วจะรักษาอาการฉุกเฉินไม่ได้ จึงจำเป็นต้องเพิ่มยาบางรายการเข้ามาในบัญชี โดยรายการในหมวดที่ 3 ค่ายาและค่าสารอาหารทางเส้นเลือด จำนวน 874 รายการที่เพิ่มขึ้นมานั้น เป็นรายการยาที่อยู่ในบัญชีข้อมูลยาและรหัสยามาตรฐานของไทย เช่น CELEBREX บรรเทาอาการอักเสบและอาการปวดในโรคข้อกระดูกเสื่อมและข้ออักเสบรูมาตอยด์ ราคาต่อหน่วยอยู่ที่ 29.188 บาท และ DYNASTAT (SEARLE) ระงับอาการปวดหลังผ่าตัด ราคาต่อหน่วย 279.7435 บาท เป็นต้น” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว


น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ที่ผ่านมา ครม.มีมติเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2560 เห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ (UCEP) เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติเข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุดได้ ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ภายใต้นโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ มีสิทธิทุกที่ของรัฐบาล โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2560 เป็นต้นมา และ ครม.มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ UCEP (ฉบับที่ 2) เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2561 โดยเพิ่มรายการในบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายแนบท้าย จำนวน 1,649 รายการ.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง