นายกฯ ย้ำความร่วมมือในการฟื้นตัวหลังวิกฤติโควิด-19

ทำเนียบ 26 พ.ย.-นายกฯ เน้นย้ำถึงความร่วมมือในการฟื้นตัวหลังโรคโควิด-19 การเชื่อมโยงที่ครอบคลุม และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อสร้างผลประโยชน์ต่อประชาชนในภูมิภาคเอเชีย-ยุโรป


พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถ้อยแถลงในการแถลงข่าวร่วมของการประชุมผู้นำเอเชีย – ยุโรป ครั้งที่ 13 ในฐานะผู้ประสานงานกลุ่มอาเซียน ผ่านระบบการประชุมทางไกล

นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความยินดีกับกัมพูชาที่ประสบความสำเร็จในการจัดประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 13 ท่ามกลางข้อจำกัดต่าง ๆ ทำให้โลกเห็นว่าทั้งเอเชียและยุโรปยังยึดมั่นต่อพหุภาคีนิยมเพื่อสร้างโลกในยุค Next Normal ที่มีความสมดุล ครอบคลุม และยั่งยืน พร้อมเน้นย้ำถึงสิ่งที่สำคัญ คือการที่ผู้นำอาเซมต่างแสดงเจตนารมณ์ร่วมที่จะช่วยกันทำให้พหุภาคีนิยมแข็งแกร่งขึ้น ย้อนกลับไปเมื่อวันที่อาเซมถือกำเนิดขึ้นบริบท และความท้าทายที่เอเชียและยุโรปประสบเปลี่ยนแปลงไปมาก ไม่มีประเทศใดที่จะสามารถรับมือกับความท้าทายร่วมเหล่านี้ได้แต่เพียงลำพัง ทั้งเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โรคระบาดขนาดใหญ่ เช่น โควิด-19 หรือความขัดแย้งระหว่างประเทศ ดังนั้นจึงต้องมาร่วมแรงร่วมใจกัน โดยพหุภาคีนิยมจะเปิดโอกาสให้ทุกประเทศมีส่วนร่วมสร้างความเข้าใจและเชื่อใจระหว่างกัน บนพื้นฐานของหุ้นส่วนอย่างเท่าเทียมและผลประโยชน์ร่วม


นายกรัฐมนตรีเห็นว่า แนวทางหนึ่งที่ทำให้พหุภาคีนิยมเข้มแข็งขึ้น คือ การมุ่งสร้างความสมดุลของสรรพสิ่งทั้งในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และความท้าทายระดับโลก ซึ่งต้องถอดบทเรียนจากวิกฤตเหล่านี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาอีก โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวสรุปถึงประโยชน์ที่ประชาชนของอาเซมจะได้รับจากการประชุมฯ ได้ 3 ประเด็น ดังนี้

ประการแรก อาเซมช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของทุกประเทศหลังวิกฤตโควิด-19 ให้ทั่วถึงและยั่งยืน เน้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่สมดุลและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เปิดโอกาสให้ทุกกลุ่มในสังคมมีส่วนร่วมในการสร้างโลกหลังโควิด-19 ที่ประชาชนมีความมั่นคง มั่งคั่ง และมั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดวิกฤตจากความไม่สมดุลอีก และทั้งสองภูมิภาคจะมุ่งสร้างโลกยุค Next Normal ที่เติบโตบนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ตลอดจนสนับสนุนภาคธุรกิจ โดยเฉพาะ SMEs โอกาสนี้ ไทยยินดีที่ได้ร่วมกับผู้นำอาเซมในการรับรองแถลงการณ์พนมเปญว่าด้วยการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจและสังคมหลังโควิด-19

ประการที่สอง อาเซมเชื่อมโยงสองภูมิภาคให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น โดยได้รับรองเอกสารเส้นทางสู่ความเชื่อมโยงระหว่างเอเชีย-ยุโรป ซึ่งเป็นข้อริเริ่มของกลุ่มอาเซียน และกำหนดแนวทางเชื่อมโยงทั้งด้านกฎระเบียบ การค้าการลงทุน เศรษฐกิจดิจิทัล ตลอดจนความเชื่อมโยงระดับประชาชน นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า การเสริมสร้างความเชื่อมโยงนี้จะเป็นพื้นฐานไปสู่การจัดทำความตกลงการค้าเสรีระหว่างภูมิภาคที่จะสร้างงานสร้างอาชีพ รวมถึงจะช่วยฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวระหว่างเอเชียกับยุโรป


ประการสุดท้าย อาเซมสร้างความร่วมมือเพื่อใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในยุค Next Normal โดยรู้ถึงคุณและโทษ โดยเฉพาะสำหรับเยาวชน ซึ่งได้รับผลกระทบจากการปิดโรงเรียน นายกรัฐมนตรีได้ยกตัวอย่างข้อริเริ่มของไทยในอาเซมในด้านการศึกษาที่สนับสนุนการแลกเปลี่ยนนักเรียนเสมือนจริงผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งนอกจากจะช่วยให้เยาวชนพบปะผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มแล้ว ยังได้ขยายโลกทัศน์ของเยาวชน เช่น การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน นายกรัฐมนตรีเชื่อว่า เยาวชนอาเซมจะขับเคลื่อนหลักของการเปลี่ยนแปลงในโลก ไทยในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีศึกษาอาเซมในเดือนธันวาคม 2564 พร้อมและยินดีที่จะผลักดันข้อริเริ่มนี้เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป

ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม นายกรัฐมนตรีร่วมรับรอง 3 เอกสารผลลัพธ์การประชุมฯ ได้แก่

  1. แถลงการณ์ประธานการประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 13 (13th Asia-Europe Meeting Chair’s Statement)
  2. แถลงการณ์พนมเปญว่าด้วยการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจและสังคมหลังวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (Phnom Penh Statement on the Post-COVID-19 Socio-Economic Recovery) และ 3. เอกสารเส้นทางสู่ความเชื่อมโยงระหว่างเอเชีย-ยุโรป (The Way Forward on ASEM Connectivity).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง