เข้มลดอุบัติเหตุ เริ่มใช้ระบบตัดแต้ม 1 ธ.ค.นี้

ทำเนียบ 26 พ.ย.-พล.อ.ประวิตร ย้ำนำบทเรียนและสถิติ ปิดจุดอ่อนและปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนปี 65 มุ่งงานเชิงรุก เข้มสวมหมวกนิรภัย 100% และเริ่มระบบตัดแต้ม 1 ธ.ค.นี้ ตั้งเป้าอัตราเสียชีวิตจากอุบัติเหตุไม่เกิน 12 คนต่อประชากรแสนคนภายในปี 2570

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประชุม คณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ ( นปถ.) ครั้งที่ 2/64 โดยที่ประชุมรับทราบ การบูรณาการขับเคลื่อนงานด้านความปลอดภัยทางถนนทั้งในช่วงปกติ ช่วงเทศกาลและช่วงที่มีวันหยุดยาวต่อเนื่องตลอดทั้งปี กำหนดเป้าหมายลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุไม่เกิน 12 คน ต่อประชากรแสนคน ภายในปี 2570 และให้มีการปฏิบัติงานร่วมกันภายใต้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน และศูนย์ปฏิบัติการระดับจังหวัด อำเภอ ที่เน้นย้ำ การจัดเก็บวิเคราะห์ข้อมูลถอดบทเรียนให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละพื้นที่ และติดตามการดำเนินงานตามมติ ครม.ในประเด็นสำคัญ ได้แก่ การผลักดันให้สวมหมวกนิรภัยและการแก้ปัญหาขับรถเร็วเกินกว่ากำหนด การกำหนดแนวทางในการตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่การเร่งรัดนำระบบตัดแต้มใบอนุญาตขับขี่มาใช้การปรับปรุงหลักเกณฑ์การออกใบอนุญาตขับขี่รถทุกประเภท การจัดทำแนวทางใช้งบประมาณท้องถิ่น เพื่อความปลอดภัยทางถนน รวมทั้งการสร้างการมีส่วนร่วมและความตระหนักเรื่องความปลอดภัยทางถนน ทั้งนี้จะเริ่มระบบตัดแต้มตั้งแต่ 1 ธ.ค.64 กับกลุ่มรถรับจ้างและรถสาธารณะก่อนเป็นอันดับแรก


นอกจากนี้ที่ประชุมได้พิจารณาและเห็นชอบ แผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลและช่วงวันหยุด ปี 65 โดยมีสาระสำคัญ ร่วมรณรงค์ “ชีวิตใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” ที่มุ่งเน้นลดปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุและอุบัติภัย แบ่งการดำเนินงานเป็น 2 ช่วง  ช่วงรณรงค์ประชาสัมพันธ์ก่อน 7 วัน และช่วงดำเนินการ คือ 7 วันคุมเข้มและ อีก 7 วันหลังคุมเข้ม โดยประเมินความเสี่ยงระดับพื้นที่เป็น 4 ระดับสี กำหนดตัวชี้วัด ทั้งระดับภาพรวม ระดับหน่วยและระดับพื้นที่ ภายใต้ 5 มาตรการด้านต่างๆ ประกอบด้วย ด้านบริหารจัดการ ด้านลดปัจจัยเสี่ยงทางถนน สภาพแวดล้อมและยานพาหนะ ด้านผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย และด้านการช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุ  พร้อมกันนี้ได้ให้ความเห็นชอบ กรอบแนวทางการจัดทำ แผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน ปี 65-70 ภายใต้วิสัยทัศน์ “มุ่งมั่นสู่มาตรฐานการสัญจร ที่ปลอดภัยด้วยกัน” โดยให้ใช้แผนแม่บทความปลอดภัยทางถนนปี 61-64 เป็นแนวทางการดำเนินงานไปพลางก่อน

พล.อ.ประวิตร ได้มอบนโยบาย ย้ำให้นำสถิติและบทเรียนที่ผ่านมา ประกอบข้อมูลทำงานร่วมกันทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชนมากขึ้น เน้นมาตรการเชิงรุก แก้ไขปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ ทั้งคน ถนน ยานพาหนะและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเสริมสร้าง ปลูกฝังความตระหนักรู้กับกลุ่มเป้าหมายที่มีพฤติกรรมเสี่ยง โดยให้นำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนให้มากกว่าที่เป็นอยู่ และต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดจริงจัง ต่อเนื่องตลอดทั้งปี ควบคู่กับสร้างความตระหนักรู้ ปลุกจิตสำนึกและความรับผิดชอบต่อสังคม ทั้งนี้ให้นำตัวชี้วัดเข้ามาประเมินการทำงานในทุกมาตรการให้ชัดเจน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า สำหรับปี 65  ขอให้จังหวัด ให้ความสำคัญในการลดพฤติกรรมเสี่ยงของผู้ขับขี่ หรือโดยสารจักรยานยนต์ ให้สวมหมวกนิรภัยขณะขับขี่หรือโดยสาร 100% โดยให้ถือเป็นวาระจังหวัด และใช้กลไกระดับท้องถิ่นบูรณาการขับเคลื่อน เน้น มาตรการเชิงรุก โดยมีเป้าหมาย เพื่อให้เกิด “ตำบลขับขี่ปลอดภัย 100%” ทั้งนี้ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี 65 ขอให้บูรณาการทำงานร่วมกันในลักษณะยึดพื้นที่เป็นที่ตั้ง โดยเพิ่มความเข้มข้นการป้องกันและลดปัจจัยเสี่ยงทุกมิติ ควบคู่กับการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดโควิด-19 เพื่อให้ประชาชนทุกคนมีความปลอดภัยในภาพรวม-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย