รัฐบาลเร่งพลิกโฉมประเทศ

หาดนพรัตน์ธารา-พีพี 15 พ.ย.-นายกฯ ระบุกำลังเร่งพลิกโฉมประเทศไทย สิ่งใดทำได้ก่อนจะเร่งทำ สร้างโอกาส ลดเหลื่อมล้ำ ขอทุกฝ่ายช่วยกันไม่ให้โควิดกลับมาระบาดหนักอีก อย่าให้คนที่ไม่ทำตามระเบียบทำสังคมเสียหาย


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี

นายกรัฐมนตรีได้พบปะผู้ประกอบการเรือหางยาว โดยกำชับว่า อย่าฉวยโอกาสขึ้นค่าบริการ หากรักษามาตรฐานตรงนี้ได้ เชื่อว่าจะดำเนินธุรกิจไปได้ด้วยดี จากนั้นนายกรัฐมนตรีลงเรือไปตรวจเยี่ยมเรือบริการนักท่องเที่ยวที่จอดอยู่บริเวณชายฝั่ง โดยพบปะกับประชาชน พร้อมกล่าวว่า วันนี้กำลังพลิกโฉมประเทศไทย คำว่าพลิกโฉมประเทศไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก จะทำให้ประเทศดีขึ้นได้อย่างไร ทั้งศักยภาพ แนวคิด หลักคิด ปัญหาอุปสรรค การขจัดปัญหาอุปสรรคที่มีปัญหา เรื่องการใช้จ่ายงบประมาณที่ต้องเหมาะสมและเพียงพอ


“สิ่งสำคัญที่สุดคือการรักษาเสถียรภาพของรัฐภายในประเทศ หากไม่มีเสถียรภาพ ไม่มีความเข้มแข็ง จะเกิดความวุ่นวาย ไม่มีความสำเร็จทุกเรื่อง ขณะนี้ต่างประเทศกำลังดูอยู่ ส่วนโครงการต่าง ๆ กำลังคิดอยู่ ไม่ว่าจะเป็นคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน เป็นโครงการของประเทศเรา เราเป็นประเทศที่ใช้งบประมาณระยะยาว ประชาชนในสถานการณ์โควิด-19 และฟื้นฟูเงินถึง 25% ของงบประมาณ GDP ต้องเข้าใจระบบงบประมาณ นี่คือระบอบประชาธิปไตย แต่ตอนนี้ทุกอย่างที่พูดมาทั้งหมด สิ่งที่ผมคิดมา อะไรที่ยังไม่สำเร็จก็ว่ากันไปทีละอย่าง สำเร็จแต่คนไม่เห็น แต่สิ่งที่เห็นคือเคลื่อนที่ไปมาที่ไหน ถนนหนทางก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับ รถไฟ รถไฟฟ้า ท่าเรือต่าง ๆ เปิดใหม่ แต่ต้องเข้าใจว่าทำพร้อมกันไม่ได้ นั่นคือประเด็นสำคัญ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยินดีที่ได้เปิดการท่องเที่ยวในจังหวัดกระบี่อย่างปลอดภัย ทุกมาตรการต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเข้มงวด เด็ดขาด ได้สั่งการไปแล้ว อะไรที่ปล่อยปละละเลย ไม่อนุญาตแล้วยังทำ ต้องถูกลงโทษสถานหนัก เช่น สถานบริการ นี่คือกติกาที่ต้องมีให้แก่กัน จะบอกว่าขาดทุนมากก็ไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะเป็นมาอีกรอบ เพราะจะถอยหลังกลับไปอีก กว่าจะเปิดได้ ใช้เวลาเท่าไร รัฐบาลพยายามทำเต็มที่แล้ว ต้องอยู่กับรัฐบาล สถานประกอบการ ผู้บริโภค ประชาชน สังคม จะช่วยกันทำให้สังคมลดการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้อย่างไร

“มัวแต่โทษกันไปโทษกันมา ขอให้ทุกคนไปฉีดวัคซีนให้ครบ มีน้อยก็บ่น มีเยอะก็ไม่ฉีด ไม่กล้าไป ฉีดแล้วอย่างไรก็ไม่ตาย ไม่ป่วยรุนแรง ไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และต้องฉีดให้ครบ 100 ล้านโดส ในสิ้นปีนี้ แต่ตอนนี้พยายามทำให้ถึงร้อยละ 70 ก่อน ประเทศไทยกำลังเร่งพัฒนาวัคซีนภายในประเทศ ทั้งของจุฬาฯ และมหิดล คาดการณ์ว่าในปีหน้าสำเร็จ” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มาประชุมวันนี้ (15 พ.ย.) เป็นการประชุมด้านความคิดต่างของคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่า ต้องช่วยกันทำ ช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ อะไรที่ไม่ดีก็รู้ อะไรที่ดีก็รู้ อะไรทำได้ก็รู้ ถ้าทุกคนเข้าใจซึ่งกันและกัน จะไปได้ทั้งประเทศ เพราะฉะนั้นเรื่องการขับเคลื่อนการท่องเที่ยว ด้านเศรษฐกิจ รู้อยู่แล้วประเทศไทย GDP สูงสุดการท่องเที่ยวบริการ รัฐบาลพยายามบริหารจากห่วงโซ่เหล่านี้ ผู้ผลิต ผู้แปรรูป เพิ่มนวัตกรรมวิจัยพัฒนา เพิ่มมูลค่าการจำหน่ายในประเทศและต่างประเทศ

“ถ้าระบบเกษตร คือ ขายข้าวจบก็คือจบ ข้าวผันผวน เดี๋ยวอะไรก็ไม่รู้ รัฐบาลมีหน้าที่ก็ประกันไป ต้องอธิบายเขา รัฐบาลไม่สามารถไปสั่งนู่นสั่งนี่ได้ ผู้ประกอบการต้องดำเนินการตามกฎหมาย น้ำมันด้วย ทุกอย่างมีต้นทุน ต้องเข้าใจว่าอะไรคือต้นทุน อะไรคือการแปรรูป อะไรคือการเพิ่มมูลค่าหรือการตลาด มีทุกค่ายอยู่ตรงนี้ ถ้าบังคับได้ก็คงดี เพราะฉะนั้นมีกฎหมายบางตัวที่ทำได้ วันนี้ต้องกลับไปดูใหม่ทั้งหมด อะไรที่ช่วยตัวเองได้ก็ช่วยไปก่อนได้หรือไม่ งบประมาณมีจำกัดต้องค่อย ๆ ทยอยให้ ตอนนี้ลดดอกเบี้ยลดค่าน้ำค่าไฟก็ยังไม่พอ แล้วสนามบินจะเกิดได้หรือไม่ สะพานจะเกิดได้หรือไม่” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่ตนให้ความสำคัญ ทำอย่างไรให้ประเทศไทยมีรายได้สูงขึ้น ด้วยการคิดใหม่ทำใหม่ แล้วเริ่มจากตัวเอง วันนี้โดนมาพูด ทำความเข้าใจเสียงดังไปหน่อย พูดตั้งแต่เช้าเจ็บท้องเกร็ง วันนี้ตนคิดทั้งวันไม่เคยหยุดเลย ว่าจะทำได้อย่างไร ทุกอย่างมีแผนมี Master plan สิ่งสำคัญที่สุดคือการฟังความคิดเห็น แผนงานงบประมาณ จึงจะสามารถทำด้วยกันได้ รัฐบาลยินดีทุกอย่าง ที่ขอมา รับไว้ ไม่ใช่ไม่สนใจไม่ฟังทั้งหมด

“สังคมต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อย่าให้คนที่ไม่ชอบทำตามระเบียบตามกฎหมายออกมาเพ่นพ่าน ทำให้สังคมเสียหายไปหมด เราเดือดร้อน รายได้ก็ลดลง ความเห็นที่เสนอเข้าไปต้องไม่ขัดแย้งจังหวัด” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พรุ่งนี้ (16 พ.ย.) จะเสนองบประมาณโครงการขึ้นมาจำนวนมากให้ตนพิจารณา ประเทศไทยมีกี่หมู่บ้าน คนไทยทั้งสิ้น จ.กระบี่ ถือเป็นจังหวัดที่มีรายได้สูงอันดับต้น ๆ ของประเทศ ทำไม่สุจริตมันก็ไม่สุจริตอยู่อย่างนี้ ลดความเหลื่อมล้ำเมื่อมีภาระ มีเงินมีรายได้ดีกว่าต้องดูแลคนที่มีรายได้น้อย นี่คือหลักการความเท่าเทียมในเรื่องของโอกาส และอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ความเป็นธรรมคือการดูแลผู้ที่มีรายได้น้อย เราใช้งบประมาณจำนวนมาก ทำอย่างไรให้ผู้มีรายได้น้อยมีชีวิตที่ดีขึ้น พอเพียงในการใช้ชีวิตที่บ้านอาศัยที่เพียงพอ นี่คือความหลากหลายทางชีวภาพ

“ประเทศไทยมีมหาศาลก็สบายดี รัฐพัฒนาในเรื่องเหล่านี้ จะปล่อยให้คนของประเทศเป็นอย่างนี้ไม่ได้ คิดแล้วก็จุกคอทุกที ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคน จำไว้ 2 ครั้ง คือ โอกาสที่เท่าเทียมและความเป็นธรรมที่ดูแลผู้มีรายได้น้อยมีรายได้ที่ดีขึ้นอย่างเพียงพอ มีเหตุมีผล ความพอประมาณและมีภูมิคุ้มกันที่ดี ความรู้ คุณธรรม โลกวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ค่าใช้จ่ายรายเดือนมหาศาล ความทันสมัย เทคโนโลยี โครงสร้างสังคมให้เข้มแข็งให้ได้ ไม่ว่าจะอยู่กันไม่ได้ สถาบันต่าง ๆ เราเป็นชาติเดียว คนละศาสนาก็ชาติเดียวกัน คนไทยด้วยกัน อยู่ด้วยกันมาเก่าแก่ยาวนานจนถึงป่านนี้ นี่คือประเทศไทย ประเทศของเราทุกตารางนิ้วคือของเรา ของคนไทยทุกคน ที่จะต้องมีทั้งโอกาส ความเท่าเทียม และความเป็นธรรม เท่าเทียมทุกคนเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว รวยไม่ได้เท่ากัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ได้ถามชาวบ้านถึงการปลูกข้าว พร้อมระบุว่า นายกฯ ไม่ได้โยนภาระให้กับประชาชน โดยไม่ได้หาเสียง พูดด้วยใจจริงของตนเอง โดยความร่วมมือของคณะรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาล ตนโกหกใครไม่เป็น อะไรที่ทำได้ตนทำให้ เช่น โครงการ E-Voucher ต่างๆ โครงการท่องเที่ยว เพิ่มการท่องเที่ยว 30 รายการ SHA Plus การใช้เทคโนโลยีออนไลน์ ทุกอย่างต้องเดินหน้าทั้งหมด ต้องสมบูรณ์ในตัวเองทั้งหมด รัฐบาลส่งเสริมให้กลุ่มจังหวัดอันดามัน เป็นประเทศการท่องเที่ยวระดับโลก

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ทุกคนช่วยกันคิด ช่วยร่วมมือ ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีจะค่อย ๆ ช่วยทำให้ได้ทั้งหมด ทำแบบเนรมิตไม่ได้ พร้อมถามว่า “ใครว่ายน้ำไม่เป็นบ้าง นายกฯ สอนเด็กๆ มาแล้ว พร้อมทำท่ากางมือ และกล่าวว่า ลอยเฉยๆ ไม่มีวันจม แล้วรอคนมาช่วย นอนหงายแล้วกางมือ ไม่ตาย ผมทำมาเยอะตั้งแต่เด็กๆ แต่ถ้าตกน้ำแล้วตะเกียกตะกาย จะตายตอนนั้น เพราะไม่มีแรง หมดแรงตั้งแต่ต้น ฉะนั้นคนไทยหนึ่งต้องว่ายน้ำเป็น ออกกำลังกาย สามเรียนสองภาษา โอเคจบไหม แต๊งกิ้ว”

ทั้งนี้ ในการลงพื้นที่ จ.กระบี่ นายกฯ และรัฐมนตรี ได้เปลี่ยนมาสวมเสื้อผ้าบาติกหลากสีสัน เป็น “ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่พระราชทานแบบลายผ้า โดยเป็นผลิตภัณฑ์โอทอป จ.กระบี่ จากนั้นนายกรัฐมนตรีปลูกต้นทุ้งฟ้า ต้นไม้ประจำจังหวัดกระบี่ และเยี่ยมชมนิทรรศการภายในงาน

นายกรัฐมนตรี เดินลงไปริมหาดนพรัตน์ธารา พร้อมถ่ายรูปริมทะเล โดยนายกรัฐมนตรีได้ยืนหันหน้าเข้าหาทะเล และเชิญรัฐมนตรีบางส่วนและข้าราชการที่เดินทางมาด้วยถ่ายรูปบริเวณหน้าชายหาด ก่อนจะกลับที่พัก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กำหนดการของนายกรัฐมนตรีถูกเลื่อนให้เร็วขึ้น เนื่องจากต้องการหลีกเลี่ยงกลุ่มกระบี่ไม่ทน ที่นัดรวมตัวกันที่อ่าวนางแลนด์มาร์ค.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

EOD ลุยค้นหาจรวด หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง

13 ส.ค. – EOD ลุยค้นหา-เก็บกู้จรวดในพื้นที่บุรีรัมย์-ศรีสะเกษ หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง ขณะที่คณะ ICRC ลงพื้นที่เก็บข้อมูลผลกระทบเหตุปะทะ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด EOD ลงพื้นที่ตรวจสอบไร่ยางพาราของชาวบ้านและอีกหลายจุด ในเขต ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบหลุมต้องสงสัยอยู่ในที่ดินของตัวเอง จากการตรวจสอบพบสะเก็ดระเบิด และอีกหลายจุดพบเป็นหลุมคล้ายหลุมจรวด BM21 ที่ตกลงมา เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และต้องใช้ความระมัดระวัง ขณะที่ชาวบ้านที่เพิ่งเข้ามาอยู่บ้าน ยังไม่มั่นใจกับสถานการณ์ โดยเฉพาะหลังมีทหารเหยียบทุ่นระเบิดเป็นรายที่ 5 EOD เร่งตรวจสอบ–กู้ระเบิดกระสุนปืนใหญ่ชายแดน ส่วนที่ศรีสะเกษเจ้าหน้าที่ EOD สนธิกำลัง ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีพบกระสุนปืนใหญ่ตกในเขต ต.เสาธงชัย และ ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดน เบื้องต้นพบ 7 จุด บริเวณสวนยางพาราและใกล้เขตชุมชน โดยส่วนใหญ่เป็นลูกกระสุนปืนใหญ่ขนาด 100 มิลลิเมตร เจ้าหน้าที่ได้ทำการขุดตรวจพิสูจน์ พบว่าหลายลูกระเบิดไปแล้ว เหลือเพียงเศษซาก และยังพบอีก 1 จุดในพื้น […]

อึ้งพระอยู่กับสีกา เปิดบนรถเจอกองทิชชูใช้แล้ว

สกลนคร 13 ส.ค. – วงการผ้าเหลืองฉาวอีก ตำรวจตรวจรถเก๋งคันหนึ่งจอดอยู่ข้างทาง พบพระกับสีกาอยู่ด้วยกัน 2 ต่อ 2 คุยไปคุยมา สุดท้ายไปจบที่ลาสิกขา หลังตำรวจ สภ.ขมิ้น จ.สกลนคร ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน พบรถเก๋งต้องสงสัยสีดำ จอดผิดปกติบริเวณ ริมคลอง บ.พาน ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.สกลนคร เมื่อเข้าไปตรวจสอบ ตำรวจต้องอึ้ง เมื่อเจอพระอยู่กับสีกา 2 ต่อ 2 ในรถ ต่อมาทราบว่า คือ พระชัยณรงค์ อายุ 53 ปี สังกัด วัดแห่งหนึ่ง อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ จึงเชิญตัวไปยังวัดใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เพื่อทำพิธีลาสิกขา และนำตัวมาตรวจปัสสาวะ ผลไม่พบสารเสพติด แต่รถที่พระเเละสีกาดังกล่าวอยู่ด้วยกัน พบเป็นรถที่ถูกสวมทะเบียน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบ คืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง สภ.ขมิ้น พบรถเก๋งคันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณสถานที่เก็บของกลาง กระจกด้านข้างและด้านหลังติดฟิล์มดำสนิท แต่ด้านหน้าฟิล์มใสมองเห็นถึงภายใน ที่เบาะนั่งข้างคนขับ ยังพบกองจีวรของทิดชัยณรงค์ […]

สถานการณ์ชายแดนสุ่มเสี่ยงปะทะรอบ 2

สุรินทร์ 13 ส.ค. – กระแสข่าวจากหลายฝ่ายยืนยันตรงกันว่าระยะ 2 วันนี้ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จะเพิ่มความตึงเครียด สุ่มเสี่ยงที่จะมีการปะทะรอบ 2 ฝ่ายปกครอง จ.สุรินทร์ จึงแจ้งเตือนไปยังกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ให้ลูกบ้านเตรียมพร้อมรองรับเหตุฉุกเฉิน ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศ ในหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือน พบว่า หลายครอบครัวเพิ่งกลับเข้าพื้นที่ 1-2 วัน หลังอพยพหนีภัยการสู้รบในห้วงวันที่ 24 – 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ได้รับข่าวไม่สู้ดีนัก เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง แจ้งให้เตรียมความพร้อม เก็บสัมภาระไว้เพื่อรองรับสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงการปะทะ รอบ 2 ซึ่งอาจรุนแรงมากกว่ารอบแรก ทำให้ชาวบ้านหลายคนต่างตื่นตระหนก ต้องการอพยพไปอยู่นอกพื้นที่ แต่เมื่อผู้นำหมู่บ้านทำความเข้าใจ ก็คลายความกังวลลงบ้าง โดยสื่อสารข้อความจากนายอำเภอพนมดงรักว่า รอให้มีเสียงปะทะกันเกิดขึ้นก่อน จึงให้อพยพ ซึ่งชาวบ้านก็เชื่อฟัง เพราะส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าจะอพยพไปที่ไหน เพราะยังไม่มีการเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะที่หญิงคนหนึ่งติดอยู่ในพื้นที่สู้รบ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือนตลอดห้าวัน เพราะเป็นห่วงวัวที่เลี้ยงไว้ จึงอาศัยอยู่ในกระต๊อบพร้อมญาติรวมสี่คน และประเมินสถานการณ์ว่า น่าจะปลอดภัย เพราะวิถีกระสุนไปตกไกลกว่า จึงได้ยินเสียงปะทะอย่างชัดเจน […]

คุมตัว “ลุงพล” ส่งเรือนจำ ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัว

มุกดาหาร 13 ส.ค.- คุมตัว “ลุงพล” ส่งเรือนจำมุกดาหาร ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัวจากศาลฎีกา หลังศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุก 26 ปี คดีน้องชมพู่ จากกรณีศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาเพิ่มโทษให้จำคุก “ลุงพล” 26 ปี ฐานเจตนาฆ่าเด็ก พรากผู้เยาว์ และอำพรางศพ ขณะที่ “ป้าแต๋น” พิพากษายืนยกฟ้อง ในคดีฆาตกรรม น้องชมพู่ ทั้งนี้ภายหลัง ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ “ลุงพล” ได้ยื่นขอประกันตัว โดยศาลจังหวัดมุกดาหาร เสนอไปยังศาลฎีกา ล่าสุด ช่วงเย็นที่ผ่านมา ศาลฎีกายังไม่มีคำตอบลงมาว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ ทำให้ “ลุงพล” ถูกคุมตัวไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัวจากศาลฎีกา ย้อนไปคดีนี้ เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2563 น้องชมพู่ วัย 3 ขวบ หายไปจากบ้านพักภาย ในหมู่บ้านกกกอก ทำให้ชาวบ้านมากกว่า 200 ชีวิต รวมถึง ตัวลุงพล ช่วยกันออกตามหา […]