ปิดประชุม หนีสภาฯ ล่ม

รัฐสภา 3 พ.ย.- “สุชาติ” ชิงปิดประชุม หนีสภาฯ ล่ม วิปรัฐบาลโวย “เพื่อไทย-ก้าวไกล” เล่นเกมไม่กดบัตร ขาดองค์ประชุม 10 เสียง ด้าน “ฝ่ายค้าน” ซัดรัฐบาล ไม่รับผิดชอบกฎหมายตัวเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาช่วงเย็น ในการพิจารณามาถึงร่างพ.ร.บ.คุ้มครองพยานในคดีอาญา (ฉบับที่…) พ.ศ…. และกำลังเตรียมลงมติมาตรา 6 โดยขณะนั้น นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ได้กดสัญญาณให้ ส.ส. เข้าห้องประชุม เพื่อแสดงตนและใช้เวลารอองค์ประชุม เกือบ 5 นาที ก่อนจะกล่าวกับที่ประชุมว่า “ประธานกรรมาธิการ กรรมาธิการ ท่านสมาชิกเอาไว้ประชุมในคราวต่อไป ขอปิดการประชุม” ทำให้การประชุมสภาฯ ต้องยุติลงในเวลา 17.20 น. ทั้งนี้จำนวนสมาชิกที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ มีทั้งสิ้น 476 คน และองค์ประชุมต้องเกินกึ่งหนึ่ง คือ 238 คน


ทั้งนี้ภายหลังการประชุมนายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เปิดเผยว่า องค์ประชุมขาดไป 10 เสียง เนื่องจากพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยไม่แสดงตน เป็นองค์ประชุม ซึ่งกรณีดังกล่าวไม่ทราบเหตุผล และการพิจารณาร่างพ.ร.บ.คุ้มครองพยานในคดีอาญา (ฉบับที่…)พ.ศ…. ต้องเลื่อนไปพิจารณาสัปดาห์หน้า

จากนั้นเวลา 17.25 น. ที่รัฐสภา คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) นำโดยนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานวิปฝ่ายค้าน นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นางมนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ในฐานะเลขานุการวิปฝ่ายค้าน และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ ร่วมกันแถลงถึงกรณีสภาฯ ล่ม ตั้งแต่การประชุมนัดแรก โดยนายสมคิด กล่าวว่า วันแรกของการทำงานสภาก็ล่มแล้ว ทั้งที่เป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการรักษาองค์ประชุม ที่ผ่านมาฝ่ายค้านได้พยายามช่วยให้ดำเนินการประชุมได้ตลอด วันนี้กฎหมายสำคัญหลายฉบับของรัฐบาลเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ แต่รัฐบาลกลับไม่ใส่ใจ ดังนั้นเมื่อเป็นรัฐบาลแต่ดูแลเรื่ององค์ประชุมไม่ได้ ก็ไม่สมควรอยู่เป็นรัฐบาลต่อไป ขอเรียกร้องไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม รวมถึงหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดให้ดูแลเรื่องนี้ ไม่มีใครช่วยพวกท่านได้นอกจากท่านช่วยกันเอง


ด้านนายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ทราบมาวันนี้ประธานวิปรัฐบาลไม่อยู่ในสภาฯ สภาพของรัฐบาลขณะนี้กำลังสั่นคลอน งานสภาไม่ใส่ใจ รัฐบาลอยู่ไปวันๆ จึงอยากให้ประชาชนได้เห็นสภาพที่เป็นอยู่ในขณะนี้ เมื่อถามว่า เป็นเพราะพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ไม่ได้กดแสดงตนเป็นองค์ประชุมใช่หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ถึงกดก็ไม่เพียงพอ เพราะฝ่ายรัฐบาลขาดจำนวนมาก

ขณะที่ นายจุลพันธ์ กล่าวเสริมว่า ในระบอบประชาธิปไตยเสียงของรัฐบาลเกินกึ่งหนึ่ง ดังนั้นธรรมเนียมปฏิบัติเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องรักษาองค์ประชุม แต่น่าเสียดายว่าความขัดแย้งภายในของรัฐบาลไม่สามารถเกิดประสิทธิภาพขึ้นได้ และเชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์สภาล่มอีกหลายครั้ง และพวกตนก็ต้องมาแถลงข่าวแบบนี้อีกหลายครั้งเช่นกัน .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง