เดินหน้าปรับโครงสร้าง พปชร.

ก.ดีอีเอส 27 ต.ค.- “ชัยวุฒิ” เผยเดินหน้าปรับกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ลั่น ธรรมนัส มีปัญหา จึงต้องปรับ


นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงกระแสข่าวการลาออกของคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ เพื่อเปิดทางในการปรับโครงสร้างพรรรค ว่า ขณะนี้กำลังพูดคุยกันถึงการลาออก โดยพรุ่งนี้ (28 ต.ค.) จะคุยกันอีกครั้งอย่างเป็นทางการว่า จะปรับแก้อย่างไร ทุกคนต้องหาทางออกร่วมกัน เหตุผลที่ต้องปรับโครงสร้าง เพราะรัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐ ต้องเป็นเนื้อเดียวกัน เดินไปด้วยกัน หากพรรคพลังประชารัฐไม่ไปทางเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พรรคก็ทำงานยาก

เมื่อถามว่า กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐที่จะลาออกขณะนี้ เกินกึ่งหนึ่งหรือไม่ นายชัยวุฒิ ระบุว่า ยังไม่ถึง จริงๆ ยังไม่ถึงขั้นลาออก เป็นการพูดคุยกัน หากลาออกจะแถลงข่าว ส่วนการจะปรับโครงสร้างพรรคครั้งนี้ เพราะ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค มีปัญหาใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิ ถามสื่อมวลชนกลับว่า คิดว่ามีปัญหาหรือไม่ ขอสื่อมวลชนดูกันเอง ว่าในอดีตเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง


ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่า ร.อ.ธรรมนัส มีปัญหา ไม่เช่นนั้นไม่มีการพูดคุยกันเพื่อจะปรับโครงสร้าง แต่ไม่ขอพูดในรายละเอียด เพราะเชื่อว่าประชาชนและสื่อมวลชนรู้อยู่แล้วว่าคืออะไร ขอให้เดินไปข้างหน้า อย่าพูดถึงอดีต

ส่วนกรณีที่มี 6 รัฐมนตรีในพรรคพลังประชารัฐ ประกอบด้วย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไปพบนายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม กำลังถูกนายศรีสุวรรณ จรรยา ยื่นให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สอบ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าครอบงำหรือชี้นำพรรคหรือไม่นั้น นายชัยวุฒิ ระบุว่า เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะนายกรัฐมนตรีกับรัฐมนตรีคุยกันปกติ หากไม่คุยกันจะบริหารประเทศได้อย่างไร นายกรัฐมนตรีก็ต้องคุยกับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นพรรคที่เสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อกำหนดแนวทางการทำงาน เพราะสัปดาห์หน้าเปิดสภาฯ มีกฎหมายสำคัญจะเข้าพิจารณา จะทำงานร่วมกันอย่างไร หากนายกรัฐมนตรีไม่มาคุยกับ ส.ส. หรือรัฐมนตรี ก็ทำงานไม่ได้ เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ คุยกันเป็นประจำ ไม่ใช่การครอบงำ หากจะครอบงำ ต้องเป็นการโฟนอินมาจากดูไบ 

ส่วนกรณีที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ว่า 6 รัฐมนตรีที่พบนายกฯ นั้น ถือว่าไม่ใช่ส่วนมากในพรรค นายชัยวุฒิ กล่าวว่า จะมากจะน้อยไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะทุกคนคือสมาชิกพรรค เชื่อว่าทุกคนหวังดีกับบ้านเมือง และให้สภาฯ ราบรื่นไปในทางเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง