นายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 39

ทำเนียบรัฐบาล 26 ต.ค.- นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 39 ย้ำอาเซียนต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน อยู่กันพร้อมหน้า เพื่อร่วมกันสร้างความเข้มแข็งให้ภูมิภาค


พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมและกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 39 ผ่านระบบการประชุมทางไกล พร้อมผู้นำและผู้แทนสมาชิกอาเซียน

ซึ่งนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 39 มีประเด็นหลักที่หยิบยกขึ้นหารือหลักๆ ได้แก่ พัฒนาการความสัมพันธ์และความร่วมมือกับหุ้นส่วนภายนอกภูมิภาค นายกฯ ย้ำว่า ผู้นำอาเซียนทุกประเทศให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของอาเซียน ซึ่งเป็นหลักการอันทรงคุณค่า ในการทำงานร่วมกันของอาเซียนมาตลอด 54 ปีที่ผ่านมา และจะช่วยกันธำรงหลักการนี้ไว้ ด้วยการช่วยกันให้สมาชิกครอบครัวอาเซียนอยู่ร่วมกันพร้อมหน้าครบถ้วนเหมือนดังที่เคยเป็น มิใช่เช่นในวันนี้


นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อที่ประชุมว่า ทุกประเทศต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศ สมาชิกอาเซียนต้องรักษาความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและความเป็นแกนกลางของอาเซียนเพื่อเอาชนะกับความท้าทายหลากหลายรูปแบบที่โลกกำลังเผชิญ ทั้งโควิด-19 ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความท้าทายต่อภูมิรัฐศาสตร์ในโลกและในภูมิภาค อาเซียนจะต้องมีความร่วมมือที่สร้างสรรค์กับภายนอกภูมิภาค และรักษาความสงบสุขในภูมิภาค เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมให้ก้าวหน้าต่อไป

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเสนอ 3 แนวทางโดยให้ดำเนินการควบคู่กันไป ได้แก่

1.อาเซียนควรเพิ่มพูนความสัมพันธ์กับภาคีภายนอกให้มากยิ่งขึ้น รักษาความเป็นเอกภาพ มีบทบาทนำในการขับเคลื่อนข้อริเริ่มต่าง ๆ เพื่อขยายโอกาสและสร้างพลังของอาเซียนในการดำเนินความสัมพันธ์ภายนอก และเห็นว่าอาเซียนควรใช้โอกาสจากความเป็นหุ้นส่วนเหล่านี้ในการผลักดันวาระต่าง ๆ ที่เป็นผลประโยชน์ของอาเซียนและส่งเสริมความเป็นแกนกลางของอาเซียนในภูมิภาคต่อไป


2.อาเซียนต้องร่วมกันส่งเสียงที่ชัดเจนและสอดคล้องกันเกี่ยวกับความเป็นแกนกลางของอาเซียนในสถาปัตยกรรมในภูมิภาค เสริมสร้างความเข้มแข็งของกลไกต่าง ๆ ที่อาเซียนมีบทบาทนำ โดยใช้มุมมองอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก (AOIP) เป็นเครื่องมือในการสนับสนุนให้มหาอำนาจมีปฏิสัมพันธ์กันในภูมิภาคของเราอย่างสร้างสรรค์ เพื่อรักษาสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค

3.อาเซียนควรมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจทางยุทธศาสตร์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ โดยอาจพิจารณาใช้แนวทางใหม่ ๆ ในการปฏิสัมพันธ์กับทั้งสองประเทศ เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสามารถแสวงจุดร่วมในเรื่องที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกันในภูมิภาคได้ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เป็นต้นสำหรับสถานการณ์ในเมียนมา นายกฯ กล่าวว่า เป็นบททดสอบความสามารถของอาเซียนในการจัดการและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในภูมิภาค อาเซียนควรมีบทบาทที่สร้างสรรค์ในการช่วยคลี่คลายสถานการณ์ในเมียนมาเพื่อความน่าเชื่อถือของอาเซียนในประชาคมระหว่างประเทศ โดยไทยต้องการที่จะเห็นสันติภาพและเสถียรภาพในเมียนมาและพร้อมฉันทามติ 5 ข้อ

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีมีความเห็นต่อเมียนมาว่า “ไทยเชื่อในภูมิปัญญาร่วมกันของทุกประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งสิบประเทศ ที่จะหาวิธีการเอาชนะความท้าทายต่าง ๆ ได้ร่วมกัน โดยคำนึงถึงความเป็นครอบครัวอาเซียนเดียวกัน มีความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน เพื่อการบรรลุถึงสันติภาพและความสมานฉันท์ รวมทั้งกลับคืนสู่กระบวนการประชาธิปไตย เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนเมียนมา และเพื่อสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาค ผมเชื่อว่า ผู้นำอาเซียนทุกประเทศให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของอาเซียน ซึ่งเป็นหลักการอันทรงคุณค่าในการทำงานร่วมกันของอาเซียนมาตลอด 54 ปีที่ผ่านมา และจะช่วยกันธำรงหลักการนี้ไว้ ด้วยการช่วยกันให้สมาชิกครอบครัวอาเซียนอยู่ร่วมกันพร้อมหน้าครบถ้วนเหมือนดังที่เคยเป็น มิใช่เช่นในวันนี้”

ทั้งนี้ ผู้แทนพิเศษของประธานอาเซียนจะมีบทบาทช่วยสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและบรรยากาศสำหรับการหารือที่สร้างสรรค์ระหว่างกลุ่มต่าง ๆ ได้ การยุติความรุนแรง และการแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธีโดยการพูดคุยและหารือระหว่างทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และ การให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ควรจะยังคงดำเนินต่อไปและกระจายไปสู่ทุกฝ่ายอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว

นายกฯ หวังว่า ในฐานะสมาชิกครอบครัวอาเซียน เมียนมาจะไว้ใจในการช่วยเหลือให้เมียนมาบรรลุสันติภาพและความสมานฉันท์ รวมทั้งกลับคืนสู่กระบวนการประชาธิปไตย เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนเมียนมา และเพื่อสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาค โดยไทยยินดีกับความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ ของบรูไนฯ และพร้อมสนับสนุนกัมพูชาในการเป็นเจ้าภาพอาเซียนปีหน้า ทั้งนี้ บรูไนฯ ในฐานะประธานอาเซียนจะออกแถลงการณ์ประธาน สำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 38 และ 39 รวมกันในฉบับเดียว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

วธ.ชวนคนไทยฉลอง “ต้มยำกุ้ง-เคบายา” มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ

“รมว.สุดาวรรณ” แจ้งข่าวดี 4 ธ.ค.นี้ คนไทยเตรียมเฮ “ต้มยำกุ้ง-เคบายา” ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติโดยยูเนสโก พร้อมเชิญชวนร่วมงานฉลองและผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ไทยให้ดังไกลทั่วโลก

ปัตตานียังจมบาดาล คนเดือดร้อนเกินแสน

จ.ปัตตานี ยังจมบาดาล ชาวบ้านเดือดร้อนเกินแสนคน รถยนต์-รถจักรยานยนต์จมน้ำนับพันคัน โรงพยาบาล 4 แห่ง ปิดชั่วคราว ย้ายผู้ป่วยหนีน้ำท่วมเร่งด่วน

ผบ.ทร. เร่งสอบเมียนมายิงเรือประมงไทย เช็กพื้นที่เกิดเหตุ

“ผบ.ทร.” เร่งสอบปมเมียนมายิงเรือไทย เช็กพื้นที่เกิดเหตุอยู่ในขอบเขตอำนาจ-กม.ของไทยหรือเมียนมา ลั่นหากพบละเมิด ทำเกินกว่าเหตุพร้อมตอบโต้

ออกหมายเรียก “ฟิล์ม รัฐภูมิ” รับทราบข้อกล่าวหาพยายามฉ้อโกง ในสัปดาห์หน้า

กองปราบฯ ออกหมายเรียก “ฟิล์ม รัฐภูมิ” เข้ารับทราบข้อกล่าวหาพยายามฉ้อโกงบอส “ดิไอคอนกรุ๊ป” ในสัปดาห์หน้า