กำชับบริหารจัดการน้ำ คุมเข้มชายแดน

จ.กาญจนบุรี 20 ต.ค.-“พล.อ.ประวิตร” ลงพื้นที่กาญจนบุรี ติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ์ แผนบริหารจัดการน้ำของจังหวัด กำชับวางแนวทางรับมือทั้งในปีนี้และปีหน้า เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง เร่งเยียวยาปชช.ที่เดือดร้อน พร้อมตามสถานการณ์มั่นคงชายแดน สั่งเข้มป้องกันหลบหนีเข้าเมือง ยาเสพติด


พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ(กอนช.) พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ไปปฏิบัติราชการ เพื่อตรวจ ติดตามการบริหารจัดการน้ำ รวมถึงการรักษาความมั่นคงพื้นที่ชายแดน ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี โดยโดยเดินทางไปที่บริเวณเขื่อนแม่กลอง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี  รับฟังการบรรยายสรุป เกี่ยวกับสถานการณ์ตามแนวชายแดนจาก ตร.ภูธร จ.กาญจนบุรี และกองกำลังสุรสีห์ ในการป้องกันและจัดระเบียบชายแดน เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย รวมทั้งป้องกันปัญหาแรงงานหลบหนีเข้าเมืองและยาเสพติด 

จากนั้นรับทราบรายงานสถานการณ์น้ำในภาพรวม จากผู้ว่าราชการจังหวัด และแนวทางการบริหารจัดการน้ำ การเตรียมรับน้ำหลากปี 64 และเตรียมการสำหรับฤดูแล้งในปีถัดไป การบริหารจัดการน้ำของเขื่อนแม่กลองและคลองจระเข้สามพัน จากกรมชลประทาน  ทั้งนี้ ลุ่มน้ำแม่กลองมีพื้นที่ราว 30,836 ตร.กม.(19.27 ล้านไร่) เขื่อนแม่กลองเป็นเขื่อน เพื่อการทดน้ำ มีความยาว 117.50 ม. ก่อสร้างเสร็จเมื่อปีพ.ศ.2513 สามารถส่งน้ำครอบคลุมพื้นที่ 7 จังหวัด ได้จ.สุพรรณบุรี จ.กาญจนบุรี จ.นครปฐม จ.ราชบุรี จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรสงคราม และจ.เพชรบุรี


พล.อ.ประวิตร มอบนโยบายกำชับให้ทุกหน่วยงานเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก เตรียมแผนเผชิญเหตุให้พร้อม รวมถึงแผนการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ  ให้อนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัดเร่งจัดทำแผนบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้งให้เสร็จโดยเร็ว  กรมชลประทานเตรียมจัดสรรน้ำในฤดูแล้ง โดยเฉพาะด้านอุปโภคบริโภค ร่วมกับการประปานครหลวง สำหรับพื้นที่ชายแดน จ.กาญจนบุรี ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ขอให้หน่วยงาน ด้านความมั่นคง เข้มงวด การจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองและป้องกันยาเสพติด อย่างจริงจัง และรองรับ ยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วย

พล.อ.ประวิตรประกอบพิธีกดปุ่มเปิดน้ำชุมชน ต.ทุ่งกระบ่ำ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ประชาชน ได้มีน้ำดื่ม น้ำใช้สะอาดตลอดทั้งปีโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และมอบถุงยังชีพจำนวน 1,000 ถุง สุขาลอยน้ำ 2 หลัง และเรือ 1ลำ ให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ และพบปะผู้นำชุมชนที่มาให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง ก่อนเดินทางต่อไปยังเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี โดยรับทราบสถานการณ์น้ำของเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ์จากผู้อำนวยการเขื่อนทั้ง 2 แห่ง ซึ่งปัจจุบัน เขื่อนศรีนครินทร์ มีความจุที่ระดับกักเก็บ 17,775 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำใช้การ 4,731 ล้าน ลบ.ม. และเขื่อนวชิราลงกรณ์ มีความจุที่ระดับกักเก็บ 8,860 ล้าน ลบ.ม.ปริมาณน้ำใช้การ 4,335 ล้าน ลบ.ม. 

พล.อ.ประวิตร ได้มอบนโยบายให้ทุกหน่วยงานเตรียมแผนกักเก็บน้ำสำรองทั้งผิวดินและใต้ดิน ไว้รองรับในฤดูแล้งหน้า พร้อมกำชับสทนช.ให้ร่วมกับกรมชลประทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)  กำหนดแผนการจัดสรรน้ำของอ่างเก็บน้ำ โดยคำนึงถึงการใช้น้ำให้ครอบคลุมทุกภาคส่วน ให้เร่งรัดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่จังหวัดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว รวมถึงเน้นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับรู้ และมีส่วนร่วมสนับสนุนการแก้ปัญหาน้ำของประเทศไปด้วยกัน


ในช่วงบ่าย พล.อ.ประวิตรและคณะเดินทางต่อไปยังอ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี มอบถุงยังชีพจำนวน 2,000 ถุงให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย พร้อมให้กำลังใจและกำชับจังหวัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งฟื้นฟูช่วยเหลือเยียวยาอย่างเร่งด่วน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ. เผยกัมพูชาโจมตีตั้งแต่ 5 ทุ่มถึงรุ่งสาง

กทม. 28 ก.ค.-ทบ. เผยกัมพูชาโจมตีตั้งแต่ 5 ทุ่มถึงรุ่งสาง ขณะ ทภ.2 เตือนอย่าเชื่อข่าวปลอม กองทัพไม่สนทางรัฐบาลเจรจา กร้าวเดินหน้ารบ-ประกาศอัยการศึก พร้อมชวนกดรีพอร์ทโพสต์-คอมเมนต์ผู้ไม่หวังดีโจมตีสื่อทางการไทย กองทัพบกทันกระแส รายงานว่าเข้าวันที่ 5 ของสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา ตั้งแต่ 5 ทุ่ม เที่ยงคืน ตี 1 ตี 3 จนฟ้าเริ่มสาง ทหารไทยยังไม่ได้พักมีทุกแบบ ทั้งคืน นอกจากนี้ กองทัพภาคที่2 ยังได้ขอความร่วมมือ ชาวโซเชียลไทย กดรีพอร์ท Report โพสต์หรือคอมเม้นต์ของผู้ไม่หวังดี ที่ต้องการเข้ามา กลั่นแกล้ง ก่อกวน และโจมตี สื่อทางการไทย พร้อนเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม กรณีที่มีข่าวว่า “กองทัพแข็งกร้าว! ลั่นเดินหน้ารบ ซัดรบ.อย่าหวังเจรจา ขณะเขมรยึดพื้นที่ไทย จ่อใช้กฎอัยการศึกทั่วประเทศ”.-313.-สำนักข่าวไทย

ไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่

กทม. 28 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและอีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ […]

กองทัพภาคที่ 2 แจงภาพระเบิดอาคารร้างฝั่งกัมพูชา

กทม. 28 ก.ค.-กองทัพภาคที่ 2 แจงภาพระเบิดอาคารร้างฝั่งกัมพูชา พบฝ่ายกัมพูชาตั้งอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งโจมตีพื้นที่พลเรือนฝ่ายไทย ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงกรณีมีภาพการระเบิดที่อาคารร้างฝั่งกัมพูชา ตามที่ปรากฏข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์ เหตุการณ์การระเบิดบริเวณอาคารร้างฝั่งกัมพูชาซึ่งอยู่ใกล้แนวชายแดนไทย ฝ่ายไทยมีการตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้ตั้งอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งไว้บริเวณพื้นที่พลเรือน และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับภารกิจทางทหารในหลายพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมากัมพูชาใช้อาวุธดังกล่าวในการโจมตีพื้นที่พลเรือนของฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง นำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย อันถือเป็นการกระทำที่เข้าข่าย “ใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์” (Human Shield) ซึ่งเป็นการละเมิดหลักมนุษยธรรมสากล ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 จึงขอยืนยันว่า การใช้กำลังทางทหารของกองทัพไทยมุ่งเป้าเฉพาะไปยังเป้าหมายทางทหารที่ตรวจพบว่ามีการโจมตี หรือคุกคามต่อความมั่นคงของชาติไทย เท่านั้น ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ยังคงยึดมั่นในหลักสันติวิธี การเคารพในอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน และไม่ใช้ความรุนแรงกับพลเรือนทุกกรณี แต่ต้องดำเนินมาตรการป้องกันตนเองจากภัยคุกคามที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ และอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย