fbpx

ครม.ผ่านร่างปฏิญญาระดับรมต.ว่าด้วยโรคโควิด

ทำเนียบรัฐบาล 19 ต.ค.-ที่ประชุมครม.เห็นชอบร่างปฏิญญาระดับรัฐมนตรีสำหรับการประชุมระดับสูงว่าด้วยโรคโควิด-19


น.ส.ไตรศุลี  ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบร่างปฏิญญาระดับรัฐมนตรีสำหรับการประชุมระดับสูงว่าด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019(โควิด-19) พร้อมอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองร่างปฏิญญาดังกล่าว โดยมีกำหนดรับรองในวันที่ 22 ตุลาคม 2564 ในการประชุม High-Level Conference on COVID-19(HLCC 2021) ผ่านระบบการประชุมทางไกล

“กระทรวงคมนาคมรายงานว่า องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ(International  Civil Aviation Organization : ICAO) ได้มีหนังสือแจ้งเชิญประเทศสมาชิกเข้าร่วมประชุม HLCC 2021 ระหว่างวันที่ 12-22 ตุลาคม 2564  ผ่านระบบการประชุมทางไกล ในหัวข้อหลักคือ หนึ่งวิสัยทัศน์เพื่อการฟื้นฟูการบิน ความสามารถในการรับมือกับวิกฤตการณ์และความยั่งยืนภายหลังภาวะระบาดใหญ่ทั่วโลก  ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรลุฉันทามติร่วมกันตามแนวทางพหุภาคีในการฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรมการบินที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเสริมสร้างความสามารถในการฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์ และความยั่งยืนในภาคการบินในอนาคต และจะมีการรับรองปฏิญญาภายใต้หัวข้อดังกล่าวด้วย” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว


น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับสาระสำคัญของร่างปฏิญญาฯ เป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันของประเทศสมาชิก โดยเน้นย้ำความสำคัญของการร่วมมือกันระหว่างรัฐสมาชิกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ICAO และองค์การอนามัยโลก(WHO) มีรายละเอียดที่สำคัญเช่น ประเด็น การฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรมการบินจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19  จะสนับสนุนการทำงานของคณะทำงาน ICAO Council Aviation Recovery Taskforce (CART) และให้ความสำคัญของมาตรฐานร่วมในการเดินทาง การทำงานร่วมกันผ่านระบบดิจิทัลแอปพลิเคชัน ตลอดจนการถอดบทเรียนจากโรคระบาดในปัจจุบัน  และการทำงานร่วมกับพันธมิตรระหว่างประเทศที่สร้างขึ้นบนแนวทางของICAO และ WHO  รวมทั้งจัดตั้งยุทธศาสตร์ Public Health Corridors ในระดับทวิภาคี ภูมิภาค และพหุภาคี หรือความตกลงในรูปแบบอื่นๆที่มีผลเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยอมรับวัคซีนร่วมกันและการลดความเสี่ยงเพิ่มเติมอื่นๆตามความจำเป็น

“ขณะที่การประสานกันของแนวปฏิบัติในการเดินทางระหว่างประเทศนั้น ผู้โดยสารทุกคนควรได้รับประโยชน์จากการปฏิบัติที่เท่าเทียมและเป็นธรรม ความสามารถในการเดินทางและการได้รับวัคซีนจะต้องไม่เป็นเงื่อนไขสำหรับการเดินทาง รวมถึง การบรรเทาหรือยกเว้นข้อกำหนดในการตรวจหาเชื้อและกักตัวสำหรับผู้โดยสารที่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ โดยจัดให้มีทางเลือกอื่นๆสำหรับผู้โดยสารที่ยังไม่ได้รับวัคซีนและการอำนวยความสะดวกการขนส่งวัคซีนทางอากาศ อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นและบุคลากรที่เกี่ยวข้องในการต่อสู้กับโควิด-19 โดยเฉพาะการขนส่งไปยังประเทศกำลังพัฒนา เป็นต้น” น.ส.ไตรศุลี กล่าว.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เชิญ 4 ธนาคารใหญ่ ถกลดดอกเบี้ยบ้านกลุ่มเปราะบาง

นายกฯ เชิญผู้บริหาร 4 ธนาคารใหญ่ เข้าหารือ ขอให้ทั้ง 4 ธนาคาร ช่วยลดราคาดอกเบี้ยเงินกู้บ้านให้กับประชาชน ส่วนความเคลื่อนไหวทางด้านการเมือง เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เผยส่งชื่อรัฐมนตรีให้นายกฯ พิจารณาแล้ว

สถานการณ์ชายแดนแม่สอดยังไม่น่าไว้วางใจ มีเสียงปืน-ระเบิดจากฝั่งเมียนมา

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก ยังไม่น่าไว้วางใจ หลังเช้านี้ได้ยินเสียงปืนและระเบิดจากการปะทะของกองกำลังกะเหรี่ยงกับทหารเมียนมา ดังขึ้นในรอบ 3 วัน ขณะที่บ่ายนี้ (23 เม.ย.) รมว.ต่างประเทศ เตรียมลงพื้นที่

เฮลิคอปเตอร์กองทัพเรือมาเลเซียชนกันกลางอากาศ-ดับแล้ว 10

กองทัพเรือมาเลเซียกล่าวในแถลงการณ์ว่า เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือมาเลเซีย 2 ลำ ชนกันกลางอากาศในระหว่างการฝึกซ้อมสำหรับการแสดงในขบวนพาเหรดของกองทัพเรือ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย

ยัน รบ.ไม่ได้กู้เงิน ธ.ก.ส. ไม่ทำให้ขาดสภาพคล่อง

“จุลพันธ์” ยันรัฐบาลไม่ได้กู้เงิน ธ.ก.ส. ใช้ดิจิทัลวอลเล็ต แต่เป็นกลไกงบประมาณ มั่นใจไม่ทำ ธ.ก.ส.ขาดสภาพคล่อง บอก อย่าลืมรัฐถือหุ้น100% พัฒนา “ซูเปอร์แอปฯ” ใช้งบประมาณไม่ถึงพันล้าน