ให้ผู้ว่าฯ ออกประกาศตามสถานการณ์ในพื้นที่ได้

ทำเนียบรัฐบาล 18 ต.ค.-ศบค.ย้ำข้อกำหนดใหม่ แม้ผ่อนคลายเพิ่ม แต่ให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดออกประกาศตามสถานการณ์ระดับพื้นที่แต่ละอำเภอตามสถานการณ์ได้


พญ.สุมณี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงเน้นย้ำข้อกำหนดฉบับที่ 35 ตามพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินล่าสุด 8 ข้อ ว่า เป็นการปรับปรุงพื้นที่จังหวัดตามสถานการณ์ เพื่อให้สอดคล้องกับการระบาดในสถานการณ์ปัจจุบัน โดยจังหวัดที่ได้รับการปรับพื้นที่สถานการณ์ตามข้อกำหนด ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมด้านบุคลากร สถานที่ เพื่อแจ้งให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ดำเนินการ ตามมาตรการข้อห้ามและข้อปฏิบัติ ทั้งนี้ กรณีที่มีการแพร่ระบาดของโรคในระดับอำเภอทางผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถปรับพื้นที่ของตนเองให้มีมาตรการที่เข้มงวดกว่าระดับจังหวัดได้

“การกำหนดจำนวนบุคคลการรวมกลุ่มเพื่อทำกิจกรรมจำแนกการเขตพื้นที่สถานการณ์พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดไม่เกิน 50 คน พื้นที่ควบคุมสูงสุดไม่เกิน 100 คน พื้นที่ควบคุมไม่เกิน 200 คน โดยข้อห้ามการจัดกิจกรรมเสี่ยงต่อการแพร่โรค และขั้นตอนการขออนุญาต การพิจารณาอนุญาตเฉพาะที่ได้รับยกเว้นยังคงบังคับใช้ต่อไป เช่น การขนส่ง การขนย้ายประชาชนเพื่อการรักษาตัว/ กิจกรรมการรักษาพยาบาลและสาธารณสุข/ กิจกรรมการให้บริการช่วยเหลือประชาชน/ การรวมกลุ่มปกติในที่พัก หรือที่ทำงาน และการประชุมทางอิเล็กทรอนิกส์ /หรือการออกกำลังกายในสถานที่ที่กำหนด/ เป็นกิจกรรมที่จัดโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐ” พญ.สุมณี กล่าว


พญ.สุมณี กล่าวว่า ส่วนการปรับเวลาห้ามออกนอกเคหสถานสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ปรับเวลาเป็น 23:00 น ถึง 3:00 น ของวันรุ่งขึ้น ต่อเนื่องจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2564 โดยกำหนดให้เงื่อนไขของการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่และกรณีบุคคลที่ได้รับการยกเว้น หรืออนุญาตไว้ก่อนหน้านี้ยังคงบังคับใช้ต่อไป //มาตรการควบคุมแบบบูรณาการสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ที่ให้สถานที่ กิจการ กิจกรรม ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการแล้ว ตามข้อกำหนดที่ได้ประกาศเปิดดำเนินการต่อไปโดยมีคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพฯ หรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดดูแล มี 5 กิจการ ได้แก่ ร้านจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม โรงภาพยนตร์ ห้างสรรพสินค้า สนามกีฬา สวนสาธารณะ ให้เปิดดำเนินการได้แต่ไม่เกิน 22:00 น. ร้านสะดวกซื้อ ตลาดนัด ตลาดสดเปิดเพื่อจำหน่ายสินค้าได้ทุกประเภทตามเวลาปกติจนถึง 22:00 น.

พญ.สุมณี กล่าวว่า กรณีเครื่องเล่น เปิดให้บริการได้โดยต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดก่อน ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสามารถเปิดให้บริการลักษณะของผู้ดูแลผู้สูงอายุแบบเช้าไปเย็นกลับได้ โดยให้คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพฯ หรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด อนุญาตตามความเหมาะสม โดยมีเงื่อนไขทางผู้ให้บริการและผู้รับบริการจะต้องได้รับวัคซีนตามที่กำหนดและมีการสุ่มตรวจหาเชื้อด้วย ATK ให้กับผู้ให้บริการทุกสัปดาห์ โรงแรม ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม สถานที่จัดนิทรรศการ หรือที่มีลักษณะคล้ายกันสามารถเปิดให้บริการเพื่อจัดประชุมสัมมนา หรือจัดงานพิธีตามประเพณีนิยมได้จนถึง 22.00 น.

“ให้ปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยสำหรับองค์กรที่กำหนด เช่น จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมงาน ให้ผู้ร่วมงานสำนักอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา การจัดให้มีช่วงเวลาตลอดเวลาพักเพื่อระบายอากาศในห้องประชุม มีการจัดเตรียมอาหารแบบแยกชุด มีการเว้นระยะเพื่อไม่ให้แออัด ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า community mall หรือสถานประกอบกิจการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน สามารถเปิดให้บริการเพื่อจัดประชุมสัมมนาหรือจัดเลี้ยงตามประเพณีนิยมได้จะถึง 22.00 น. โดยงดกิจกรรมส่งเสริมการขาย และปิดให้บริการในส่วนที่เป็นร้านเกม ตู้เกม เครื่องเล่น สวนสนุก และสวนน้ำ” พญ.สุมณี กล่าว


พญ.สุมณี กล่าวว่า สำหรับการขนส่งสาธารณะทุกประเภท ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และการขนส่งสาธารณะระหว่างจังหวัดทุกประเภททั่วราชอาณาจักร ให้ผ่อนคลายมาตรการจำกัดจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการ แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการที่ กระทรวงสาธารณสุข กำหนดให้เหมาะสมกับยานพาหนะและสภาพการเดินทาง การปฏิบัติงานนอกสถานที่ของหน่วยงาน หรือ work from home ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดให้ส่วนราชการและหน่วยงานภาครัฐและเอกชนยังให้เจ้าหน้าที่และบุคลากรปฏิบัติงานนอกสถานที่ทำงานอย่างเต็มความสามารถที่จะปฏิบัติได้โดยไม่กระทบกับภารกิจที่ให้บริการแก่ประชาชน การผ่อนคลายมาตรการสำหรับมาตรการกิจกรรมบางประเภท ได้แก่ ตู้เกม เครื่องเล่น ที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า community mall ที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด สามารถเปิดดำเนินการได้ลักษณะเล่นเดี่ยวหรือเล่นเป็นคู่ แต่ต้องใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และยังงดให้บริการสวนสนุกและสวนน้ำไปก่อน

“สวนสาธารณะสนามกีฬายิมฟิตเนส หรือที่ออกกำลังกายทุกประเภทในพื้นที่ควบคุมสูงสุด(สีแดง) สามารถเปิดให้บริการได้แต่ไม่เกิน 22.00 น.  พญ.สุมณี กล่าวว่า ขณะที่การเตรียมความพร้อมสำหรับกิจการในอนาคต ได้แก่ สถานบริการ สถานประกอบการที่คล้ายสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ยังคงปิดประเมินการทั่วราชอาณาจักร แต่เพื่อเป็นการเตรียมการผ่อนคลายในอนาคตผู้ประกอบการจะต้องดำเนินการ คือ สถานที่ให้มีการไหลเวียนถ่ายเทอากาศ มีระบบฟอกอากาศที่ดี ให้พนักงานได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่กำหนด ปฏิบัติตามมาตรการและแนวทางที่ราชการกำหนด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ทั้งนี้ มาตรการทั้ง 8 ข้อกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันเตรียมความพร้อมดูแลให้สถานประกอบการดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆที่กำหนดไว้ เพื่อให้สถานประกอบการสามารถผ่อนคลายได้ในอนาคตตามความพร้อมและความเหมาะสม” พญ.สุมณี กล่าว .-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]