เพื่อไทย ชี้โลกเปลี่ยนการศึกษาไทยต้องเร่งปรับ

เพื่อไทย 2 ต.ค.-เพื่อไทย ชี้โลกเปลี่ยนการศึกษาไทยต้องเร่งปรับ ให้เรียนรู้ คิด วิเคราะห์ พร้อมเสนอนโยบายดาบ 5 เล่มดันการศึกษาไทยพุ่งทะยาน 

พรรคเพื่อไทยจัดเสวนาโลกเปลี่ยน การศึกษาไทยต้องปรับ? โดยมี นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายนพดล ปัทมะ ประธานคณะกรรมการนโยบายและวิชาการพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นางสาวณหทัย ทิวไผ่งาม อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ร่วมเสวนา


นายนพดล กล่าวว่าหลายปีมานี้ปัญหาการศึกษารุนแรง ทั้งความเหลื่อมล้ำ เด็กยากจนหลุดจากระบบการศึกษานับแสน โรงเรียนขนาดเล็กนับหมื่น ปัญหาคุณภาพการศึกษาทั้งระบบ ดูจากตัวชี้วัด เช่นคะแนน PISA ที่ทดสอบด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และการอ่านคะแนนล่าสุดต่ำที่สุดในรอบ 15 ปี ทักษะภาษาอังกฤษ ปี 2563 ลดลง 15 ลำดับเป็นที่ 89 จาก 100 ประเทศ ระบบการศึกษายังไม่พัฒนาคนให้มีทักษะที่ต้องเผชิญความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ไม่ตอบโจทย์การสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ผลิตแรงงานทักษะฝีมือไม่พอและไม่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน ขาดแคลนนักวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม จึงเห็นว่า การพลิกโฉมการศึกษาอาจไม่พอ แต่ต้องทำให้การศึกษาพุ่งทะยานไปข้างหน้า

นายนพดล เห็นว่าเป้าหมาย 3 ด้านคือ ทุกคนต้องมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาคุณภาพระดับโลก ตามความถนัด ทุกที่ ทุกเวลา สร้างสมรรถนะและทักษะที่จำเป็น และต้องเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ดังนั้นจึงขอเสนอแนวนโยบายดาบ 5 เล่มเพื่อให้การศึกษาพุ่งทะยานไปข้างหน้า คือ 1) SMART SECURITY การศึกษาเป็นความมั่นคงอันชาญฉลาดของคนไทย ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาคุณภาพ ทุกที่ ทุกเวลาตลอดชีวิต ต้องไม่มีเด็กหลุดจากโรงเรียน เพิ่มงบฯให้กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา สร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลให้คนไทยเข้าถึงความรู้หรือทักษะได้ทุกที่ทุกเวลาเมื่อต้องการ 2) SMART START การเริ่มต้นชีวิตอย่างชาญฉลาด โดยเน้นการลงทุนในเด็กปฐมวัย 1-6 ขวบ พัฒนาให้ศูนย์เด็กเล็กมีมาตรฐานชาติเป็น Smart day care 20,000 แห่งทั่วประเทศ เพิ่มเงินเลี้ยงดูบุตร 1-6 ขวบ เป็นเดือนละ 1,000 บาท 3) SMART SCHOOL โรงเรียนที่ชาญฉลาด ยึดโรงเรียนเป็นตัวตั้งในการพัฒนา เพิ่มอิสระ กระจายอำนาจให้โรงเรียน หนึ่งอำเภอต้องมีหนึ่งโรงเรียนต้นแบบ Smart School  ปรับหลักสูตร แนวการสอนและสื่อการสอน การทดสอบ และประเมินใหม่ เร่งพัฒนาครู 4) SMART STUDENT ผู้เรียนที่ชาญฉลาด เช่น ทักษะคิดวิเคราะห์ คิดวิพากษ์ คิดสร้างสรรค์ รวมทั้งทักษะอื่นๆในการรับมือกับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เรียน 4 ภาษา ไทย จีน อังกฤษ ภาษาคอมพิวเตอร์ ที่สำคัญต้องสื่อสารภาษาอังกฤษได้ 5)SMART STRATEGY ยุทธศาสตร์ที่ชาญฉลาดพัฒนาทุนมนุษย์เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ  เพิ่มสัดส่วนการเรียนด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีให้มากขึ้น เพิ่มสายอาชีพ ผลิตช่างฝีมือรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมาย


“ปัญหาการศึกษาเป็นเรื่องใหญ่ เชื่อมโยงกับปัญหาความเหลื่อมล้ำ และปัญหาเศรษฐกิจอย่างแยกไม่ออก ทุกฝ่ายต้องร่วมทำ รัฐบาลต้องนำและเข้มแข็งมีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนการพัฒนาการศึกษา แต่ตนเห็นว่าสิ่งนี้ยังไม่บรรลุผล พรรคเพื่อไทยตระหนักในปัญหา มีแนวทางพร้อมแก้ไข ถ้ามีโอกาส”

นางสาวณหทัย กล่าวว่า ปัญหาด้านโครงสร้างทางกฎหมายปัจจุบัน ไม่ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาอย่างแท้จริง เพราะการเรียนรู้และการศึกษา หากยิ่งตั้งกรอบมากขึ้นเท่าไหร่ จะยิ่งกดสมองไม่ให้พัฒนาไปมากขึ้นไปเท่านั้น ดังนั้นความยืดหยุ่น เปิดให้เด็กฝันมากขึ้น ก็จะยิ่งทำให้สมองพัฒนามากขึ้น นอกจากนี้ในฐานะผู้ประกอบการโรงเรียนเอกชน เห็นว่าการเปิดกรอบให้สถานศึกษาและครู ทำสิ่งแหวกแนวไปจากกรอบกฎหมายที่ครอบและกำหนดไว้ได้ จะนำสู่การปฏิวัติการเรียนรู้ของเด็กไทยอย่างแท้จริง

ส่วนนโยบาย One tablet per child คือความก้าวหน้า แต่เราต้องไม่หยุดพัฒนาประเทศไปให้ไกลกว่าทุกคน ดังนั้นจึงเสนอการทำระบบ Cloud data bank ขึ้นเพิ่มเติมด้วย เพื่อเป็นแพลตฟอร์มให้หน่วยงานรัฐหรือเอกชน สามารถเรียกดูประวัติผู้เรียน และเรียกระดมคนที่มีความเชี่ยวชาญตามสาขาที่ขาดแคลนนั้นเข้ามาระดมมาทำงานได้เลย ทั้งนี้การจัดการศึกษาต้องมองทั้งลูป แยกส่วนไม่ได้ และรัฐไม่จำเป็นต้องทำทั้งหมด การกระจายอำนาจให้เอกชนช่วย โดยจูงใจด้วยนโยบายภาษีที่ดีเพียงพอ หากใครทำได้รวดเร็วกว่า ก็จะมีโอกาสทางเศรษฐกิจได้มากกว่า


นายพงษ์เทพ กล่าวว่า ปัญหาคุณภาพการศึกษาในไทยคือระบบการเรียนการสอนที่ไม่สอนให้เด็กคิดวิเคราะห์ และสร้างสรรค์ด้วยตนเอง หากจะปฏิรูปต้องเริ่มจาก ปฏิรูปหลักสูตร ให้เรียนตามความจำเป็น ปรับทัศนคติครู ให้รอบรับวิธีการสอนแบบใหม่ๆ และระบบการทดสอบนักเรียน ก็ต้องปรับให้สอดคล้องกับการเรียนแบบใหม่ เน้นการคิดวิเคราะห์ให้มากขึ้นด้วยเช่นกัน

นายพงษ์เทพ กล่าวอีกว่า โลกปัจจุบันและโลกอนาคต ทรัพยากรมนุษย์คุณภาพคือความสำคัญที่สุด การทุ่มเททรัพยากร และงบประมาณเพื่อพัฒนาคนจะทำให้การศึกษาไทยสำเร็จเป็นรูปธรรม การศึกษาไทยเสียเวลากับการเมืองต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ต้องรีบสร้างทักษะคนให้พร้อม การพัฒนาคนต้องเน้นเสรีภาพการแสดงออก ยอมให้เด็กเห็นต่าง เปิดพื้นที่การมีส่วนร่วมของเยาวชน ให้สามารถอยู่กับโลกใหม่ได้อย่างแท้จริง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ผบ.ทบ. ตรวจฐานภูมะเขือ ขอบคุณกำลังพลทุ่มเทปฏิบัติงาน

23 ส.ค.- ผบ.ทบ. ตรวจเยี่ยมฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ย้ำกำลังพลปฏิบัติงานเต็มความสามารถ ตั้งอยู่บนความปลอดภัย เมื่อวันที่ 23 ส.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) พร้อม พล.ท.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสนาธิการทหารบก พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.ธีรนันท์ นันทขว้าง ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองทางทหาร เดินทางมาตรวจเยี่ยม และรับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของฐานการภูมะเขือ โดยมี พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พร้อมด้วยฝ่ายเสนาธิการกองกำลังสุรนารี, ผู้บังคับหน่วย และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ และร่วมปฏิบัติภารกิจ ผู้บัญชาการทหารบก รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ และการปฏิบัติงาน ณ ฐานปฏิบัติการภูมะเขือกลาง พร้อมทั้งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ผู้บัญชาการทหารทัพบก กล่าวขอบคุณกำลังพลทุกนายที่ทุ่มเทปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ให้ปฏิบัติภารกิจอย่างปลอดภัย จากนั้นได้เดินดูบริเวณฐานธุรการและพื้นที่ต่างๆ บนภูมะเขือ -สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์ซากสะพานลอยถล่ม ขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว

จันทบุรี 23 ส.ค.- เร่งเคลียร์ซาก! เหตุสะพานลอยคอนกรีตที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พังถล่มขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ส่งผลเช้านี้การจราจรติดขัดสะสม คาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เมื่อเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา พื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี กล้องวจรปิดร้านขายของชำบันทึกภาพวินาทีระทึก  ขณะคานสะพานพังถล่ม โดยยังมีคนงานเดินอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุหลายสิบคน โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบความเสียหายในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบรถเทรลเลอร์ 1 คัน และรถเครนของบริษัทรับเหมาเอกชนอีก 1 คัน ถูกคานสะพาน คอนกรีตที่หนักรวมกว่า 116 ตัน ถล่มลงมาทับพังเสียหาย กีดขวางการจราจรทั้งขาเข้าและขาออก เบื้องต้นกรมทางหลวงซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้รับเหมา เร่งดำเนินการใช้แยกคอนกรีตตัดคานสะพานออก เพื่อง่ายต่อการเคลียร์เส้นทาง เนื่องจากเป็นถนนสายหลัก ส่วนมูลค่าความเสียหายคาดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท สอบถามเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าสะพานลอยแห่งนี้ มีรูปแบบการก่อสร้างประกอบด้วย เสาเตาหม้อคอนกรีตเสริมเหล็กจำนวน 2 ต้น มีความกว้างของทางเดินบนสะพาน 2.4 เมตร พร้อมราวจับและหลังคายาวตลอดทางเดินราว 36 เมตร ซึ่งครอบคลุมบันไดทั้งขาขึ้นและลง […]

อัญเชิญ “พระบรมรูป ร.7” องค์ใหม่ ประดิษฐานอาคารรัฐสภา

รัฐสภา 23 ส.ค.- อัญเชิญ “พระบรมรูปรัชกาลที่ 7” องค์ใหม่ ประดิษฐานอาคารรัฐสภา ใหญ่กว่าพระองค์จริง 4 เท่า สูง 7.7 เมตร ด้าน “วันนอร์” คาดแล้วเสร็จ พ.ค.69 เตรียมหารือ สนว. จัดพระราชพิธีเปิดฯ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 นายศิโรจน์ แพทย์พันธุ์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พร้อมข้าราชการรัฐสภา ถวายราชสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าอยู่หัว องค์ใหม่ พระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ และเครื่องประกอบ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนขึ้นประดิษฐาน หน้าอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ นายวันมูหะมัดนอร์ ยังระบุว่า การก่อสร้างและอัญเชิญพระบรมรูป จะแล้วเสร็จในช่วงเดือนพฤษภาคม 2569 โดยจะมีการหารือกับสำนักพระราชวัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการจัดพระราชพิธีเปิดพระบรมรูปต่อไป ซึ่งวันนี้ต้องทำให้เกิดความสง่างาม รวมทั้งปรับภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบ พร้อมย้ำว่าการดำเนินการดังกล่าว มีการติดตามรับผิดชอบจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและสำนักงานกลาง […]

มท.2 พบทหารเขมรดักซุ่มเนิน 350 ก่อนเจอทุ่นระเบิด PMN-2

23 ส.ค.- กองทัพภาคที่ 2 อัปเดตสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พบทหารเขมร BHQ ดักซุ่มเนิน 350 ตรวจการณ์ฝ่ายไทย ก่อนเจอทุ่นระเบิด PMN-2 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 เวลา 16.00 น. ทหารฝ่ายไทยได้ตรวจพบทหารฝ่ายกัมพูชา ประมาณ 2–3 นาย คาดว่าเป็นหน่วย BHQ เนื่องจากมีการสวมหมวกทรง FAST สีดำ และได้กระทำการดักซุ่มตรวจการณ์ฝ่ายไทย บริเวณทิศตะวันตก เนิน 350 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ห่างจากแนวเส้นปฏิบัติการเข้ามาฝั่งไทยประมาณ 100 เมตร ขณะเข้าทำการตรวจสอบพื้นที่ หน่วยได้ตรวจพบ ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณจุดที่พบทหารกัมพูชาดักซุ่ม จำนวน 1 ทุ่น หน่วยจึงได้ใช้เครื่องตรวจทุ่น ตรวจสอบพื้นที่โดยละเอียด และได้ทำเครื่องหมาย เพื่อรอรับการสนับสนุนชุดตรวจค้นทุ่นระเบิดดำเนินการต่อไป จากสถานการณ์ดังกล่าวยืนยันได้ว่า ฝ่ายกัมพูชายังคงลักลอบใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในพื้นที่อธิปไตยของไทย ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและละเมิดสนธิสัญญาออตตาวาอย่างต่อเนื่อง ทหารฝ่ายไทยยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมปกป้องอธิปไตยของชาติ […]