รัฐสภา 30 ก.ย.- “จอมพล ปฏิวัติ” ร้อง กมธ.ที่ดิน สอบนักการเมืองท้องถิ่นบุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติในพังงา
นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.พรรคก้าวไกล ในฐานะ กมธ. การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (ปปช.) รับหนังสือจาก นายจอมพล รุ่งเรือง ชูเลิศ หรือจอมพล ปฏิวัติ ประธานคณะกรรมการปราบปรามโกงชาติ โดยขอให้ตรวจสอบใน 2 เรื่อง คือ 1. ขอให้ตรวจสอบกรณีนักการเมืองท้องถิ่นบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติใน จ.พังงา 2. ขอให้ตรวจสอบและดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ กรณีนักการเมืองท้องถิ่นบุกรุกป่าสงวนใน จ.พังงา และเจ้าหน้าที่ที่มีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริต
นายจอมพล กล่าวว่า เรื่องที่ร้องเรียนนั้น สืบเนื่องจาก มีการตรวจพบบ้านพักหรูบนภูเขาในเขตพื้นที่ ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ของนายบุญชัย เบญจรงคกุล และอ้างว่ามีเอกสารการครอบครองเป็น นส. 3 ก โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ แต่กลับไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินการตรวจสอบและเอาผิดหากพบว่าเป็นการครอบครองป่าโดยมิชอบ ซึ่งเป็นที่คลางแคลงใจของประชาชนทั่วไปว่า เป็นการบังคับใช้กฎหมายแบบสองมาตรฐานหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาหากเป็นประชาชนทั่วไป หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะบังคับใช้กฎหมายอย่างรวดเร็ว จึงต้องการเปิดเผยเรื่องดังกล่าวให้เป็นที่รับทราบของสังคม และขอให้คณะ กมธ. การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เพื่อให้เกิดการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายและสร้างบรรทัดให้กับสังคมต่อไป
ส่วนเรื่องขอให้ตรวจสอบและดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ กรณีนักการเมืองท้องถิ่นบุกรุกป่าสงวนใน จ.พังงา และเจ้าหน้าที่ที่มีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริตนั้น นายจอมพล กล่าวว่า สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 63 ได้มีผู้ร้องเรียนไปยังผู้อำนวยการสำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ ให้ดำเนินการตรวจสอบกรณี นายวิชัช ไตรรัตน์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกะไหล และพวก ได้ขอเครื่องจักรกลหนัก แบคโฮ รถบด ฯลฯ จาก อบจ.พังงา เพื่อปรับปรุงเส้นทางขนส่งผลผลิตทางการเกษตร แต่ข้อเท็จจริงพบว่าได้นำเครื่องจักรดังกล่าวเข้าไปบุกรุกพื้นที่ป่านสงวนในพื้นที่บ้านบางบุ หมู่ที่ 6 ต.กะไหล อ.ตะกั่วท่ง จ.พังงา เป็นเนื้อที่ 56.90 ไร่ ต่อมาหัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่า ที่ พง 2 (ท้ายเหมือง) ได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรตะกั่วทุ่งเพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือน พ.ย. 63 พนักงานสอบสวนได้งดการสอบสวน โดยให้เหตุผลว่าไม่สามารถหาตัวผู้กระทำผิดได้ จากกรณีข้างต้นนี้มีข้อสงสัยว่าหัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่า ที่ พง 2 (ท้ายเหมือง) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในพื้นที่ และหัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่า ที่ พง 1 (เมืองพังงา) มีส่วนรู้เห็นกับกลุ่มคนที่บุกรุกป่า จึงขอให้ คณะ กมธ. การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอย่างเร่งด่วน
ด้านนายธีรัจชัย กล่าวว่า จะเสนอเรื่องดังกล่าวไปยังกมธ. การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกมธ. การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ เพื่อตรวจสอบและดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่อไป.-สำนักข่าวไทย.
