ครม.เห็นชอบกรอบฟื้นเศรษฐกิจจากโควิด-19

ทำเนียบฯ 21 ก.ย.- ครม.เห็นชอบกรอบแผนงานโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ช่วยรักษาระดับการจ้างงานของผู้ประกอบการ


น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบกรอบแผนงานหรือโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ เสนอ

ทั้งนี้ กรอบแผนงานหรือโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมฯ จะเป็นแนวทางให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนงานหรือโครงการเพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ใช้จ่ายงบประมาณตามบัญชีแนบท้ายพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 (พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท) แผนงาน/โครงการที่ 3 วงเงิน 1.7 แสนล้านบาท


น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ลักษณะโครงการที่แต่ละหน่วยงานจะเสนอเข้ามามายัง สศช. เพื่อรวบรวมและเสนอต่อคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้นั้น จะต้องสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ที่สำนักนายกรัฐมนตรีกำหนด และเป็นโครงการที่สามารถดำเนินการได้ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2565 มีการยึดหลักธรรมาภิบาลของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี และรายงานการดำเนินงานที่เปิดเผยต่อสาธารณะอย่างต่อเนื่อง

สำหรับหลักการในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภายใต้ พ.ร.ก. เพิ่มเติม พ.ศ.2564 คือ เพื่อรักษาระดับการจ้างงานของผู้ประกอบการ เพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิตและบริการในสาขาที่ประเทศมีความได้เปรียบและมีศักยภาพในการพัฒนา และเพื่อกระตุ้นการบริโภค กระตุ้นการตลาด และรักษาอุปสงค์ให้กับภาคธุรกิจ

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กลุ่มเป้าหมายที่จะได้ประโยชน์จากการดำเนินแผนงานและโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม จะครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น สถานประกอบการเอสเอ็มอี ผู้ประกอบการทั่วไป แรงงานในระบบ ประชาชนทั่วไป เกษตรกร สถาบันเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน ผู้ว่างงานและวัยแรงงานที่จะเข้าสู่ตลาดแรงงาน โดยคาดว่าผู้ประกอบการจะรักษาการจ้างงานไว้ได้ 390,000 ราย เกิดการยกระดับประสิทธิภาพและมูลค่าเพิ่มในภาคการผลิต และการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงตลาดของผู้ประกอบการทั้งระดับชุมชนและเอสเอ็มอี รวมถึงสามารถพยุงระดับการบริโภคในประเทศ เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโควิด-19 อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายงบประมาณตาม พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท มีการใช้จ่ายตามบัญชีแนบท้ายใน 3 แผนงาน/โครงการ คือ 1. แผนงานที่มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ปัญหาการระบาดเชื้อโควิด-19 เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ยารักษาโรค วัคซีน วงเงิน 30,000 ล้านบาท 2. แผนงานที่มีวัตถุประสงค์ช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชย แก่ประชาชนทุกสาขาอาชีพ วงเงิน 300,000 ล้านบาท 3. แผนงานเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อโควิด-19 วงเงิน 170,000 ล้านบาท. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เครื่องบินภูเก็ตมุ่งหน้ามอสโก ขอลงจอดฉุกเฉินที่สุวรรณภูมิ

เที่ยวบิน 777-300ER สายการบิน Aeroflot ขึ้นจากภูเก็ตไปมอสโก เตรียมลงสุวรรณภูมิ หลังบินวนกลางทะเลอันดามันหลายชั่วโมง จากปัญหาระบบลงจอดขัดข้อง

ไข้หวัดใหญ่ระบาด

ไข้หวัดใหญ่ระบาดในสหรัฐ-เสียชีวิตแล้ว 13,000 ราย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี รายงานว่า พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลนี้อย่างน้อย 24 ล้านคนแล้วทั่วสหรัฐ

ตัดไฟเมียนมา

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันปลดพนักงานแล้วกว่าร้อยคน

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันออนไลน์และกลุ่มสแกมเมอร์ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ปลดพนักงานแล้วกว่า 100 คน เนื่องจากขาดแคลนกระแสไฟฟ้า ทำให้พนักงานทยอยเดินทางออกจากท่าขี้เหล็ก กลับมาทางด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่อง

ข่าวแนะนำ

เข้มทางบก แก๊งลักลอบเข้าเมือง หนีไปทางน้ำ

หลังมาตรการ Seal Stop Safe ชายแดนของรัฐบาล ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 30 มกราคม เพื่อเข้มงวด ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตามเส้นทางต่างๆ พบขบวนการลักลอบเข้าเมืองด้านชายแดนกาญจนบุรี ซึ่งฝั่งตรงข้ามคือ เมืองพญาตองซู ของเมียนมา เลี่ยงไปใช้เส้นทางน้ำแทน

ทองไทยใกล้เป้าหมายบาทละ 5 หมื่น

ทองไทยเข้าภาวะกระทิง เปลี่ยนแปลงคึกคักวันนี้ (11 ก.พ.) ปรับเปลี่ยน 27 รอบ เข้าใกล้ 48,000 บาทต่อบาททองคำ มองเป้าหมายถัดไปที่ 50,000 บาทต่อบาททองคำ ด้านสภาทองคำโลก ชี้การซื้อทองเป็นการลงทุนมากกว่าการใช้เป็นเครื่องประดับ ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นตลาดทองคำที่แข็งแกร่งในปี 67 สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก