fbpx

นักวิชาการ ชี้ นายกฯลงพื้นที่ถี่ เพราะอยากไปต่อ

รัฐสภา 20 ก.ย.- นักวิชาการ ชี้นายกฯ ลงพื้นที่ถี่ เป็นสัญญาณชี้ว่า นายกฯ อยากไปต่อ เชื่อยังไม่ยุบสภาเลือกตั้งในเร็ววันนี้ คาดเร็วสุดหลังเลือกตั้ง อบต.อย่างน้อย 6 เดือน


นายสติธร ธนานิธิโชติ ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยถึงกรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่แก้ปัญหาให้ประชาชนมากขึ้นว่า เป็นสัญญาณว่าต้องการจะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อทั้งสมัยนี้และสมัยหน้า ซึ่งความจริงแล้วการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรี ถือเป็นเรื่องปกติ แต่จะเป็นที่สังเกตว่าจะเห็นภาพนักการเมือง ทั้งส.ส. ในพื้นที่มาให้การต้อนรับ และสอดคล้องกับที่นายกรัฐมนตรีพูดไว้ว่า จากนี้ไปจะทำงานที่มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับนักการเมืองมากขึ้น โดยเฉพาะส.ส.ในพื้นที่ ดังนั้นสัญญาณจะเป็นอื่นไม่ได้ นอกจากนายกฯต้องการไปต่อ และยังต้องการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมือง ซึ่งค่อนข้างแน่นอนว่า น่าจะยังเป็นพรรคพลังประชารัฐ แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่สัญญาณว่าใกล้จะมีการเลือกตั้งในเร็ววันนี้ เพราะการลงพื้นที่ก่อนเลือกตั้งต้องทำล่วงหน้าไม่ใช่ทำแค่ 1-2 เดือน เพราะต้องสร้างภาพลักษณ์ทำงานใกล้ชิดกับนักการเมืองและเห็นผลกับประชาชนในพื้นที่ ดังนั้นเชื่อว่า ด้วยบรรยากาศและปฏิทินทางการเมือง ที่จะต้องผ่านการเลือกตั้งอบต.ในเดือนพฤศจิกายนไปก่อน จึงเชื่อว่า หากจะยุบสภา เร็วสุดก็ต้นปีหน้า โดยต้องมีเวลาเตรียมตัวสำหรับการเลือกตั้งครั้งใหม่อย่างเร็วสุด 6-8 เดือน

นายสติธร กล่าวถึง Timeline ในการจัดทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่า จะต้องใช้เวลาในการพิจารณาอย่างน้อย 4 เดือนหรือหนึ่งสมัยประชุม เพราะดูเหมือนจะง่าย แต่เชื่อว่า ไม่สามารถผ่าน 3 วาระรวดได้ เพราะเป็นพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ และมีความเห็นต่างกันอยู่ และมีแนวโน้มว่านอกจากจะแก้บทบาทที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว อาจจะไปกระทบมาตราย่อๆในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และอาจจะมีเชื่อมโยงพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองด้วย และเมื่อผ่านแล้วก็ต้องให้เวลาคณะกรรมการการเลือกตั้งไปออกระเบียบมารองรับด้วย จึงเชื่อว่าไม่เร็วไปกว่านี้


“ถ้าเอาตามกติกาใหม่ทำพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 4 เดือน มีเวลาให้กกต. เตรียมตัวอีก 2 เดือน เร็วสุดก็ 6 เดือนนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนไป ถ้าจะให้เลือกตั้งเร็วสุดก็ได้ราวเดือนพฤษภาคม ถ้าต้องเปลี่ยนกติกาใหม่แก้รัฐธรรมนูญให้เรียบร้อย แก้พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ และยังมีเงื่อนไขในการเตรียมความพร้อมของกกต.เอง เช่นการแบ่งเขตเลือกตั้งที่ต้องเปิดให้ประชาชนมา เห็นชอบด้วยอย่างน้อย 1 เดือน ซึ่งพวกนี้ต้องใช้เวลา ดังนั้น 6 เดือนถือว่าเร็วมาก นอกจากนี้ ยังต้องพิจารณาเรื่องของระบบ Primary vote ที่จะต้องตีความว่าต้องทำแนวระดับเขตเลือกตั้ง หรือทำในระดับจังหวัด ซึ่งในพรรคการเมืองก็คงต้องถกเถียงกัน” นายสติธร กล่าว

นายสติธร กล่าวด้วยว่า ในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ยังมีข้อถกเถียงเรื่องสูตรการคำนวณส.ส.ที่ยังมีการตีความแตกต่างกัน อาจจะไม่เหมือนกับการเลือกตั้งปี 2554 ทั้งหมดและมีบางคนอาจจะตีความไปไกลว่าจะใช้ระบบเยอรมัน 2 บัตร และบางคนมองว่าตามร่างแก้ไขเปิดกว้าง เปิดเป็นขั้นต่ำคล้ายๆกับร่างของพรรคพลังประชารัฐเดิมที่ตกไป และยังมีประเด็นว่า การแก้ไขหลังจากนี้จะเข้าข่ายขัดหรือแย้งกับเจตนารมณ์ รัฐธรรมนูญเดิมหรือไม่ และหากแก้ไขเสร็จแล้ว มีคนสงสัยก็สามารถยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้เช่นกัน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบรอง ผอ.โรงเรียนดัง หน.แก๊งค้ายา พบข้าราชการเป็นลูกค้าเพียบ

รวบหัวหน้าแก๊งค้ายาเป็น “รอง ผอ.” โรงเรียนดังย่านปากเกร็ด พร้อมสมุน ขยายผลพบลูกค้าเป็นข้าราชการอีกจำนวนมาก

คนไทย-คนจีนขับรถไล่ชนกันหน้าคลับดังเมืองพัทยา คาดหึงหวงสาวที่มาด้วย

รถตู้ 3 คัน และรถฟอร์จูนเนอร์ 1 คัน ขับไล่ชนกันไปมา บริเวณหน้าคลับแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา พบเป็นศึกระหว่างคนไทย 1 กลุ่ม และคนจีน 1 กลุ่ม สาเหตุคาดมาจากคนจีนหึงหวงแฟนสาวที่มาด้วย

ปัญหาต่างชาติในภูเก็ต ตอนที่ 3

ปัจจุบันการเข้ามาทำธุรกิจรถเช่าของต่างชาติที่ใช้คนไทยเป็นนอมินีในภูเก็ตมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับจำนวนอุบัติเหตุที่เกิดจากการขับขี่รถของชาวต่างชาติในภูเก็ตก็มากขึ้นด้วย ปัญหานี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่โยงใยไปถึงเรื่องของภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัยทางการท่องเที่ยว ไม่เฉพาะแค่ภูเก็ต แต่เป็นของเมืองไทยด้วย

ศาลอาญาทุจริตฯ ยกฟ้อง คุณหญิงพรทิพย์ และพวก ในคดี GT200

ศาลอาญาทุจริตฯ ยกฟ้อง “คุณหญิงพรทิพย์” และพวกรวม 10 คน ในคดีจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด GT200 ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์
ระบุไม่พบมีมูลความผิด ทุจริต มีการแสวงหาประโยชนแก่ตนเองและผู้อื่นโดยมิชอบ

ข่าวแนะนำ

การรถไฟฯ แจ้งเหตุขบวนรถธรรมดาที่ 233 (กรุงเทพ-สุรินทร์) ตกราง

28 มี.ค. – การรถไฟแห่งประเทศไทย แจ้งเหตุขบวนรถธรรมดาที่ 233 (กรุงเทพ-สุรินทร์) ตกราง ส่งผลให้ขบวนรถเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ ล่าช้า นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย แจ้งว่า วันนี้ (28 มีนาคม 2567) เวลา 17.10 น. การรถไฟฯ ได้รับแจ้งเหตุขบวนรถธรรมดาที่ 233 (กรุงเทพ – สุรินทร์) ตกรางบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 254/7-9 ระหว่างสถานีโคกกรวด – สถานีภูเขาลาด จังหวัดนครราชสีมา เนื่องจากมีต้นไม้ล้มกีดขวาง ส่งผลให้ขบวนรถในเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือเกิดความล่าช้า เบื้องต้นไม่มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บหรืออันตรายแต่อย่างใด และได้สั่งให้ฝ่ายเกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการยกรถที่ตกรางดังกล่าว เพื่อให้สามารถเปิดการเดินรถในเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือได้ตามปกติโดยเร็ว โดยคาดการณ์ว่าจะสามารถยกขบวนรถที่ตกรางให้แล้วเสร็จ พร้อมเปิดใช้งานได้ตามปกติได้ภายในคืนนี้ ทั้งนี้ จำเป็นต้องขนถ่ายผู้โดยสาร จำนวน 2 ขบวน ดังนี้ การรถไฟฯ ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ ผู้โดยสารสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทรศัพท์ […]

ออกหมายเรียก “บิ๊กโจ๊ก” รอบ 3 หากไม่มา ชงศาลออกหมายจับ

คณะพนักงานสอบสวนชุดทำคดีเว็บพนันออนไลน์ “BNK Master” ออกหมายเรียก “บิ๊กโจ๊ก” รอบ 3 กำหนดเข้าพบ 1 เม.ย.นี้ หากยังไม่มาเตรียมขอศาลออกหมายจับ

รถไฟฟ้าสายสีเหลืองแจงเหตุขัดข้อง ชิ้นส่วนตัวยึดรางร่วง

รถไฟฟ้าสายสีเหลือง แจงเหตุหยุดเดินรถและมีเศษวัสดุตกหล่น พบชิ้นส่วนตัวยึดรางร่วงหล่นลงมา ช่วงสถานีกลันตัน-สวนหลวง ร.9 มีรถยนต์ 9 คัน และจักรยานยนต์ 3 คัน ได้รับความเสียหาย ไม่มีผู้บาดเจ็บ

ให้ประกันตัว “จักรภพ” นัดพบพนักงานสอบสวน 22-23 เม.ย.

ตำรวจกองปราบฯ อนุญาตประกันตัว “จักรภพ เพ็ญแข” วางหลักทรัพย์ข้อหาละ 200,000 บาท นัดหมายพบพนักงานสอบสวน 22-23 เม.ย.นี้