กรุงเทพฯ 28 ส.ค. – “สมศักดิ์ สุวรรณสุจริต” นั่งตําแหน่งกรรมการบริหารระดับภูมิภาคเอเชียของสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศ (IOI) หนุนความร่วมมือขยายเครือข่ายเชื่อมต่อองค์กรตรวจสอบอํานาจรัฐ
นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งราชอาณาจักรไทย ได้รับเลือกเป็นกรรมการบริหารในระดับภูมิภาคเอเชีย ของสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศ (International Ombudsman Institute หรือ IOI) ด้วยคะแนนอันดับ 1 จากเสียงโหวตของสมาชิกสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศ (IOI) พร้อมปักธงเดินหน้าสนับสนุนความร่วมมือขยายเครือข่ายเชื่อมต่อองค์กรตรวจสอบภาครัฐ ชูจุดแข็งด้านความเป็นธรรม หนึ่งในมาตรฐานผู้ตรวจการแผ่นดินระดับสากล
นายสมศักดิ์ กล่าวถึงการได้รับเลือกให้ดํารงตําแหน่งกรรมการบริหารระดับภูมิภาคเอเชีย (Asian Director) ครั้งนี้ว่า นับเป็นความภาคภูมิใจที่ผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งราชอาณาจักรไทยได้รับความไว้วางใจจากนานาประเทศในภูมิภาคเอเชีย ที่ผ่านมามุ่งมั่นในการดําเนินภารกิจ สร้างความร่วมมือ ตลอดจนขยายเครือข่ายเพื่อสนับสนุนการแก้ไขความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรม และปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชน บริหารราชการแผ่นดินด้วยหลักนิติธรรม ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินไทยได้มีความร่วมมือกับนานาประเทศอย่างต่อเนื่อง อาทิ ความร่วมมือภายใต้บันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding : MOU) ว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีกับคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตและส่งเสริมสิทธิพลเมืองแห่งสาธารณรัฐเกาหลี, ผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งสาธารณรัฐอุซเบกิสถาน, สํานักตรวจสอบการบริหาร กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารแห่งประเทศญี่ปุ่น และล่าสุดเมื่อต้นปี 2564 ได้ลงนามในเอกสารบันทึกเจตนารมณ์ (MOI) ว่าด้วยการก่อตั้งเวทีผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (South East Asian Ombudsman : SEAOF) ร่วมกับผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย และผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ เพื่อแสดงจุดยืนของการปฏิบัติหน้าที่ที่ไม่ได้มุ่งหวังเพียงแค่ให้ความเป็นธรรม หรือดูแลเฉพาะประชาชนทุกคนที่พํานักในประเทศตนเองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการดูแลประชาชนของตนที่พํานักในประเทศสมาชิกอื่นอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม
โดยนับจากนี้ยังคงเดินหน้ามุ่งให้ความสําคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์ความร่วมมือระหว่างองค์กรผู้ตรวจการแผ่นดินในภูมิภาคเอเชีย ทั้งแบบทวิภาคีและพหุภาคี นํานวัตกรรมดิจิทัลมาปรับใช้ในการทํางานให้เข้ากับสภาพแวดล้อมแบบใหม่ หรือ New Normal เพื่อสื่อสารกับสาธารณะ ย้ำถึงความสําคัญของบทบาท หน้าที่ และอํานาจในการแก้ไขความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรมของประชาชน และปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชน ในฐานะกลไกตรวจสอบการใช้อํานาจรัฐที่มีประสิทธิภาพและมีอิสระอย่างแท้จริงให้เป็นที่ประจักษ์ต่อไป
สมาชิกที่มีสิทธิออกเสียง (Voting member) ได้แก่ องค์กรผู้ตรวจการแผ่นดินในภูมิภาคเอเชียที่เป็นสมาชิกของสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศ จํานวน 20 สถาบัน ด้วยการลงคะแนนเสียงผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic ballot) ในระหว่างวันที่ 16-20 สิงหาคม 2564 ต่อมาเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 สํานักงานเลขาธิการสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศ ได้ประกาศผลการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยมีสมาชิกลงคะแนน จํานวน 18 สถาบัน คิดเป็นร้อยละ 90 ของสมาชิกที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมด
ผลการนับคะแนนปรากฏว่า นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งราชอาณาจักรไทย ได้รับคะแนนเสียงสูงสุด และนายอาจัส อาลี คาน ผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐซินด์ (Sindh) สาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน มีคะแนนเป็นลําดับที่ 2 ส่งผลให้นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต และนายอาจัส อาลี คาน ได้รับเลือกให้ดํารงตําแหน่งกรรมการบริหารระดับภูมิภาคเอเชีย (IOI Asian Director) ของสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศ
ปัจจุบันกรรมการบริหารระดับภูมิภาคเอเชียของสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศ จึงมีจํานวนครบ 4 ตําแหน่ง ได้แก่ นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งราชอาณาจักรไทย นายอาจัส อาลี คาน (Mr. Ajaz Ali Khan) ผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งรัฐซินด์ สาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน น.ส.จอน ฮยอน-ฮี (Ms. Jeon Hyun-Heui) ประธานคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตและคุ้มครองสิทธิพลเมือง (Anti-Corruption and Civil Rights Commission : ACRC) สาธารณรัฐเกาหลี และนายชานาวาซ ทาริก (Justice Shahnawaz Tariq) ผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งรัฐซินด์ เพื่อการคุ้มครองสตรีจากการล่วงละเมิดในสถานที่ทํางาน (Provincial Ombudsman Sindh for the Protection against Harassment of Women at the Workplace) สาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน. – สำนักข่าวไทย