มั่นใจกมธ.มีอำนาจแก้รธน.มาตราเกี่ยวเนื่อง

รัฐสภา 23 ส.ค.-“สมชาย” ยืนยันกมธ.มีอำนาจแก้ รธน.ในมาตราที่เกี่ยวเนื่องได้ ฟันธง มีพรรคการเมืองยื่นศาลรธน.ตีความแน่นอน “วันชัย” ระบุอาจมีส.ว.งดออกเสียงทั้งวาระ 2,3


นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงข้อกังวลการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีส.ส.และส.ว.ส่วนหนึ่งกังวลว่าการแก้ไขของรัฐสภาเกินกว่าหลักการที่รับไว้ว่า ในส่วนของวุฒิสภา วิปวุฒิสภาพูดคุยและทำความเข้าใจกันแล้ว เพื่อป้องกันการทำผิดกฎหมาย โดยยอมรับว่าญัตติของพรรคประชาธิปัตย์ไม่สมบูรณ์ เพราะเสนอแก้ไขเพียง 2 มาตรา ส.ว. ในฐานะผู้กลั่นกรองกฎหมายจึงต้องทำให้กฎหมายสมบูรณ์ ซึ่งในข้อบังคับการประชุมข้อ 124 บัญญัติชัดเจนว่าถ้ามีเรื่องใดที่เกินหลักการและเกี่ยวเนื่อง สามารถทำได้ โดยต้องขออนุญาตต่อสภา

“ยืนยันว่าในกลุ่มมาตราที่เกี่ยวเนื่องสามารถแก้ไขได้ ซึ่งข้อกฎหมายระบุไว้ชัดเจน ต้องรอการพิจารณาของรัฐสภาในวาระที่ 2 ว่ารัฐสภาจะเห็นชอบตามที่กรรมาธิการปรับแก้หรือไม่ ก่อนเว้นระยะเวลา 15 วันก่อนลงมติในวาระที่ 3 เพื่อให้มีเวลาตัดสินใจ โดยจะต้องมีเสียงส.ว.เห็นชอบด้วยไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ด้วย ในทางกฎหมายสามารถทำได้และไม่น่ากังวลใด ๆ เพราะเป็นการปรับแก้ในส่วนที่เกี่ยวเนื่องกัน” นายสมชาย กล่าว


นายสมชาย กล่าวว่า ภายหลังที่ประชุมลงมติวาระ 3 จะต้องมีผู้ที่ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความแน่นอน 100% เพราะการแก้ไขระบบการเลือกตั้งเป็นผลระโยชน์พรรคการเมือง และมีผู้เสียประโยชน์ของแต่ละพรรค แต่มั่นใจว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นที่สุด ยืนยันว่ากรรมาธิการมีอำนาจแก้ไขได้ ไม่ผิดกฎหมาย รวมถึงการแก้ไขในมาตราที่เกี่ยวเนื่อง เพราะการแก้ไขของกรรมาธิการฯ ไม่ใช่การล้มล้างการปกครองหรือล้มล้างรัฐธรรมนูญ หรือเป็นประเด็นที่ต้องทำประชามติ มั่นใจจะไม่เป็นปัญหา

ส่วนจะได้ใช้ระบบการเลือกตั้งในการเลือกตั้งคราวต่อไปหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ตามข้อเท็จจริง รัฐธรรมนูญ 2560 สมบูรณ์ดี แต่เมื่อเสียงของประชาชนหรือพรรคการเมือง ไม่คุ้นชิน ก็เป็นอำนาจของรัฐสภาในการแก้ไข และรับผิดชอบ ซึ่งผลการเลือกตั้งอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงเหมือนปี 2554 ที่พรรครัฐบาล อาจกลายเป็นฝ่ายค้าน และประชาชนไม่ได้อะไรนอกจากบัตร 2 ใบ

นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อเปลี่ยนแปลงระบบการเลือกตั้งกลับไปใช้ระบบบัตร 2 ใบของสมาชิกวุฒิสภา ว่า สมาชิกวุฒิสภาได้พูดคุยเรื่องดังกล่าว ซึ่งบางกลุ่มเห็นว่าสามารถทำได้ แต่บางกลุ่มเห็นว่า ทำได้แต่ที่ทำมาเกินกว่าหลักการไปมาก เพราะในข้อเท็จจริง ร่างรัฐธรรมนูญที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอแก้ไขที่รัฐสภารับหลักการมา เสนอแก้ไขเพียงเพียง 2 มาตรา แต่เมื่อกรรมาธิการฯ แก้ไขจริงและแก้ไขในมาตราอื่น ๆ ด้วย บางฝ่ายจึงมองว่าเป็นการแก้ไขเกินกว่าหลักการข้อเสนอเกินไป


นายวันชัย กล่าวว่า เท่าที่ดูบรรยากาศ ส.ว.ส่วนใหญ่เป็นอิสระ ยังไม่มีลักษณะการชี้นำการลงมติ ประกอบกับยังอยู่ในการพิจารณาวาระที่ 2 ที่ใช้เสียงข้างมากของรัฐสภาในการลงมติ ซึ่งแม้ว่าส.ว.จะออกเสียงอย่างไรก็แล้วแต่ เชื่อว่าพรรคพลังประชารัฐ พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์และพรรคอื่น ๆ จะชนะโหวตได้ แต่ตัวชี้ขาดจริง ๆ คือ การพิจารณาวาระที่ 3 ที่ใช้เสียงส.ว.อย่างน้อย 84 เสียง เมื่อถึงตอนนั้น ส.ว.อาจจะมากำหนดหรืออาจมาสรุปหลังการอภิปรายในวาระที่ 2 อีกครั้งว่าส.ว.จะมีแนวทางอย่างไร เพราะมองดูแล้ว การแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้เป็นความต้องการพรรคการเมือง เป็นเรื่องของนักการการเมือง ไม่ใช่ประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ส.ว.จึงไม่มีท่าทีเคลื่อนไหวมากเท่าใด ส่วนใหญ่ขอให้ส.ว.ตัดสินใจลงมติครั้งนี้โดยอิสระ ผิดจาก 2-3 ครั้งที่ผ่านมา ที่มีแนวทางชัดเจนว่า ส.ว.จะรับหรือไม่รับการแก้ไข

“ยังมี ส.ว.ส่วนหนึ่งกังวลว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญในระบบการเลือกตั้งครั้งนี้ จะทำให้พรรคใหญ่ชนะการเลือกตั้งแบบกินเรียบ และมีแนวโน้มเกิดเผด็จการรัฐสภาเหมือนในอดีต และยังมีแนวโน้มสำคัญว่าพรรคการเมืองบางพรรคมีสิทธิกลับมาด้วยระบบการเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ ทำให้บทเรียนนอดีตและความเชื่อมโยงกับผู้มีอำนาจในอดีต ที่อยู่ต่างประเทศ เป็นข้อวิตกกังวลของส.ว.ต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญในระบบการเลือกตั้ง เพราะบทเรียนจากอดีตที่บางกลุ่มการเมืองจากการเลือกตั้งปี 2562 ที่ผ่านมา คะแนนก็ยังเบ็ดเสร็จเด็ดขาด” นายวันชัย กล่าว

นายวันชัย เชื่อว่าเสียงของพรรคการเมืองพรรคนั้นจะยังนำอยู่ แต่ที่จะได้รับผลกระทบอย่างแรงคือพรรคก้าวไกลและพรรคภูมิใจไทย ดังนั้น อาจทำให้ระบบการถ่วงดุลในสภาเสียไป ทำให้เกิดดำเนินการแบบเบ็ดเสร็จทั้งด้านนิติบัญญัติและบริหาร เพราะการมีเสียงข้างมากเกินไปเป็นสิ่งที่น่ากลัว บ้านเมืองอาจจะไม่สงบได้ จากการตามเช็คบิล ตรวจสอบติดตามกันภายหลัง เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่เกิดขึ้น ก็พอทราบว่า จะเกิดอะไรขึ้น รวมถึงสัญญาณจากต่างประเทศก็ยังแรงขนาดนี้ ส.ว. จึงยังกังวล

นายวันชัย กล่าวว่า ขณะนี้ส.ว.ยังอยู่ในภาวะที่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะไปซ้ายหรือขวา เพราะยังรอดูสถานการณ์และบรรยากาศก่อน ขณะที่ความเห็นของส.ส.ในสภา ก็ยังแตกหลายฝ่าย เพราะเท่าที่สังเกตพรรคภูมิใจไทยไม่เอาด้วยกับการแก้ไขครั้งนี้ หรือแม้แต่ส.ว.บางกลุ่มก็ไม่เอาด้วย เพราะเป็นการแก้ไขกฎหมายที่เกินเลยเกินไป และอาจเป็นบรรทัดฐานในการแก้ไขกฎหมายสำคัญอื่น ๆ ที่อาจเลื้อยเกินหลักการไปได้ แต่มั่นใจว่า การพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ในวาระที่ 2 จะสามารถผ่านไปด้วย แม้ส.ว. จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ตาม เพราะใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา ซึ่งอาจมี ส.ว.ส่วนหนึ่งงดออกเสียงทั้งวาระที่ 2 และวาระที่ 3.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สื่อเกาะติด! นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก ถกผลประชุม JBC

บ้านพิษณุโลก 16 มิ.ย.- นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก เรียกถกหน่วยงานความมั่นคง หารือผลประชุม JBC กำหนดแนวทางแก้ปัญหาข้อพิพาทพื้นที่ชายแดน ท่ามกลางสื่อมวลชนเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด ความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เช้าวันนี้ (16 มิ.ย.) ได้แจ้งเลื่อนภารกิจการให้ นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World 2025 และคณะ Miss World เข้าคาราวะ ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 10.00 น. ไปเป็นวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย. 68) โดยนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานด้านความมั่นคง ถึงกรณีผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 หรือ The Sixth Meeting of The Cambodian-Thai Joint Commission on Demarcation for […]

‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์ 5 หมายเหตุ สะท้อนปมชายแดน

16 มิ.ย.- ‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์หมายเหตุ 5 ข้อ สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจรจา JBC พร้อมตั้งคำถาม “คุยกันดีๆ แล้วทำไมต้องฟ้องศาลโลก?” พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์หมายเหตุ 5 ประเด็น สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย ขาดความตั้งใจแก้ปัญหา

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย แก้ปัญหาลดความตึงเครียด ขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคี บนพื้นฐานเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมโต้ทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา เมื่อ 22.30 น. กระทรวงการต่างประเทศของไทย ออกแถลงการณ์ผลการประชุม JBC ทั้งที่เดิมนัดสื่อเเถลงวันนี้ (16 มิ.ย.) ระบุว่าการหารือมีความคืบหน้าสำคัญ 4 เรื่อง ซึ่งหลักๆ ทั้ง 4 เรื่องในคำเเถลงออกมาตรงกัน ซึ่งการรับรองผลการประชุม JTSC ครั้งที่ 4 สองฝ่ายเห็นตรงกันต่อตำแหน่งที่ตั้งของหลักเขตถึง 45 หลัก และเห็นชอบให้นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำภาพถ่ายทางอากาศเพื่อความรวดเร็วในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ซึ่งในการเห็นชอบให้เเก้ไขแผนแม่บทว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา จัดทำขึ้นเมื่อปี 2546 (TOR 2003) ก็นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศเช่นกัน ส่วนในข้อ 4 เห็นชอบให้มีการจัดทำข้อกำหนดทางเทคนิคการเดินสำรวจในพื้นที่ตอนที่ 6 ไทยลงรายละเอียดว่า เป็นพื้นที่จากเขาสัตตะโสม จนถึงหลักเขตแดนที่ 1 ช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมอบหมาย JTSC […]

อุตุฯ เผยไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส .-สำนักข่าวไทย