รัฐสภา 11 ส.ค.-“พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” แนะรัฐบาลใจกว้างรับฟังผู้ชุมนุม หลีกเลี่ยงความรุนแรง โอ่ถ้าเป็น “พล.อ.ประยุทธ์” ลงไปพบม็อบด้วยตัวเองแล้ว
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงเหตุการณ์ชุมนุมที่เริ่มรุนแรงและปะทะกับเจ้าหน้าตำรวจรายวัน ว่า รัฐบาลต้องการความสงบเรียบร้อยและต้องการอยู่ต่อไปโดยไม่มีปัญหา แต่บ้านเมืองของเรา ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพที่จะแสดงความคิดเห็น และเมื่อพี่น้องประชาชนออกมาแสดงความคิดเห็นรัฐบาลก็ต้องเปิดใจให้กว้าง ยอมรับฟังและนำไปปรับใช้ ไม่ใช่มองประชาชนเป็นศัตรูกับรัฐบาล
หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า วันนี้สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำคือพยายามให้เจ้าหน้าที่บังคับใช้หรือยัดเยียดกฎหมายกับกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งรวมไปถึงใช้มาตรา 116 และ 112 ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองบางส่วน ไม่ยอมให้ลูกออกมาชุมนุม ขณะนี้ม็อบเด็กจึงห่างหายไปบ้างแล้ว มีทางเดียวที่จะเอาชนะอำนาจรัฐได้ คือการใช้กฎหมายกลับไปเช่นกัน ซึ่งตนเคยเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนนำใบเสร็จที่ต้องรับผิดชอบต่อการระบาดของ covid 19 ไปแจ้งความดำเนินคดีกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้ว
“ขอเรียนตามตรง ด้วยประสบการณ์ในชีวิต คุณสู้อำนาจรัฐไม่ได้หรอก คุณมาเท่าไหร่เขาก็ใช้ภาษีของคุณมาเล่นงานคุณ ใช้คนของรัฐที่กินเงินเดือน กินภาษีของพวกเรา มาเล่นงานพวกเรากันเอง โดยอาศัยกฎหมาย ความจริงรัฐบาลต้องใจกว้าง รับฟังความคิดเห็นของประชาชน มาก็มาสิถ้าผมเป็นคุณประยุทธ์ ผมจะออกมาพบเลย ว่าไงพี่น้อง เดือดเนื้อร้อนใจยังไง ต้องการอะไร วัคซีนมันไม่พอเหรอมันมาช้าหรอ เดี๋ยวผมจะรับไปดำเนินการ เดี๋ยวงบทั้งหมดผมไม่เอาเลย เดี๋ยวจะตัดให้หมด งบซื้อรถถังยุทโธปกรณ์ จะมาช่วยพวกท่านหมดก็พูดกันไปก็หมดเรื่อง แต่ก็ไม่ยอมออกมาพูด แล้วก็ยังดันทุรังตั้งงบว่าแบบนี้ไปอีก ซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จะซื้อมันไปทำไม” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงการควบคุมการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ว่า วันนี้ทั้งสองฝ่ายไม่ค่อยยึดกฎหมาย ขอให้เจ้าหน้าที่อย่ามองประชาชนเป็นศัตรู ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ก็ยินดีที่จะรับตรวจสอบให้ แต่ยังไม่สามารถประเมินการทำงานของตำรวจได้ หากยังไม่ได้ตรวจสอบ.-สำนักข่าวไทย