กรุงเทพฯ 10 ส.ค.-“แรมโบ้”ซัดเพื่อไทย เล่นการเมืองแบบหิวแสง กิเลสหนา อยากได้อำนาจรัฐมากไป ยืนยันนายกฯ ไม่เคยคิดปิดปากสื่อ ตอนนี้ทุกอย่างหยุดชั่วคราวตามคำสั่งศาลแล้ว
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านที่นำโดยนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้านและคณะยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ให้ไต่สวนข้อเท็จจริงและดำเนินคดีกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญกรณีออกประกาศฉบับที่ 29 โดยระบุว่าเป็นการปิดปากสื่อ ว่า ขอยืนยันว่านายกรัฐมนตรีไม่เคยคิดจะลิดรอนหรือปิดปากสื่อตามที่ฝ่ายค้านกล่าวหา เรื่องนี้ศาลแพ่งเพิ่งจะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา ห้ามนายกรัฐมนตรีบังคับใช้ข้อกำหนดข้อ 29 พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ถูกมองว่าเป็นการปิดปากสื่อแล้ว จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น
นายเสกสกล กล่าวว่า ฝ่ายค้านเองก็คงจะเข้าใจดีว่า นายกฯ และรัฐบาลไม่ได้มีเจตนาจะควบคุมหรือปิดปากสื่อ แต่เนื่องจากปัจจุบันมีสื่อโซเชียลจำนวนมากที่ไม่สามารถควบคุมได้ ใครนึกอยากจะเขียนอะไร โพสต์อะไรก็สามารถดำเนินการได้ตามแต่ใจต้องการ จนเกิดข่าวปลอม เฟกนิวส์จำนวนมาก และสร้างความสับสนแก่ประชาชนและเกิดความเสียหายต่อประเทศโดยรวมอย่างมาก และเรื่องนี้อาจารย์วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ บอกแล้วว่าเมื่อศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราวก็ต้องคุ้มครองชั่วคราว ไม่สามารถใช้ข้อบังคับดังกล่าวนี้ได้ ตอนนี้ทุกอย่างก็ต้องหยุดชั่วคราว ต้องรอต่อไปว่าขั้นสุดท้ายปลายทางถึงที่สุดแล้วศาลจะสั่งอย่างไร ซึ่งรัฐเองพร้อมปฏิบัติตามอยู่แล้ว
“สิ่งที่แปลกใจคือการกระทำของฝ่ายค้าน ทำเพื่ออะไร รู้ทั้งรู้ว่าตอนนี้ทุกอย่างหยุดแล้วตามคำสั่งของศาลแพ่ง คำสั่งใด ๆ ตามมาตรา 29 ก็ยังไม่มีออกมาเลย แล้วจะมายื่นป.ป.ช.เพื่ออะไร หรือเพื่อให้ได้เกาะกระแสให้มีข่าว ให้ประชาชนรู้ว่าฝ่ายค้านยังมีตัวตนอยู่ อย่างนี้ใช่หรือไม่ เป็นผู้ใหญ่กันทุกคนทำอะไรก็หัดดูตาม้า ตาเรือ ซะบ้างเดี๋ยวจะเสียผู้ใหญ่เอาตอนแก่ ผมคิดว่าถ้าฝ่ายค้านอยากจะดังหรืออยากให้มีข่าวในหน้าสื่อหลัก ก็ควรหาทำประโยชน์ ไปช่วยประชาชนที่กำลังเดือดร้อนจากโควิดจะมีประโยชน์อย่างมาก
“เอาง่าย ๆ แค่ซื้อข้าวปลา อาหารไปแจกจ่ายผู้ที่กักตัวอยู่ตามศูนย์ อาจเป็นในพื้นที่ของสมาชิกพรรคเพื่อไทยก็ได้ เอาให้เขาได้เห็นหน้าเห็นตาหน่อย ตอนเลือกตั้งจะได้ไม่ลำบาก อย่าให้เขาคิดว่าส.ส.ที่เป็นตัวแทนประชาชนเข้าหาประชาชนเฉพาะตอนหาเสียงเลือกตั้งเท่านั้น อายเขาบ้าง ผมเตือนหลายครั้ง พรรคเพื่อไทยยิ่งหิวแสง แสดงอาการอยากเป็นรัฐบาล มีอำนาจรัฐมากเกินไป เล่นการเมืองเกินกติกาในภาวะวิกฤติเช่นนี้ ยิ่งทำลายชื่อเสียงพรรคให้ตกต่ำหนักยิ่งขึ้น เล่นการเมืองแบบมีกิเลสหนามากไป พรรคไปไม่รอดแน่ ผมเตือนด้วยความหวังดี จนขี้เกียจเตือนแล้ว” นายเสกสกล กล่าว.-สำนักข่าวไทย