ทำเนียบรัฐบาล 9 ส.ค.- ศบค.เผย เสียชีวิตโควิดวันนี้ 149 คน ใส่เครื่องช่วยหายใจ 1,084 ราย และพบอีก 7 คลัสเตอร์ใหม่
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด 19 วันนี้ เพิ่มขึ้น 19,603 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 776,108 ราย หายป่วยเพิ่ม 19,819 ราย รวมหายป่วยแล้ว 555,334 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 214,421 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 5,218 ราย, ใส่เครื่องช่วยหายใจ 1,084 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 149 คน ผู้เสียชีวิตสะสมรวม 6,353 คน ผู้ป่วยยืนยันสะสมระลอกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 – 9 สิงหาคม 2564 จำนวน 747,245 ราย โดยผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น 19,603 ราย เป็นผู้ที่ติดเชื้อในประเทศ 19,278 ราย จากระบบเฝ้าระวังและบริการ 16,119 ราย, จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 3,159 ราย, จากเรือนจำ 313 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 12 ราย ส่วนผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรกสะสม 15,986,354 ราย, ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 แล้ว 4,461,861 ราย, ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 แล้ว 221,565 ราย
ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ร้อยละ 65 เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ เกิน 60 ปี เป็นผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรัง ร้อยละ 19 โดยผู้ที่เสียชีวิตวันนี้ทั้ง 149 คน ชาย 84 คน หญิง 65 คน อายุระหว่าง 4 เดือน – 103 ปี เป็นชาวไทย 140 คน, เมียนมา 6 คน, กัมพูชา, นอร์เวย์, สหรัฐอเมริกา ประเทศละ 1 คน ผู้ที่เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ใน กทม. 54 คน โรคประจำตัวที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคหัวใจ โรคปอด โรคอ้วน ปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ มาจากบุคคลในครอบครัว เพื่อนร่วมงาน เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง
สำหรับการดูแลผู้สูงอายุ ควรจะเป็นผู้ที่อยู่บ้านมากที่สุด เพียงคนเดียว และไม่ได้ไปในที่ชุมชน โดยการดูแลจะต้องสวมหน้ากากอนามัยได้ถุงมือ รวมทั้งต้องสังเกตอาการผู้สูงอายุ วัดอุณหภูมิเป็นประจำ โดยเฉพาะผู้ป่วยติดเตียง และแยกผู้สูงอายุห่างจากคนในบ้านไม่ต่ำกว่า 2 เมตร โดยอาจใช้ video Call เพื่อให้ผู้สูงอายุไม่รู้สึกโดดเดี่ยว
ทั้งนี้ มีรายงานการพบคลัสเตอร์ใหม่ 7 แห่ง ได้แก่ บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้า ปทุมธานี 9 ราย บริษัทโลหะแผ่น หนองแค สระบุรี 28 ราย บริษัทชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ฉะเชิงเทรา 12 ราย โรงงานแปรรูปไก่ ราชบุรี 46 ราย ตลาดโบวลิง จันทบุรี 16 ราย โรงงานอุตสาหกรรมอาหาร กาญจนบุรี 31 ราย และ โรงงานน้ำแข็ง ที่ละแม ชุมพร 30 ราย
สำหรับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อทั่วโลกอยู่ที่ 203 ล้านราย เสียชีวิตสะสมทั่วโลก 4.3 ล้านคน สหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 36.5 ล้านราย, ตามด้วย อินเดีย 31.9 ล้านราย, บราซิล 20.1 ล้านราย, รัสเซีย 6.44 ล้านราย, ฝรั่งเศส 6.3 ล้านราย และประเทศไทย อยู่ลำดับที่ 37.-สำนักข่าวไทย