รัฐสภา 9 ส.ค.- สภาฯแจงไม่ได้ละเลย ต่อการออกร่างกฎหมายคุ้มครองศาสนา หลังพระครูแจ้งความเอาผิดฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ชี้มีร่างที่หลักการและเหตุผลสอดคล้องกันเสนออยู่แล้ว
นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฏร ชี้แจงกรณีที่พระครูอมรธรรมทัต เจ้าอาวาสวัดพันอ้น ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ให้ดำเนินคดีกับ นายชวน หลีกภัย ประธานสภารัฐสภา รวมถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาทุกคน ในความผิดฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เนื่องจากไม่มีการออกกฎหมายคุ้มครองพุทธศาสนาตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 67 ได้บัญญัติไว้ เนื่องจากเมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 ได้เข้ายื่นหนังสือพร้อมร่างพระราชบัญญัติอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา พ.ศ. … ผ่านนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง แต่เวลาผ่านมา 1 ปี ไม่มีการนำร่างกฎหมายเข้าพิจารณา
โดย นพ.สุกิจ ชี้แจงว่า เป็นสิทธิที่จะดำเนินคดี และเข้าใจถึงเจตนาดีของเจ้าอาวาสในการคุ้มครองพระพุทธศาสนา แต่เป็นการเข้าใจผิดถึงอำนาจหน้าที่ของรัฐสภา เนื่องจาก ประธานและสมาชิกต้องวางตัวเป็นกลางในการทำหน้าที่ กำกับดูแลกิจการของสภาฯ ดังนั้นการเสนอร่างพ.ร.บ.เป็นดุลยพินิจฝ่ายบริหาร ที่ผ่านมาไม่มีกฎมายที่ประธานสภาฯ หรือ ส.ว.เสนอเอง และไม่มีมาก่อน ทั้งนี้ หลังนายศุภชัยรับเรื่องก็ได้ส่งเรื่องให้คณะกรรมาธิการการศาสนาศิลปวัฒนธรรม ดำเนินการพิจารณาตั้งแต่ 3 ส.ค. 2563 และติดตามเป็นระยะ จนถึง 16 ก.ค.2564 ประธานกรรมาธิการการศาสนาฯ มีหนังสือแจ้งกลับมาที่นายศุภชัย ว่าร่างที่เสนอมีหลักการและเหตุผลสอดคล้องกับร่างพ.ร.บ. ส่งเสริมพระพุทธศาสนา ส่งเสริมพุทธศาสนิกชนในการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาที่กรรมาธิการฯ ยกร่างเสร็จส่งให้สำนักนายกรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป และได้ทำหนังสือแจ้งพระครูเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ย้ำสภาฯดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ไม่ได้ละเลยต่อร่างที่เสนอมา และประธานสภาฯ ทุกสมัยไม่เคยเสนอกฎหมายด้วยตัวเอง.-สำนักข่าวไทย