เตรียมปรับระดับการดูแลผู้ป่วยโควิด

ทำเนียบรัฐบาล 23 ก.ค.-กทม.เตรียมชี้แจงภาพรวม Rapid Test ขอให้เข้าสู่ระบบตรวจเพื่อเข้าระบบการรักษาได้เร็ว พบการแยกตัวรักษาที่บ้านได้ผลดี เบิกค่าใช้จ่ายได้ปกติ ย้ำต้องพักปอด อย่าออกนอกบ้านตามคำชักชวน อาจไม่ปลอดภัย เตรียมประชุมปรับระดับการดูแลผู้ป่วย


พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า การประชุม ศบค.ชุดเล็ก ได้หารือเรื่องการดูแลผู้ติดเชื้อใน กทม. ซึ่งมีผู้ติดเชื้อ 3,104 ราย ยังไม่รวมการตรวจด้วยวิธี Rapid Test ที่มีผลบวกอีกกว่า 2,000 ราย โดยใน 1-2 วันนี้ กทม.จะรวบรวมตัวเลขการตรวจทั้งหมดรายงานให้เห็นภาพรวม และจะชี้แจงให้ประชาชนทราบว่า แต่ละเขตสามารถไปตรวจหาเชื้อได้ที่ไหนบ้าง

“จากข้อมูลพบว่า การตรวจเชิงรุกในพื้นที่ กทม. 100 ราย จะพบผู้ติดเชื้อ 11% และถ้ามีประวัติเป็นผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อ จะมีผลยืนยันตามมาทีหลัง 15% หรือถ้าเป็นผู้มีอาการจากระบบทางเดินหายใจจะกลายเป็นผู้ติดเชื้อได้ถึง 25% ดังนั้น ขอให้ทุกคนสำรวจตัวเองและพยายามเข้าสู่ระบบการตรวจ เพื่อจะได้เข้าสู่กระบวนการรักษาโดยเร็วที่สุด” ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าว


พญ.อภิสมัย กล่าวถึงการรับผู้ป่วยเข้าสู่ระบบการรักษาว่า รองอธิบดีกรมการแพทย์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีผู้ป่วยรอเตียงเพิ่ม 868 ราย ซึ่งที่ผ่านมา กทม.ปิดเคสผู้ป่วยรอเตียงได้ทั้งสิ้น 121,457 ราย แต่ยังมีประชาชนที่ไม่เข้าสู่ระบบ ซึ่งกระบวนการทำงานกำลังเร่งอย่างที่สุด ผู้อยู่ระหว่างรอการจัดสรรเตียงจะได้รับการจัดสรรโดยเร็ว โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยสีแดงถึง 40 ราย จะเร่งนำเข้าระบบโดยเร็วที่สุด และใน 1-2 วันนี้จะมีข้อมูลชัดเจนว่า ผู้ป่วยระดับสีใดอยู่ในพื้นที่ใดใน 50 เขตของ กทม.

“ปริมาณผู้ป่วยใน กทม. พบว่า 70-80% เป็นผู้ป่วยสีเขียวอ่อนและเขียวเข้ม เมื่อได้รับการยืนยันเป็นผู้ติดเชื้อ หากอาการอยู่ในระดับสีเขียว อาจจะไม่ได้เข้าโรงพยาบาล ไม่จำเป็นต้องหาเตียง เพราะแนวทางปฏิบัติในปัจจุบันเน้นให้ดูแลตัวเองที่บ้าน จึงต้องประเมินตัวเองว่ามีอาการอยู่ในระดับไหน ระดับสีเขียว คือ ผู้ที่ยังมีอาการแข็งแรง ติดเชื้อ อายุน้อย จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ถ่ายเหลว แต่ไม่มีอาการระบบทางเดินหายใจ ทั้งนี้ จากการศึกษาโฮมไอโซเลชั่นที่หลายหน่วยงานดำเนินการมาแล้ว 2 สัปดาห์ พบว่าการแยกกักตัวที่บ้านได้ผลดี” ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าว

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า กรมการแพทย์ รายงานว่า หากตรวจแล้วได้รับการยืนยันว่าเป็นผู้ติดเชื้อ สามารถขอเข้าโฮมไอโซเลชั่นได้ที่โรงพยาบาลที่ไปตรวจ เพราะโรงพยาบาลที่รับตรวจหลายโรงพยาบาลเริ่มระบบนี้แล้ว แต่ถ้าตรวจที่แล็บเอกชน หรือเอ็นจีโอที่รับตรวจ แต่ไม่มีโรงพยาบาลรองรับ สามารถติดต่อได้ที่หมายเลข 1330 กด 14 ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งจะเพิ่มคู่สายจาก 100 คู่สาย เป็น 200 คู่สาย รวมทั้งสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะจัดหมายเลขของสำนักงานเขตใน กทม.ทั้ง 50 เขต อำนวยความสะดวกให้ประชาชน


“เมื่อเข้าระบบนี้แล้วจะมีคลินิกอบอุ่น 161 แห่ง กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) 69 ศูนย์ และโรงพยาบาลหลักที่จะดูแลให้เข้าระบบโฮมไอโซเลชั่น โดยจะได้รับกล่องรอดตายของ กทม. ที่มีเครื่องวัดอุณหภูมิ อุปกรณ์ต่างๆ ให้ความช่วยเหลือ ส่วนการเบิกจ่าย สปสช.เน้นย้ำว่า แม้รักษาตัวที่บ้าน แต่สามารถเบิกจ่ายได้ตามปกติ รวมทั้งค่าเอกซเรย์ ค่ารถหากต้องส่งต่อไปโรงพยาบาล ค่าอาหาร 3 มื้อ ขณะนี้ระบบอาจยังไม่สมบูรณ์ แต่มีข้อมูลมากพอสมควรที่จะให้ผู้ติดเชื้อใน กทม. เข้าถึงการดูแลโดยเร็วที่สุด และจะมีการจ่ายยาให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะยาฟาวิพิราเวียร์ และหากใครมีประกันสังคม สามารถติดต่อไปที่ 1506 กด 6 ได้ด้วย” ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าว

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า กรณีที่มีข้อจำกัด เช่น ในครอบครัวมีกันอยู่หลายคน ทั้งเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ สภาพบ้านไม่พร้อมให้แยกกักที่บ้าน คอมมูนิตี้ไอโซเลชั่น หรือการแยกกักในชุมชน หรือศูนย์พักคอย เป็นคำตอบที่ช่วยได้ ซึ่งขณะนี้มีคนเข้าระบบแล้ว 1,682 คน ใน กทม.เปิดแล้ว 22 เขต กำลังจะเปิดอีก 14 เขต และอีก 14 เขต กำลังเตรียมสถานที่ ซึ่งจะมีสภากาชาดไทย ภาคประชาสังคม เอ็นจีโอ เข้ามาช่วยกัน

“ต้องขอขอบคุณทุกฝ่าย เพราะศูนย์พักคอยจะเปิดรับประชาชนที่ติดเชื้อ มีอาการระดับสีเขียว ไม่สะดวกที่จะกักตัวอยู่ที่บ้าน สามารถเข้าไปรับการดูแล โดยที่จะมีโรงพยาบาล 25 แห่ง เป็นเหมือนพี่เลี้ยงคอยดูแล ขอให้มั่นใจเรื่องความปลอดภัย โดย 25 โรงพยาบาล เป็นโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร 11 แห่ง สังกัดกรมการแพทย์ 3 แห่ง โรงเรียนแพทย์ 4 แห่ง โรงพยาบาลเอกชน 7 แห่ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า การระดมความช่วยเหลือทั้งเรื่องสถานที่ การจัดการ บุคลากร มีความพยายามอย่างสูงสุดที่จะรองรับประชาชนที่ติดเชื้อ รวมทั้งโรงพยาบาลสนาม โรงพยาบาลที่จะรองรับผู้ป่วยระดับสีเหลือง สีแดง ขอเน้นย้ำประชาชนให้ติดตามข้อมูลข่าวสารและดูจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ต้องขอบคุณสื่อมวลชนจำนวนมากที่พยายามสรุปข้อมูลอย่างละเอียด เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ติดเชื้อว่าจะสามารถเข้าสู่ระบบได้อย่างไร ศบค.จะพัฒนาและนำข้อมูลมาสรุปให้อย่างทันกาลที่สุด” ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าว

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาจะมีข่าวการเชิญชวนให้ผู้ติดเชื้อออกจากบ้านไปรวมตัวกันที่ใดที่หนึ่ง ขอเน้นย้ำว่า ผู้ติดเชื้อมีความเสี่ยงที่อาการอาจทรุดลงได้ จึงขอให้อยู่บ้านและติดต่อหมายเลขที่ระบุไว้ให้ ซึ่ง ศบค.จะพัฒนาระบบให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ กรมการแพทย์ ย้ำว่าผู้ป่วยจำเป็นต้องพักปอด พักสุขภาพร่างกาย หากออกมานอกบ้านอาจจะมีความไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะถ้าเป็นผู้มีโรคประจำตัว หรือน้ำหนักเกิน ที่สำคัญมีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไปยังชุมชน หรือบุคคลที่ได้ไปสัมผัสและพูดคุยด้วย

“ศบค.ยินดีรับฟังรายงานข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ การจัดการที่ไหนยังมีข้อบกพร่อง เรายินดีน้อมรับข้อเสนอแนะเหล่านั้น และขอให้ทุกคนร่วมมือกัน เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงระบบการรักษาดูแลที่ปลอดภัยให้เร็วที่สุด” ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าว

เมื่อถามว่า ขณะนี้ขยายโรงพยาบาลสนามมากขึ้น แต่บุคลากรทางการแพทย์ทำงานอย่างหนักถึงขั้นขาดแคลนแล้ว ศบค.จะบริหารจัดการอย่างไร พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ภายใน 1-2 วันนี้ จะสรุปเรื่องโรงพยาบาลสนาม โรงพยาบาลที่สามารถดูแลผู้ป่วยระดับสีเหลือง สีแดง โรงพยาบาลบุษราคัม ซึ่งเดิมเป็นสีเหลือง ขณะนี้ปรับเพื่อรับผู้ป่วยสีแดงเพิ่ม โรงพยาบาลสนามเดิมเป็นผู้ป่วยสีเขียว ขณะนี้มีอุปกรณ์ บุคลากรสามารถจะพัฒนาขึ้น ยกระดับเป็นโรงพยาบาลสนามสีเหลืองได้

“ส่วนในแง่ของบุคลากรกระทรวงสาธารณสุข ที่ผ่านมาได้ขอความร่วมมือบุคลากรจากต่างจังหวัดโยกมาช่วยในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล แต่ขณะนี้หลายจังหวัดสถานการณ์หนักขึ้น หลายพื้นที่ในต่างจังหวัด ระบบเตียงเพิ่มสูงขึ้นถึง 70% แล้ว โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดังนั้น บุคลากรจึงต้องโยกกลับไปดูแลสถานการณ์ในพื้นที่ ซึ่งวันนี้ กรมการแพทย์ กรุงเทพมหานคร กระทรวงสาธารณสุข สภากาชาดไทย และภาคประชาสังคมต่างๆ จะประชุมหารือกันเวลา 15.00 น. เรื่องโฮมไอโซเรชั่น คอมมูนิตี้ไอโซเรชั่น รวมทั้งเตียงในระดับเหลือง-แดง ว่าจะปรับอย่างไรบ้าง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

“เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เริ่มเปิดจอง 1 ก.ค. เที่ยวจริง 4 ก.ค.

ทำเนียบ 30 มิ.ย.- เชิญชวนคนไทยใช้สิทธิ์ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เริ่มเปิดจอง 1 ก.ค. เที่ยวจริง 4 ก.ค. รัฐสนับสนุนสูงสุด 3,000/คืน นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เดินหน้าโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและสนับสนุนผู้ประกอบการไทย ล่าสุด มีผู้ประกอบการท่องเที่ยวยื่นคำขอลงทะเบียนผ่านระบบ https://partner.tat.or.th แล้วกว่า 34,005 ราย และมีผู้ผ่านการตรวจสอบและลงทะเบียนสำเร็จแล้วถึง 6,400 ราย ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติอย่างเข้มงวด เพื่อให้โครงการเกิดประโยชน์สูงสุดและป้องกันการสวมสิทธิ์ ขั้นตอนสำคัญของการลงทะเบียน ผู้ประกอบการต้องกรอกหนังสือยินยอมให้ธนาคารกรุงไทยตรวจสอบข้อมูล เพื่อป้องกันการหลอกลวงและการแฝงตัวของสถานประกอบการที่ไม่มีคุณสมบัติครบถ้วน โดยธนาคารจะใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 3 วัน ก่อนส่งข้อมูลให้ ททท. นำไปเผยแพร่บนเว็บไซต์ในวันที่ 30 มิถุนายน 2568 จากนั้นประชาชนจะสามารถจองสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 และเริ่มเดินทางท่องเที่ยวจริงได้ในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้ สำหรับสิทธิประโยชน์ของโครงการ รัฐบาลจัดสรรสิทธิ์รวม 500,000 […]

นายกฯ เผยผู้นำฝรั่งเศสพร้อมหนุนไทยหาทางออกปมชายแดน

30 มิ.ย.- นายกฯ เผยผลสายตรง “มาครง” แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น สานต่อความร่วมมือทุกมิติ ยกระดับความสัมพันธ์สู่หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ย้ำยึดกลไกทวิภาคีหาทางออกปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งผู้นำฝรั่งเศสเข้าใจในท่าทีและพร้อมให้การสนับสนุน ยืนยันไทยมุ่งมั่นแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมเชิญประธานาธิบดีฝรั่งเศส เยือนไทยอย่างเป็นทางการ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความเผยผลการหารือทางโทรศัพท์กับนายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศสระบุ “ดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้หารือทางโทรศัพท์กับท่านเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศส เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นถึงการสานต่อและกระชับความร่วมมือทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านเทคโนโลยีอวกาศ กลาโหม และพลังงานสะอาด เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ของไทย-ฝรั่งเศสไปสู่ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ที่ต่างยึดมั่นในคุณค่าร่วมกันในการส่งเสริมการค้าเสรีระหว่างประเทศและระเบียบโลกที่ตั้งอยู่บนกติการะหว่างประเทศ ดิฉันได้เน้นย้ำบทบาทเชิงรุกของไทยในการส่งเสริมความเป็นแกนกลางของอาเซียน รวมถึงความมุ่งมั่นของไทยในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหลอกลวงทางออนไลน์ ซึ่งเป็นภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงได้ย้ำความมุ่งมั่นของไทยที่จะหารือกับฝ่ายกัมพูชาเพื่อหาทางออกของปัญหาชายแดนด้วยสันติวิธีผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ ซึ่งประธานาธิบดีมาครงแสดงความเข้าใจในท่าทีดังกล่าวของไทยและพร้อมให้การสนับสนุน ดิฉันยังได้ขอบคุณฝรั่งเศสที่สนับสนุนไทยในการเจรจาความตกลงการค้าเสรีไทย-สหภาพยุโรป และการสมัครเข้าเป็นสมาชิก OECD ของไทย ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ระยะยาวแก่ทั้งสองฝ่าย และดิฉันได้ใช้โอกาสนี้เชิญประธานาธิบดีมาครงเยือนไทยอย่างเป็นทางการในช่วงเวลาที่สองฝ่ายเห็นว่าเหมาะสม โดยประธานาธิบดีมาครงก็ได้เชิญดิฉันเยือนฝรั่งเศสเช่นกันค่ะ ” .-สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือนทั่วไทยฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 30 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานตอนบน ภาคกลาง ภาคตะวันออก ฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ด้านตะวันตกของภาคกลาง และภาคตะวันออก ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 […]

ตชด.ลาดตระเวนเข้ม 24 ชม. แนวชายแดนไทย-กัมพูชา

สระแก้ว 29 มิ.ย. – ชุดควบคุมตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 ลาดตระเวน ตั้งบังเกอร์ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.โคกสูง เฝ้าระวังพื้นที่ตลอด 24 ชม. หลังมีรายงานกลุ่มชาวกัมพูชาลักลอบเข้ามาใช้พื้นที่ปลูกพืช-สร้างสิ่งปลูกสร้าง ละเมิดข้อตกลง MOU 43 วันนี้ ชุดควบคุมตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 (ตชด.12) จัดกำลังลาดตระเวนแนวชายแดนในพื้นที่เปราะบาง 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโคกสูง และอำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังจากมีกรณีข้อพิพาท ระหว่างไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในจุดที่ยังเป็นพื้นที่ข้อพิพาทจากแนวเขตตาม MOU ปี 2543 ซึ่งห้ามทั้งสองประเทศสร้างสิ่งปลูกสร้างถาวรใดๆ ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ตชด.12 ในการตรวจจุดแนวชายแดน โดยเริ่มจากแนวตะเข็บรอยต่อบริเวณอำเภอโคกสูง ซึ่งติดกับ จ.บันเตียเมียนเจย ของกัมพูชา ลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นแนวเขตพื้นที่ที่เรียกว่าดินต่อดิน ซึ่งเป็นแนวกั้นธรรมชาติอย่างชัดเจน ซึ่งจะแตกต่างจากแนวชายแดน อำเภออรัญประเทศ ที่มีคลองธรรมชาติ ซึ่งแนวคลองลึกและจะมีแนวลวดหนามกั้นชัดเจนตลอดทั้งเส้นทาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ เผยว่า บริเวณ อ.โคกสูง มีรายงานว่ากลุ่มชาวกัมพูชา ลักลอบเข้ามาใช้พื้นที่ปลูกพืชหรือสร้างสิ่งปลูกสร้างเล็กๆ ซึ่งละเมิดข้อตกลง […]