จี้รัฐใช้ฟ้าทะลายโจรเป็นยาหลักรักษาผู้ป่วยโควิด

กรุงเทพฯ 22 ก.ค.-พรรคกล้าเสนอรัฐให้โอกาส “ฟ้าทะลายโจร” สมุนไพรพื้นบ้านช่วยชีวิตคนไทยหายจากโควิด จี้เร่งวิจัยต่อยอดตามมาตรฐานสากล ดันส่งขายทั่วโลก เชื่อกู้วิกฤตเศรษฐกิจประเทศได้


นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรคกล้า อดีตประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึงวันละกว่า 10,000 คน นอกจากจะมีเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลจัดหาวัคซีนคุณภาพมาฉีดให้กับประชาชนฟรีแล้ว อีกหนึ่งความหวังที่จะรอดพ้นจากไวรัสร้าย คือ ฟ้าทะลายโจร ที่มีผลวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหิดล ว่า สามารถสกัดเชื้อไวรัสไม่ให้ลงปอด หากสามารถกินในระยะเริ่มต้น ส่งผลให้ปริมาณความต้องการสูง จนผลิตไม่ทัน จึงเป็นช่องว่าง ให้ผู้ค้าบางรายฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าเกินราคา บางกรณีหลอกให้โอนเงินมัดจำแล้วเงียบหาย ที่น่ากังวลคือ เริ่มมีฟ้าทะลายโจรที่ไม่ได้มาตรฐานมาสวมรอยจำหน่ายในช่องทางออนไลน์ และวางขายทั่วไปตามท้องตลาดอีกด้วย

“จากปัญหาดังกล่าว รัฐบาลต้องมีมาตรการควบคุม เพื่อไม่ให้มิจฉาชีพที่อาศัยช่วงวิกฤติสวมรอยทำธุรกิจขายยาคุณภาพต่ำ เพื่อปั๊มเงินออกมาขายเร็ว ๆ แบบไม่คำนึงถึงคุณภาพ กระทรวงพาณิชย์อยู่ไหน ทำไมไม่จัดระเบียบ กำหนดมาตรฐาน และต้องใช้ไม้แข็งว่า หากใครซ้ำเติมภาวะวิกฤตด้วยการขายยาปลอมไม่ได้มาตรฐาน และยังกักตุนสินค้าเพื่อโก่งราคาเอาเปรียบผู้บริโภคในช่วงสถานการณ์ยากลำบาก จะต้องได้รับโทษอย่างหนัก กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานอาหารและยา (อย.) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สมาคมร้านขายยา และพลังของสังคมอีกหลายปาร์ตี้ ที่มีความพร้อม ดึงเขาเข้ามา ระดมสมองช่วยกัน จัดระบบการกระจายยาที่ดี เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงยาที่มีคุณภาพ” นายวรวุฒิ กล่าว


นายวรวุฒิ กล่าวว่า วันนี้ฟ้าทะลายโจร กลายเป็นความหวังของชาติ ดังนั้นรัฐบาลต้องมีความชัดเจนว่าจะใช้ฟ้าทะลายโจรเป็นยาหลักหรือไม่ เบื้องต้นกันเชื้อลงปอด ถ้าชัดเจนว่าใช่ ก็มาดูต่อว่าจะสนับสนุนอย่างไรให้ประชาชนมั่นใจ และขอให้พูดเป็นเสียงเดียวกัน ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดคำถามมาเป็นระยะ บางคนก็ว่าหมอไม่ให้กินเพราะไม่มีงานวิจัย ในขณะที่อีกฝ่ายก็บอกว่า กินได้ เป็นสมุนไพรที่ใช้กันมาหลายร้อยปี วันนี้ ยังมีความเห็นที่ไม่ตรงกันในเรื่องของปริมาณการกิน ว่าต้องกี่เม็ด กี่มิลลิกรัม น้ำหนักตัวมีผลไหม บางคนกินต่อเนื่องมาเป็นปี ตั้งแต่โควิดระบาดระลอกแรก แบบนี้สามารถกินได้ไหม และจะสามารถสร้างภูมิได้เหมือนเรากินวิตามินซีหรือเปล่า ตอนนี้ต่างคนต่างพูดเกิดความสับสน ทั้งภาครัฐและบริษัทยา รัฐบาลต้องออกมาเผยแพร่ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

“ปัญหาของไทยอีกอย่างคือ ไม่มีการรวมศูนย์ในการเก็บข้อมูล วันนี้เรามีกลุ่มตัวอย่างจำนวนมหาศาลกับสถานการณ์การแพร่ระบาด ที่ 100 ปี จะเกิดขึ้นสักครั้ง ได้มีการเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ จากสถาบันต่าง ๆ หรือไม่กับผลสัมฤทธิ์ของการใช้ฟ้าทะลายโจร ซึ่งเรื่องแบบนี้รัฐบาลต้องเป็นผู้นำ เพื่อทำให้ได้กลุ่มตัวอย่างที่ใหญ่พอจะใช้เป็นมาตรฐานโลกได้ เราเสียโอกาสทางการวิจัยไปอย่างสิ้นเชิง ในช่วงที่ผ่านมา ส่วนตัวเองเคยคุยกับหมอว่าทำไมถึงไม่ใช้ฟ้าทะลายโจรในการรักษาโรค หมอตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า เพราะไม่มีผลงานวิจัย ดังนั้น จากนี้ไปควรทำอย่างจริงจัง เก็บข้อมูลอย่างละเอียด เอานักสถิติมาเสริมเป็นทีมเก็บข้อมูล ไม่จำเป็นต้องเป็นแพทย์ที่ภารกิจหนักอึ้งอยู่ในขณะนี้ อาจเป็นอาสาสมัคร หรือนักศึกษา ศึกษาวิจัยในกลุ่มพารามิเตอร์เดียวกัน อย่างเช่น ผู้ติดเชื้อในเรือนจำ ก็มีวิถีชีวิต และการกินที่เหมือนกัน ควบคุมปัจจัยแวดล้อมได้ดี ผลการทดสอบก็จะเป็นไปในสภาวะควบคุมตัวแปร และพารามิเตอร์ (parameter) เดียวกัน ทุกสถาบัน นำมาเปรียบเทียบกันได้ สถานการณ์แบบนี้ต้องทำให้เกิดให้ได้ ทำให้เป็นมาตรฐานสากล จะยกระดับการแพทย์และยาไทยได้อีกมโหฬาร” นายวรวุฒิ กล่าว

นายวรวุฒิ กล่าวว่า โอกาสของฟ้าทะลายโจรมาถึงแล้ว ที่จะใช้เป็นยาหลักแล้ว มีการทดสอบวิจัยอย่างเป็นสากล และทำให้เป็นสินค้าส่งออกช่วยประเทศในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ ถ้าเราบอกว่ายาฟ้าทะลายโจร ใช้ได้ผลในผู้ป่วยโควิด ระยะต้น ระยะกลางได้ มีผลวิจัยรองรับ ประเทศไหนก็ต้องอยากซื้อยาเรา ทำไมเราไม่รณรงค์ ให้คนของเราทำเรื่องนี้ให้เป็นสินค้าเศรษฐกิจ ทำรายได้เข้าประเทศ ตอนนี้อะไรก็หารายได้เข้าประเทศยาก นั่นคือโอกาสที่สูญเสียไป ต้องเร่งบูทการวิจัยให้ทั่วโลกยอมรับ ไม่ใช่แค่ฟ้าทะลายโจร แต่ควรทำสมุนไพรอื่น เช่น กระชายขาว ขิง ข่า เครื่องดื่มสู้โควิด ทำให้เป็นสินค้าระดับโลก ทำขิงผงขายทั่วโลก ทุกประเทศก็มีโควิด ถ้าบอกว่า กินสมุนไพรเหล่านี้ สร้างภูมิสู้โควิดได้ ก็ทำวิจัยและพัฒนาเป็นสินค้าส่งออก นี่คือโอกาสที่สูญเสียไป แต่ยังมีเวลาหากรัฐบาลให้การสนับสนุนอย่างจริงจัง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]

“มาริษ” จ่อบินเจนีวา แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี

สวีเดน 24 ส.ค.-“มาริษ” เตรียมบินเจนีวาต่อ แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี-องค์การสิทธิมนุษยชน-กาชาด ย้ำไทยรักสันติ ทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ ฟ้องเขมรใช้ทุ่นระเบิด-โจมตีพลเรือนไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าหลังการเยือนสวีเดนอย่างเป็นทางการแล้วจะเดินทางไปเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการคือ ไปชี้แจงให้กับประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคีให้เข้าใจสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ซึ่งกัมพูชาใช้ยุทธศาสตรฺของการใช้ วัตถุระเบิดสังหารบุคคน ที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และอนุสัญญาออตตาวาและในโอกาสนี้จะพบกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่สืทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหาร การละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ของกัมพูชา รวมทั้งการใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (icrc )ก็ได้ออกมาพูดชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยอย่างมาก และไม่สนับสนุนให้มีการใช้สงครามข่าวสารในการต่อสู้ โดยใช้พลเรือนเป็นตัวกระทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน ซึ่งในโอกาสนี้ตนจะได้พบปะกับประธาน crc พอดี ซึ่งเคยพบกันที่กรุงเทพมหานครแล้ว และทางประธานทราบว่าตนจะมาเจนีวาก็สามารถมาพูดคุยกันต่อได้ ซึ่งจะได้อธิบายทั้ง 2 ประการเหล่านี้เพราะ icrc เป็นองค์กรหลักที่ดูกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งสามองค์กรที่เราวางกลยุทธ์ จะเข้ามาพูดคุย ชี้แจงก็เพื่อยืนยัน ใน ท่าทีบทบาท ของประเทศไทยที่ชัดเจนว่าเราเป็นประเทศ ที่รักสันติ เราต้องการ แก้ไขปัญหาระหว่างกันอย่างสันติวิธี แต่ต้องมีความจริงใจ […]