ทำเนียบ วันนี้ ( 29 มิ.ย.) เลขา สมช. ขอโทษผู้ประกอบการ ออกมาตรการกระทันหัน เผยออกประกาศตี 1 เนื่องจากทำงานอยู่ตลอดเวลา ยอมรับมีการหารือ Home Isolation แต่ต้องวางระบบให้รอบคอบ หวั่นอาการหนักกว่าเดิม เตรียมทบทวนอนุโลมให้ก่อสร้างงานเสี่ยงและเร่งด่วน
พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศปก.ศบค.) ระบุวันนี้ที่ประชุมจะมีการหารือมาตราการเยียวยาแรงงานและผู้ประกอบการ รวมไปถึงมาตราการบางอย่างที่ออกไปแล้วเพื่อผ่อนคลาย อย่างแคมป์ก่อสร้างที่หยุดการดำเนินการแล้วอาจจะมีอันตรายในเชิงโครงสร้างและเกรงว่าจะทำให้สถานพยาบาลที่กำลังเร่งรัดอยู่ล่าช้าออกไป จึงจำเป็นต้องออกมาตรการผ่อนคลายให้
ขณะที่การเยียวยาร้านอาหาร พลเอกณัฐพล ระบุว่าได้มีการหารือเป็นที่เรียบร้อยแล้วและมีมาตราการดูแลแล้วเช่นกัน แต่อาจจะยังไม่ครบตามที่เสนอมา แต่มองว่าครั้งนี้ดูแลได้ครอบคลุมกว่าทุกครั้ง โดยมาตราการเยียวยาจะอยู่ในความรับผิดชอบของศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
ส่วนขที่เชื้อโควิด-19 กระจายไปในพื้นที่ต่างจังหวัดนั้น ยอมรับว่ามีความกังวล แต่ทางกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข ได้คำยืนยันในที่ประชุมว่าทางกระทรวงมหาดไทย จะให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกำกับ เน้นย้ำ ควบคุม ให้ผู้ที่เดินทางไปจากพื้นที่กรุงเทพมหานครเข้ารับการกักกันหรือการคุมไว้สังเกตตามความเหมาะสม ซึ่ง สธ.เองก็จะช่วยการแพร่ระบาดในพื้นที่อีกทั้งจะเป็นผู้ประเมิน สถานการณ์ทุก 15 วัน และจะมีการผ่อนคลายมาตราการต่อไป
ขณะที่โรงพยาบาลในพื้นที่ต่างจังหวัด มีการร้องขอความช่วยเหลือ หลังจากมีการกระจายเชื้อในพื้นที่หรือไม่ พลเอกณัฐพล ยืนยันว่าไม่มีการร้องขอแต่อย่างใด เนื่องจากมีการเตรียมความพร้อมอยู่แล้ว และได้มีการแจ้งเตือนไปยังบุคลากรทางการแพทย์ตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ (26 มิย.) ที่ผ่านมา
ส่วน ศบค. มีการพูดคุยถึงกรณีการรวมตัวยื่นหนังสือเรียกร้องจากผลกระทบต่างๆ ถือเป็นการรวมกลุ่มกันหรือไม่ เลขา สมช.ระบุว่าทุกครั้งที่มาก็มีการรับหนังสือไว้ตลอด ทั้งพนักงานนวดแผนโบราณ กลุ่มศิลปะ การบันเทิง หรือคณะใดที่เข้ามาก็พร้อมรับทั้งหมดยืนยันว่ารับฟังมาโดยตลอด อะไรที่สามารถผ่อนคลายได้ก็ดำเนินการ หากดูแลเยียวยาได้ก็จะให้ ศบศ เป็นผู้พิจารณา เนื่องจากตนอยู่ทั้ง ศบค.และศบศ โดยจะพยายามดูแลทั้ง 2 มิติ
พลเอกณัฐพล ยอมรับว่ามีการหารือในมาตรารักษาตนเองแบบ Home Isolation ในที่ประชุมของสาธารณสุข แต่แนวทางของทั้ง สธ.และ ศบค. คือพยายามดำเนินการคือตั้งโรงบาลสนาม โดยระบุว่าสถานที่และอุปกรณ์มีเพียงพอ แต่สิ่งที่ไม่พอคือบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งการที่ดึงบุคลากรทางการแพทย์จากต่างจังหวัดมาจะทำให้ขาดความพร้อมจึงเป็นที่มาของมาตราการ Home Isolation แต่ย้ำว่าต้องมีมาตรการที่รอบคอบ เนื่องจากหากรักษาตัวที่บ้านอาจมีอาการหนักขึ้น ซึ่งในประชุม สธ.โดย สปสช. ได้ประกาศหลักเกณฑ์ออกมาแล้วเกินครึ่ง แต่ต้องพิจารณาระบบรองรับอย่างรอบคอบ อย่างการประชุม ศบศ.เมื่อวันศุกร์ ที่ผ่านมา ก็ได้มีการประชุมเพื่อร่างระเบียบคำสั่งที่ 25 ต่อในวันเสาร์และให้นายกรัฐมนตรีลงนามในเวลา 21.00 น. และลงราชกฤษฎีกาเพื่อประกาศในเวลา 1.00 น. ของวันอาทิตย์ จึงเป็นสาเหตุที่ทำไมจึงออกคำสั่งในเวลากลางคืนเนื่องจากมีการทำงานกันตลอดเวลา เพื่อให้คำสั่งออกได้เร็วที่สุด และเมื่อพูดถึงปัญญาของผู้ประกอบการร้านอาหาร ศบค. ก็จะถูกตำหนิว่าทำไมถึงออกคำสั่งช้า ทำให้จัดการสินค้าไม่ทัน ส่วนกรณีของแรงงานก่อสร้างก็ถูกตำหนิว่าออกคำสั่งเร็วเกินไปจึงต้องมองหลายๆมุม จึงพยายามออกคำสั่งในเวลาที่เหมาะสม พร้อมขอให้ย้อนดูคำสั่งประกาศที่ 25 ที่มีรายละเอียด ที่ค่อนข้างรัดกุม เนื่องจากมีการหารือจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจึงรีบไม่ได้
ขณะเดียวกันโซเชียลมีการโจมตีของผู้ประกอบการ พลเอกณัฐพล ยืนยันว่ามีการหารือกับผู้ประกอบการก่อสร้างมาโดยตลอดและได้ทำการชี้แจงไปแล้ว แต่อาจมีการสื่อสารที่ไม่ถูก เช่นเดียวกับได้ชี้แจงกับร้านอาหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และทางสมาคมร้านอาหารก็ได้ชี้แจงไปกับกลุ่มผู้ประกอบไปตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งตนก็ขออภัยด้วย ในความที่ทำให้เกิดความเดือดร้อนไปบ้าง แต่ก็ต้องขอความร่วมมือเหมือนกัน แต่ในเมื่อคณาจารย์แพทย์แนวหน้าของประเทศออกมาเสนอแนะ ศบค. ก็ต้องรับฟัง และปรับตามที่เสนอและยอมรับว่าห่วงว่าจะทำให้ประชาชนเดือดร้อน แต่ตนจะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทั้งนี้พลเอกณัฐพล ระบุถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า ศบค.ได้อนุญาตไว้แล้วและไม่ได้มีการยกเลิกการประชุม ส่วนจะมีการประชุมหรือไม่ขึ้นอยู่กับทางสภาไม่เกี่ยวกับ ศบค. .-สำนักข่าวไทย