ทำเนียบรัฐบาล 29 มิ.ย.-มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์เผยแพร่รายงานการพัฒนาอย่างยั่งยืนปี 64 ไทยเป็น 1 ในอาเซียนต่อเนื่องปีที่ 3 ทั้งด้านขจัดยากจน คุณภาพการศึกษา นวัตกรรม โครงสร้างพื้นฐาน ถือเป็นอันดับ 43 จาก 165 ทั่วโลก
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัย Cambridge ได้เผยแพร่รายงานการพัฒนาอย่างยั่งยืนปี 2564 (Sustainable Development Report 2021) ของสหประชาชาติ (UN SDGs) ระบุว่า ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับที่ 43 ของโลกจากทั้งหมด 165 ประเทศทั่วโลก เป็นอันดับ 1 ของอาเซียนต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 แล้ว และเป็นลำดับ 3 ในทวีปเอเชีย ในรายงานการจัดอันดับการพัฒนาอย่างยั่งยืนนี้ ซึ่งรายงานการพัฒนาที่ยั่งยืน “SDG Index” เป็นการประเมินความก้าวหน้าในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 17 ข้อ
“ประเทศไทยมีคะแนนเฉลี่ยรวม 74.19 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเอเชียใต้ที่ 65.7 คะแนน และในรายงานระบุว่าไทยบรรลุเป้าหมายแล้วในหัวข้อ SDG 1 ขจัดความยากจน (No Poverty) ทั้งยังมีเป้าหมาย SDGs ที่มีสัดส่วนของตัวชี้วัดที่บรรลุเป้าหมายแล้ว (Achieved) และมีแนวโน้มจะบรรลุตามเป้าประสงค์ระยะยาว ประกอบด้วย SDG 4 คุณภาพการศึกษา SDG 6 การจัดการน้ำและสุขาภิบาล และ SDG 9 อุตสาหกรรม นวัตกรรม โครงสร้างพื้นฐาน โดยยังมีเป้าหมายที่ยังคงเป็นความท้าทายสูง (สถานะสีแดง) ได้แก่ SDG 2 ขจัดความหิวโหย ,SDG 3 มีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ,SDG 10 ลดความเหลื่อมล้ำ SDG 14 การใช้ประโยชน์จากมหาสมุทรและทรัพยากรทางทะเล และ SDG 15 การใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศน์ทางบก” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
นายอนุชา กล่าวว่า รายงานยังระบุว่า ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ผู้นำประเทศสมาชิกสหประชาชาติทั้ง 193 ประเทศได้รับรองเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนเมื่อปี 2015 ที่รายงานประจำปีแสดงความก้าวหน้าในการดำเนินงานที่ถดถอยในการขับเคลื่อน SDGs เนื่องจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ไม่เพียงก่อให้เกิดภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพระดับโลกเท่านั้น แต่ยังสร้างวิกฤติการพัฒนาที่ยั่งยืนอีกด้วย ซึ่งในรายงานฉบับนี้ ออสเตรเลียได้รับการจัดอันดับที่ 35 มาเลเซียอันดับที่ 65 สิงคโปร์อันดับที่ 76 และอินโดนีเซียลำดับที่ 97.-สำนักข่าวไทย