fbpx

งดเคลื่อนย้าย แรงงานอยู่แคมป์สกัดเชื้อได้

ทำเนียบรัฐบาล 28 มิ.ย.-มท.1 เชื่องดเคลื่อนย้าย กักแรงงานในแคมป์ สกัดเชื้อโควิดกระจายได้ วอนสังคมเข้าใจ โควิดซับซ้อน ไม่ง่าย ยันสื่อสารชัดเจน แต่ทุกมาตรการจะมีคำถามตามมา


พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลแรงงานที่ข่าวว่าเคลื่อนย้ายออกต่างจังหวัดจำนวนมาก ว่า อันดับแรกเรามีนโยบายให้แรงงานอยู่ในแคมป์ ไม่ให้เคลื่อนย้าย ส่วนการเยียวยาจะให้เฉพาะคนที่อยู่ในแคมป์ กรณีเคลื่อนย้ายไปต่างจังหวัดเฉพาะแรงงานไทย ต้องถูกกักตัวที่บ้าน 14 วัน ไม่ออกไปไหน เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดของเชื้ออีก ซึ่งทุกพื้นที่จะเป็นเช่นนี้ กระทรวงมหาดไทยจะกำชับไปในพื้นที่ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และอาสาสมัครประจำหมู่บ้าน (อสม.) จะต้องเข้มงวด ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดการแพร่เชื้อ จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานผลเสียออกมา

“ส่วนที่มีสื่อเผยแพร่ว่ามีแรงงานออกมาซื้อข้าวของ ส่วนนี้ถือเป็นความยากลำบาก เพราะระบบยังไม่มีความพร้อม เนื่องจากเพิ่งจะมีคำสั่งออกมา การดูแลเรื่องการกินอยู่ของแรงงานนั้น วันนี้ได้หารือกัน โดยที่ประชุมศบศ.ให้ทำงานบูรณาการกันระหว่างสมาคมทางด้านอาหารและผู้ประกอบการก่อสร้าง ให้ร้านอาหารต่าง ๆ ทำอาหารไปแจกจ่ายตามแคมป์ก่อสร้างเพื่อแก้ปัญหาทั้ง 2 ด้าน มั่นใจว่าจะสามารถควบคุมได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ปัจจุบันต้องยอมรับว่าที่มีปัญหาคือแคมป์ก่อสร้าง ทั้งในต่างจังหวัด และปริมณฑลมีหลายร้อยแคมป์ ฉะนั้นจะต้องควบคุมให้ได้ หากยังปล่อยให้เกิดการเคลื่อนย้ายจะคุมไม่อยู่และจะทำให้มีปัญหาเรื่องเตียงไม่เพียงพอ จึงต้องหยุดการเคลื่อนที่ทั้งหมด โดยไม่ให้เคลื่อนย้ายไปต่างจังหวัด แต่จะให้อยู่ในแคมป์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว


เมื่อถามว่า จะต้องควบคุมแคมป์คนงานในต่างจังหวัดด้วยหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า จะคุมทั้งหมดในพื้นที่สีแดงและทุกพื้นที่จะต้องเข้มงวด ไม่ให้แรงงานออกจากแคมป์ ถ้าพบว่าออกไปจะต้องถูกกักตัว เชื่อมั่นว่าต่างจังหวัดจะมีความเข้มงวดไม่ให้แรงงานเหล่านี้เข้าไปอยู่พื้นที่ทั้งสิ้น ยืนยันว่าจะไม่ไปแพร่เชื้อในต่างจังหวัด สิ่งที่อยากเน้นคือ เมื่อเขาออกไปจากพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดอยู่ ถ้าเขามีเชื้อและถูกกกักตัว เชื้อก็จะไม่ระบาด

“สื่ออย่าไปลงว่าเมื่อแรงงานที่อาจจะมีเชื้อไปต่างจังหวัด แล้วจะทำให้แดงไปทุกจังหวัด มันไม่ใช่ เพราะต้องดูให้ละเอียด เพราะเราคุ้นเคยกับโควิดมาตั้งแต่ระลอกแรก พอปิดกทม.หมด ประชาชนก็หนีออกไปต่างจังหวัด ยอดผู้ติดเชื้อก็จะขึ้น แต่ไม่แพร่ระบาดในจังหวัดนั้น ๆ นี่คือจุดที่เราเห็นว่าเราน่าจะคุมได้” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า นโยบายขณะนี้ไม่อยากให้มีการเคลื่อนย้ายแรงงาน แรงงานต่างด้าวเราคงจะคุมได้ แต่แรงงานของไทยมีทั้งนอนในแคมป์ และนอนที่บ้าน ถ้าปิดแคมป์ เขาก็อยากกลับบ้าน ซึ่งกลับไปก็ต้องโดนกักตัว ที่ไม่ใช่ลักษณะของ quarantine แต่เป็นลักษณะการกักตัวที่บ้าน เป็นการคุมไว้สำหรับสังเกตอาการ ไปไหนไม่ได้เท่านั้น


เมื่อถามย้ำกรณีการป้องกันแรงงานในบริเวณชายแดนได้กำชับอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราป้องกัน หากลักลอบเข้ามาก็จับ ทั้งนี้ ในการประชุมวันนี้ กระทรวงแรงงานเสนอว่าถ้ามีความจำเป็นต้องใช้แรงงานจะให้เข้ามาอย่างถูกต้อง แต่ต้องคุยกับ 3 ประเทศนั้นด้วย และเมื่อเข้ามาต้องมีมาตรการกักตัว เพื่อแก้ปัญหาการลักลอบเข้ามาอย่างผิดกฎหมายและจะช่วยจัดการการแพร่เชื้อได้ ขณะนี้ในส่วนขอวงกระทรวงมหาดไทยระดมกำลังเจ้าหน้าที่จากทุกส่วน เช่น แคมป์คนงานก็มีทั้งทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง เพราะ 6 จังหวัดมีหลายร้อยแคมป์ ซึ่งต้องช่วยกันหมดทุกหน่วยงาน

“ทุกคนทำงานกันเต็มที่ คิดว่าตึงคือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและแพทย์ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ในพื้นที่สีแดงจะตึง เพราะการสร้างโรงพยาบาลสนามไม่ใช่มีแต่การสร้างเตียงแต่มีบุคลากรสธ.เข้ามาทำงานด้วย ขณะเดียวกันบุคลากรสธ.ต้องป้องกันตัวเองด้วย ส่วนเจ้าหน้าที่ในส่วนอื่นเชื่อว่าระดมได้ แล้วช่วงนี้ให้ทหารมาคุมหน้าแคมป์คนงาน” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

ส่วนความคืบหน้าของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้ฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้วหรือไม่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง แต่จะฉีดได้มากน้อยเพียงใดก็เหมือนกับกลุ่ม 7 โรคเสี่ยงและกลุ่มผู้สูงอายุ ยอมรับว่ายังฉีดไม่ได้หมด เพราะการจะฉีดมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับวัคซีนที่มีอยู่

ส่วนกรณีประชาชนจำนวนมากไม่เข้าใจการทำงานของรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ต้องค่อย ๆ สื่อสาร เพราะโควิดเป็นเรื่องซับซ้อน บางทีสื่อถามตนยังไม่แน่ใจว่าสื่อเข้าใจหมดหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องยาก และยิ่งตั้งคำถามว่ากลัวจะเป็นอย่างนี้กลัวจะเป็นอย่างนั้น ยิ่งทำให้ยุ่งกันไปใหญ่ และเมื่อรัฐบาลทำมาตรการอะไรไปก็จะมีคำถามตามมา

“ยืนยันว่ารัฐบาลสื่อสารชัดเจน ไม่มีปัญหา เพราะที่ผ่านมาก็แก้ตามสถานการณ์ แต่ตอนนี้ปัญหาเกิดจากแคมป์ก่อสร้างติดเชื้อมาก มากเสียจนระบบสาธารณสุขจะรับไม่ได้ ยกตัวอย่างกทม.ป่วยเป็นพัน ๆ คน และคนที่ป่วยทุกคนก็อยากอยู่โรงพยาบาลทั้งนั้น ไม่ว่าจะเขียว เหลืองแดงเขาอยากอยู่ทั้งนั้น พอเราจัดไม่ทัน ต้องรอก็เริ่มมีปัญหาแล้ว ดังนั้น จึงต้องหาวิธีหยุดให้ได้ เพราะถ้ายังเพิ่มวันละพัน แม้จะทำโรงพยาบาลสนามได้ แต่บุคลากรทางการแพทย์ก็มีจำนวนไม่เพียงพอ ดังนั้น แคมป์คนงานจำเป็นจะต้องหยุดก่อน รวมทั้งการชุมนุมจะต้องเข้มงวดด้วยและต้องตรวจเชิงรุก” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว

เมื่อถามย้ำว่า กังวลเรื่องการสื่อสารที่ไม่เข้าใจ ทำให้เกิดการเรียกร้องให้รัฐบาลลาออกหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เรามีหน้าที่สร้างความเข้าใจและอย่านึกว่าเรื่องโควิดเป็นเรื่องที่แก้กันง่าย ๆ ซึ่งไม่ใช่ มันยาก มันซับซ้อน เพราะฉะนั้นทุกคนต้องเข้าใจ ตนไม่คงไม่ต้องยกตัวอย่างของหลายประเทศ ซึ่งเขามีปัญหาทั้งนั้น เช่น วัคซีน การรักษาอาการก็มีปัญหา ประเทศชั้นนำก็ทราบดีว่ามีปัญหา ซึ่งเราก็ต้องแก้ไขปัญหาไป และเราก็อยากให้ทุกคนได้รับความดูแลและอยากให้ทุกคนร่วมมือการป้องกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพ “ยากูซ่า” จ.นนทบุรี

คดีสะเทือนขวัญ พบชิ้นส่วนมือ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ล่าสุดตำรวจจับกุมหนึ่งในผู้ต้องหาได้แล้ว และทราบว่าทั้งผู้ตายและผู้ลงมือฆ่าหั่นศพ เป็นแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น

ชาวบ้านร้องโรงงานเก็บสารเคมีเร่งเยียวยาเหตุไฟไหม้

ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีอุตสาหกรรม จ.ระยอง เรียกร้องโรงงานช่วยเหลือ บอกน้ำสักขวดก็ไม่ได้

แบงก์ชาติ​ส่งหนังสือให้ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำสะดุด

ปลัดคลัง ระบุแบงก์ชาติ​ส่งหนังสือถึง ครม.ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำให้สะดุด ชี้เป็นข้อเสนอเก่า​​ เดินหน้าตามแผนเดิม​ 

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา เริ่มมีสัญญาณที่ดี-การสู้รบเงียบสงบ

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น หลังการสู้รบเงียบสงบเกินกว่า 24 ชั่วโมง คาดมีการเจรจากันของกลุ่มต่อต้านและทางการเมียนมา หยุดยิงชั่วคราวเพื่อลดผลกระทบ