รัฐสภา 21 มิ.ย.-“ราเมศ” ย้ำ ประธานรัฐสภาทำงานยึดรธน-ข้อบังคับ เคร่งครัด สุจริตเป็นกลาง ตรงไปตรงมา อัด “ชูศักดิ์- ชัยธวัช” อย่าโวยวาย คิดทำตามอำเภอใจ หลังเรียกร้องไม่ให้ตีตกร่างแก้รธน.ทั้งฉบับ
นายราเมศ รัตนะเชวง เลขานุการประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณีนายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและนายชัยธวัช ยทตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ขอพิจารณาคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญให้ชัดเจนก่อนตีตกญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับที่ให้ยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ทั้งฉบับว่า ยืนยันว่าการทำหน้าที่ของนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภายึดรัฐธรรมนูญและข้อบังคับอย่างเคร่งครัด เป็นกลาง ตรงไปตรงมา ให้เกียรติและเคารพทุกคน สร้างบรรทัดฐานของรัฐสภา ยึดมั่นหลักนิติธรรม การจะกล่าวหาว่าขัดขวางการแก้รัฐธรรมนูญของประชาชน เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงทั้งสิ้น
“ขอให้นายชูศักดิ์ ย้อนกลับไปดูหลักการรัฐธรรมนูญและข้อบังคับให้ชัด รวมถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2564 ประกอบด้วย ไม่ใช่คิดจะทำตามอำเภอใจตัวเองโดยไม่มีหลัก เพราะข้อเท็จจริงยุติว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช ….แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านกับคณะเป็นผู้เสนอ เป็นร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมให้มีหมวด 15/1 เป็นการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ย่อมมีผลเป็นการยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 อันเป็นการแก้ไขหลักการสำคัญที่ผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญดั้งเดิมต้องการปกป้องคุ้มครองไว้ หากรัฐสภาต้องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องจัดให้ออกเสียงประชามติเสียก่อนว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ เมื่อรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวไม่ใช่ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมรายมาตราตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ประธานรัฐสภาจึงไม่สามารถบรรจุเข้าระเบียบวาระได้” นายราเมศ กล่าว
นายราเมศ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวมีการประชุมคณะกรรมการประสานงานและเสนอความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ประกอบการพิจารณาด้วยเหตุและผล โดยยึดรัฐธรรมนูญและข้อบังคับประกอบด้วยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญด้วย แต่ชัดเจนว่าร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวยังไม่ตกไปตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อ 105 ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม จะตกไปใน 2 กรณีคือ 1 รัฐสภาลงมติไม่รับหลักการ 2. รัฐสภาลงมติไม่เห็นชอบในวาระที่สาม เมื่อร่างยังไม่ตกไป หากต่อไปมีข้อกฎหมายในเรื่องว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ก็เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณากันต่อไป
“ขอให้หยุดการให้ร้ายประธานรัฐสภา การที่พรรคเพื่อไทยใช้ถ้อยคำว่า อย่าทิ้งภาระให้ลูกหลาน ประธานสภาอย่าขัดขวางรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ล้วนแล้วแต่บิดเบือนทั้งสิ้น รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่รับมาตั้งแต้ต้น หากฝ่ายค้านนำเสนอถูกต้องตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับ ไม่มีใครขวางได้แน่นอน ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา” นายเรเมศ กล่าว
นายราเมศ กล่าวว่า ครั้งที่มีกรณีมียื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเรื่องพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนำคณะรัฐมนตรีกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ และศาลมีคำสั่งไม่รับคำร้อง ฝ่ายรัฐบาลบอกว่าเรื่องดังกล่าวยุติแล้ว คำวินิจฉัยผูกพันรัฐสภา ห้ามอภิปราย ประธานรัฐสภาคนที่ชื่อชวน หลีกภัยคนนี้วินิจฉัยว่าเป็นคำสั่งศาล ไม่ใช่คำวินิจฉัย ไม่มีผลผูกพันรัฐสภา
“ฝ่ายค้านสามารถอภิปรายญัตติการอภิปรายทั่วไปตามญัตติที่ผู้นำฝ่ายค้านกับอีก 205 คนเสนอเพื่อสอบถามกรณีดังกล่าว ตอนนั้นทำไมไม่โวยวายบ้างว่าไม่เป็นกลาง หากความจำสั้น พรรคเพื่อไทยไปค้นดูรายงานการประชุมรัฐสภาวันที่ 18 กันยายน 2562 ก็จะพบคำตอบ” นายราเมศ กล่าว.-สำนักข่าวไทย