ทำเนียบ วันนี้ ( 15 มิ.ย.) “วราวุธ” เดือดคลิปยิงฉลามดำ ลั่นพวกหนักแผ่นดิน สั่ง 2 กรมใช้กฎหมายทุกฉบับเอาผิด ถึงที่สุด ทั้งคนล่า-เจ้าของเรือ
กรณีการเผยแพร่คลิปบนโลกโซเชียล มีกลุ่มชายหลายคนใช้เรือสปีดโบ๊ทออกไปตกปลาในทะเล แล้วตกฉลามขึ้นมา จากนั้นมีการใช้อาวุธยิงฉลามที่ว่ายเข้ามาใกล้กับเรือจำนวนหลายนัด ก่อนจะลากขึ้นมาบนเรือ และมีการโพสต์เฟซบุ๊ก ด้วยการลงภาพฉลาม 3 ตัว นอนตายเรียงกันอยู่ ซึ่งเป็นภาพที่สะเทือนใจของผู้ที่ได้เห็นขณะที่สถานีตำรวจน้ำกระบี่ นำกำลังตรวจสอบคาดว่าอยู่ในเขตน่านน้ำของ จังหวัดกระบี่ ระหว่างเกาะพีพี กับเกาะห้า ส่วนผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นกลุ่มชายวัยรุ่นในพื้นที่ตัวเมืองกระบี่
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ว่า ได้เห็นคลิปและอ่านข่าวแล้ว ยอมรับว่ารู้สึกเสียใจ พร้อมกับรู้สึกโมโหและรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น และต้องขอบอกว่าในวันนี้ประเทศไทยกำลังจะโดนสหรัฐแบนสินค้าประมงทุกชนิดอยู่ เพราะว่าเรามีอัตราการตายของสัตว์น้ำหายากมากขึ้นทุกวันๆ และคนจำพวกนี้เป็นคนที่ทำให้ประเทศไทยของเรามีปัญหา คนพวกนี้เป็นคนที่กำลังจะฆ่าระบบการประมงของประเทศไทยด้วยความเห็นแก่ตัว การยิงฉลาม 3 ตัวไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ จากในคลิปที่เห็นฉลามไม่ได้มาจู่โจม หรือมาจ้องทำร้ายเขา และแถมเขาอยู่บนสปีดโบ๊ท ฉลามตัวแค่นั้นจะมาทำอะไรได้ ซึ่งถ้าตัวเขาอยู่ในน้ำแล้ว ไม่มีทางสู้ฉลามกำลังเข้ามาทำร้ายนั้นก็พอมีเหตุผล แต่นี่คุณอยู่บนเรือแล้วคุณก็ยิงไป
“ผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผมขอสัญญาว่าจะใช้กฎหมายทุกฉบับที่อยู่ในอำนาจดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนที่อยู่บนเรือนั้น รวมทั้งเจ้าของเรือด้วย โดยจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะตั้งแต่ผมมารับตำแหน่ง ผมไม่เคยยอมในกรณีอย่างนี้ และคดีเช่นนี้ผมก็จะเอาให้ทุกคนเห็น ว่าประเทศไทยเราเอาจริงกับเรื่องแบบนี้ อย่าง 2 ปีก่อน ผมเคยในประเทศต่างชาติ 2 คนเพราะมาทำร้ายประการังของประเทศไทย แต่วันนี้สิ่งที่ผมเสียใจก็คือคนที่ก่อเหตุครั้งนี้เป็นคนไทยแล้วมาทำลายทรัพยากร มาทำร้ายสัตว์น้ำของคนไทยเราเอง ถ้าเป็นต่างชาติผมจะเนรเทศออกไปแล้ว แต่ผมเสียดายที่พวกคุณไม่ใช่คนต่างชาติ จึงเนรเทศพวกคุณออกจากแผ่นดินไทยไม่ได้ พวกนี้ต้องถือว่าหนักแผ่นดิน” นายวราวุธ กล่าว
นายวราวุธ กล่าวว่า เบื้องต้นเมื่อทราบเรื่องตนได้แจ้งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชแล้ว เพื่อให้ตรวจสอบว่าจุดที่เกิดเหตุนั้นอยู่ในพื้นที่การดูแลของใคร จึงได้กำชับทั้ง 2 กรม ให้ลงไปดูแลเรื่องนี้ทั้งคู่ และขอให้ตรวจสอบด้วยว่ามีกฎหมายฉบับใดสามารถดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้รวมถึงเจ้าของเรือ เช่น มีใบอนุญาตหรือไม่ เข้าพื้นที่โดยถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ และจะเร่งดำเนินการขึ้นบัญชีสัตว์ทะเลหายากอีกหลายชนิด เพื่ออนาคตที่มั่นคงของพี่น้องชาวประมงของไทย และปกป้องความอุดมสมบูรณ์ของทะเลไทยไว้ให้ลูกหลานของเรา.-สำนักข่าวไทย